วันอาทิตย์ที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องย่อ เปรี้ยว ตลาดแตก

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องย่อ "เปรี้ยว ตลาดแตก" สมญานี้ ชาวบ้านอำเภอปลายดง พร้อมใจกันตั้งให้ เปรี้ยว (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) สาวแก่นเก่ง และแกร่งกล้า ที่แม้แต่ชายอกสามศอกยังต้องสยบให้กับความห้าวของเธอ

เมื่อเปรี้ยวต้องเจอกับคู่ปรับหมายเลขหนึ่ง อย่างร้อยตำรวจเอก เชียรฉาย ชนานนท์ (เขตต์ ฐานทัพ) มาเป็นสารวัตรประจำสภอ. ปลายดง แต่สารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่แรกเจอ เพราะเปรี้ยวดันไปออกฤทธิ์กับเชียรฉาย โดยไม่รู้ว่ากำลังต่อกรอยู่กับสารวัตรคนใหม่ จนทั้งคู่พบหน้ากันเมื่อไร ต้องปะทะกันตลอด แม้ว่าจะมี อาสำอาง (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ที่เลี้ยงเปรี้ยวมาแต่แบเบาะคอยห้ามปราม แต่ลับหลังอาสำอาง เปรี้ยวต้องหาทางแกล้งเชียรฉายอย่างเจ็บแสบ

สาเหตุที่เปรี้ยวแก่น กร้าวเกินหญิงได้ขนาดนี้ คงจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูของ พ่ออวน (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) ที่หอบลูกและพาน้องสำอางหลบหนีจากกรุงเทพ มากบดานอยู่ในอำเภอปลายดงตั้งแต่ เปรี้ยวยังแบเบาะ อวนไม่คบค้าสมาคมกับใคร แถมยังสอนหนังสือเปรี้ยวด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้เปรี้ยวไปโรงเรียน ไม่ให้สังคมกับใคร ทำให้เปรี้ยวมีความหวาดระแวง และโหยหาความรักจากแม่

การทำงานของสารวัตรเชียรฉาย ก็มีอุปสรรคจากผู้ทรงอิทธิพล ตัวบ่อนทำลายท้องถิ่นอันดับหนึ่งคือกำนันสาย (โกวิท วัฒนกุล) เจ้าพ่อไม้เถื่อนจอมโหดและ เสี่ยเส็งศักดิ์ (พิพัฒน์พล โกมารทัต) เจ้าของโรงสี โรงเลื่อย นายทุนหน้าเลือดที่ผูกขาดธุรกิจเกือบทั้งอำเภอ ทั้งสองเริ่มต้นแผนด้วยการให้ของกำนัลแพงๆ แต่เสี่ยเส็งมีแผนลึกซึ้งถึงขั้นจับคู่ให้กับ สิริยา (อภิษฎา เครือคงคา) ลูกสาวคนโปรดที่เพิ่งเรียนแฟชั่นดีไซน์จบมาจากฝรั่งเศส สิริยาเองก็เต็มใจนำเสนอ แต่กลับถูกเชียรฉายปฏิเสธ ความสนิทสนมของเขากับสำอาง ยังทำให้ แสน (ณภัทร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา) ลูกชายกำนันสายที่ทั้งหึง ทั้งแค้น เพราะแสนตามจีบสำอางมานาน แต่สำอางไม่เคยมีใจให้

รายต่อมาคือเปรี้ยว ที่ไม่อยากให้อาคบกับศัตรูของเธอ จึงหันหน้ามาปรองดองกันชั่วคราว เพื่อกำจัดเชียรฉายไปให้พ้นหน้าอีกรายหนึ่งที่แอบเสียใจคือ หมู่ปลิว (รวิช ไรวินทร์) ตำรวจม่ายเมียทิ้ง ที่หวังจะได้สำอางมาเป็นยารักษาแผลใจ แต่เมื่อโดนสารวัตรเชียรฉาย ที่หมู่ปลิวนับถือมาตัดหน้า ก็เลยได้แต่น้ำตาตกใน ต่อมาเปรี้ยวหาทางซ่อมสะพานข้ามช่องเขาขาด เส้นทางเก่าแก่ที่ชาวอำเภอปลายดงใช้ติดต่อกับโลกภายนอก ที่กำลังชำรุดทรุดโทรมด้วยตัวเอง โดยติดสินบนแสนว่า ถ้าแสนแอบเอาไม้ของกำนันสายมาให้ซ่อมสะพานได้ เปรี้ยวจะเปิดทางสะดวกให้แสนได้ใกล้ชิดกับสำอาง แสนตกลงทันที โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งหมดอยู่ในสายตาของเชียรฉาย


จนมาถึงกำหนดส่งมอบไม้เถื่อน ในวันทอดกฐินจากคณะของกรุงเทพฯ เชียรฉายเข้าจับกุมเปรี้ยวไว้ได้พร้อมหลักฐาน ขณะกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้น เปี๊ยกกระโดดหนีลงมาทับหมู่ปลิวจนปืนในมือเกิดลั่นขึ้น ทำให้คนขับตกใจเสียงปืนจนรถแฉลบพลิกคว่ำ เชียรฉายกับหมู่ปลิวต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เปรี้ยวที่กำลังโดนคุมตัวก็กลับร่วมเสี่ยงตายพร้อมเชียรฉาย เข้าช่วย ชีวิตทุกคนบนรถออกมาได้อย่างหวุดหวิด

ท่านอธิบดีอังศุธร (ตฤณ เศรษฐโชค) กับคุณทิพย์จันทร์ (มัณฑนา หิมะทองคำ) ภรรยา และบุตรสาวทั้งสองคือ แพทย์หญิงแขฉวี (อธิชนัน ศรีเสวก) กับไขลดา (ปาลิตา โกศลศักดิ์) ที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกขอบคุณ และซาบซึ้งในน้ำใจของสารวัตรเชียรฉาย กับเปรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่คืนนั้น ท่านอธิบดี กับภรรยาและลูกจำเป็นต้องค้างที่วัดเพราะรถเสียหาย ไขลดามีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง รู้สึกหงุดหงิด ตลอด แต่แขฉวีกลับหลงรักทุกอย่าง เชียรฉายพูดคุยกับแขฉวีอย่างถูกคอ ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงเวลาที่จากกัน เชียรฉายก็ชักมั่นใจว่าแขฉวีคือผู้หญิงแบบที่เขาตามหามานานแสนนาน พร้อมชวนให้แขฉวีสมัครมาเป็นแพทย์ประจำอนามัยอำเภอ ชาวบ้านต่างพากันดีใจให้การต้อนรับแพทย์หญิงคนใหม่ เปรี้ยวเองเข้ากับหมอแขได้เป็นอย่างดี เปรี้ยวดีใจที่มีหมอมาประจำอำเภอ หมอแขรู้สึกผูกพันเอ็นดูเปรี้ยวเหมือนน้องสาว เชียรฉายขอให้หมอช่วยอบรมเปรี้ยวให้เป็นผู้หญิงเรียบร้อยขึ้นบ้าง ซึ่งตั้งแต่หมอมาอยู่ เชียรฉายดูกระตือรือร้นขึ้น จนชาวบ้านลือกันว่าคงจะมีข่าวดีระหว่างสารวัตรกับคุณหมอในไม่ช้า แต่ทั้งเชียรฉายและเปรี้ยวกลับเริ่มมาคิดทบทวนความรู้สึกตัวเองกันอีกครั้ง

กระทั่งวันหนึ่งเปรี้ยวช่วยพ่อเก็บหน่อไม้อยู่ในป่า พบกำนันสายและเสี่ยเส็งศักดิ์กำลังร่วมมือกันตัดไม้ทำลายป่า เปรี้ยวโกรธแค้นต้องจัดการให้ได้ เปรี้ยวเลยสั่งเปี๊ยกไปเอากล้องและซื้อฟิล์มมา หมอแขฉวีมาตามเปรี้ยวถึงบ้านด้วยความเป็นห่วง แต่เปรี้ยวไม่อยู่ จึงได้มีโอกาสได้พูดคุยกับสำอาง และต่างก็พูดคุยกันถูกคอ จนเมื่ออวนรู้ว่าพ่อแม่ของหมอแขฉวีชื่อ อธิบดีอังศุธร และคุณทิพย์จันทร์ ทั้งอวนและสำอางต่างตกตะลึง อวนบอกให้หมอแขฉวีกลับไป หมอแอบสงสัยคิดว่าอวนรู้จักพ่อแม่ตนในใจ แต่อวน ปฎิเสธและออกปากไล่ จนเชียรฉายมารับหมอกลับบ้าน

คุณทิพย์จันทร์เฝ้านึกถึงแววตาของเปรี้ยวอยู่ตลอดเวลา จนเธอชวนสามีและไขลดา ไปอำเภอปลายดงอีกครั้งอ้างว่าไปเยี่ยมแขฉวี ต่อมาเชียรฉายได้รับซองเอกสารเป็นรูปคนกำลังตัดไม้ พอจะประมวลได้ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าเกิดขึ้น เชียรฉายมาปรึกษาหมู่ปลิว และคิดว่ารูปนี้อาจเป็นฝีมือของเปรี้ยว เชียรฉายไม่เชื่อว่าเปรี้ยวจะทำสิ่งดีๆ แบบนี้ เปรี้ยวโมโหที่ได้ยินประโยคนี้ จนไม่ยอมพบหน้าเขาหลายวัน หมู่ปลิวบอกว่าสารวัตรยังรู้จักเปรี้ยวน้อยเกินไป ถึงภายนอกจะดูร้าย แต่เปรี้ยวรักปลายดง มาก

ส่วนหมอแขฉวีช่วยง้อและอธิบายเหตุผลจนเปรี้ยวเข้าใจ จึงขอให้เปรี้ยวช่วยพาไปรับพ่อแม่ที่สถานีรถไฟ ท่านอธิบดีและภรรยาแสดงความเอ็นดูเปรี้ยว จนเปรี้ยวรู้สึกอบอุ่นผูกพันธ์ กับครอบครัวของหมอแขฉวีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับ ใครมาก่อน ในขณะที่ไขลดาหงุดหงิดไม่พอใจไปเสียทุกอย่าง เมื่อคุณทิพย์จันทร์ รู้ว่าเปรี้ยวเป็นลูกของอวน จึงแวะมาหาที่บ้าน แต่อวนไม่ยอมคุยและไล่ทิพย์จันทร์กลับไป จนสำอางขอให้อวนพูดความจริงและทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่อวนไม่ยอม คุณทิพย์จันทร์หาโอกาสปรึกษากับท่านอธิบดีเรื่องเปรี้ยว ท่านอธิบดีร้อนรนจะชิงเอาตัวเปรี้ยวกลับมาให้ได้ ทิพย์จันทร์ห้ามว่าอย่าเพิ่งใช้ความรุนแรง และต้องทำความเข้าใจกับแขฉวี ไขลดา ให้รับความจริงว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ

หมอแขฉวีมาแอบได้ยินเข้า เธอจึงบอกความจริงกับพ่อแม่ว่าได้ยินทุกอย่าง และรู้มานานแล้ว แต่ปัญหาคือ กลัวไขลดาจะรับไม่ได้ และที่สำคัญคือ จะต้องหาวิธีให้นายอวนคืนเปรี้ยวมาให้พ่อแม่โดยเร็ว หมอแขฉวีไปเจรจาขอร้องให้อวนคืนเปรี้ยวให้พ่อแม่ แต่อวนไม่ยอม สำอางจึงเล่าเรื่องในอดีตให้แขฉวีฟังจนหมดว่า อวนหลงรักคุณทิพย์จนคลั่ง เมื่อคุณทิพย์แต่งงานมีลูก จึงไปขโมยตัวเด็กคือ เปรี้ยวออกมาเพื่อแก้แค้น ทั้งๆ ที่คุณทิพย์ไม่รู้เรื่องด้วยเลย สำอางต้องยอมตามมาอยู่ที่ปลายดงเพราะสงสารเปรี้ยว กลัวอวนจะเลี้ยงไม่รอด แขฉวีจึงวางแผนปรึกษาเชียรฉาย เพื่อเอาตัวเปรี้ยวกลับไป



ณ แค้มป์คนงานตัดไม้กลางป่า เปรี้ยวถูกเชียรฉายส่งไปดึงดูดความสนใจคนงานเพื่อถ่วงเวลา ให้กำลังตำรวจบุกโอบล้อมเข้าไปทุกด้าน เปรี้ยวถ่วงเวลาไป รอตำรวจบุกไปจนเกือบจะโดนคนงานบุกเข้ารุมทึ้ง เชียรฉายถึงสั่งบุกเหมือนจะถ่วงเวลาแกล้งกัน ในที่สุด ตำรวจจับกุมคนงานลักลอบตัดไม้ได้เกือบยกแก๊ง แต่คนที่หนีไปได้ คือกำนันสาย และเสี่ยเส็งศักดิ์ หัวโจกตัวร้ายที่สุด

คืนนั้น เปรี้ยวเข้ามาได้ยินสำอางคุยกับอวน ขอให้ส่งตัวเปรี้ยวคืนกับพ่อแม่แท้ๆ แต่อวนกับสำอางไม่ตอบเปรี้ยววิ่งหนีออกไปจากบ้าน ส่วนกำนันสาย เสี่ยเส็งศักดิ์ และสิริยาหนีมาหลบซ่อนที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง และหวังจะจัดการกับเปรี้ยว เท่านั้นไม่พอยัง คิดจะลักพาตัวแขฉวีเพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองด้วย ซึ่งเมื่อ แขฉวี ถูกลากตัวไปขังไว้ที่กระท่อมท้ายไร่ แต่โชคยังดีที่เปรี้ยวชิงตัวหมอออกมาได้ แต่เมื่อกลับมาบ้าน ก็ถูกสารวัตรเชียรฉายที่ยังไม่ทันได้ชี้แจงอะไร ต่อว่าเปรี้ยวอย่างรุนแรง ที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน จนเปรี้ยวงอนหนีไป แต่ไขลดากลับหายไปอีกคน

ไขลาดถูกพวกของเสี่ยเส็งศักคิ์กับสิริยาคุกคาม ต่อรองให้เชียรฉาย และแขฉวี ทำตามที่ขบวนการค้าไม้เถื่อนต้องการ เชียรฉายวางแผนบุกชิงตัวประกัน แต่ต้องอาศัยเปรี้ยว จึงต้องตามไปง้อขอร้องให้เปรี้ยวช่วย ที่บ้านกำนัน แสนปรึกษากับเปรี้ยวว่า จะล่อให้ลูกน้องกำนันดื่มน้ำผสมยานอนหลับ แล้วให้เปรี้ยวเข้าไปช่วยตัวประกัน ที่เขาช่วยเปรี้ยวเพราะไม่อยากให้พ่อทำผิดมากไปกว่านี้ เปรี้ยวรับปากว่าจะช่วยเชียร์แสนขาดใจ ทั้งคู่จัดการตามแผน เปรี้ยวเข้าไปช่วยไขลดาออกมา แต่เจอกำนันขวางทางและโดนกำนันยิงที่ขา เปรี้ยวดึงให้ไขลดาวิ่งหนีไป ทั้งที่ตัวเองถูกยิง

จนมาประจันหน้ากับเสี่ยเส็งศักดิ์และสิริยา เปรี้ยวเอาตัวเองบังไขลดา สิริยายุเตี่ยให้ยิงทั้งคู่ ก่อนที่ปืนจะลั่น อวนกระโดดเข้ารับกระสุนแทนตน ก่อนเปรี้ยวจะหมดสติไป... เปรี้ยวฟื้นขึ้นมาในอ้อมอกของคุณทิพย์ สำอางบอกเปรี้ยวว่านี่คือแม่แท้ๆ ของเปรี้ยว เปรี้ยวถามถึงพ่อ แต่อวนได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายของพ่อไปแล้ว เปรี้ยวเสียใจมาก

ที่สถานีรถไฟ สารวัตรเชียรฉาย มาส่งเปรี้ยว พร้อมชาวบ้าน จนรถไฟใกล้จะออก เชียรฉายจึงรวบรวมกำลังใจเข้าไปจับมือบอกเปรี้ยวว่า ให้กลับมาเร็วๆ เพราะที่นี่ (แตะที่หัวใจ) คือเขตสัมปทานของไอ้เปรี้ยวแต่เพียงผู้เดียว กระทั่งหลายเดือนต่อมา สารวัตรเชียรฉายมองสำรวจรอบตลาด ชาวบ้านรีบเร่งปิดร้านหนีอะไรบางอย่าง พ่อแม่รีบดึงลูกเข้าบ้าน ไม่กี่วินาทีตลาดก็เงียบสงัด เชียรฉายรำพึงกับตัวเองว่า “อีเปรี้ยวตลาดแตก”

เสียงเปรี้ยวรับคำดังมาจากข้างหลัง เชียรฉายหันกลับไปเห็นสาวน้อยน่ารักในชุดกระโปรงสวยเก๋สมตัว เชียรฉายตะลึงมองแล้วเดินเข้าไปโอบกอดไว้อย่างหวงแหน เจ้าของสัมปทานหัวใจแต่เพียงผู้เดียวของเขากลับมาแล้ว ชาวบ้านที่หลบอยู่ออกมาไชโยโห่ร้อง ต้อนรับเปรี้ยวกันอย่างครึกครื้น สมกับเป็นการกลับมาของอีเปรี้ยวตลาดแตกที่รักของทุกคน....ติดตามชมละครเรื่อง “เปรี้ยวตลาดแตก”

http://www.asktarot.co.cc/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.digitallife-shop.com/

วันศุกร์ที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องย่อ เจ้าสาวไร่ส้ม

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องย่อ เจ้าสาวไร่ส้ม เมื่อหนุ่มเพลย์บอยมาเจอกับสาวไร่สัม เรื่องราววุ่น ๆ ของเขาและเธอจึงบังเกิดขึ้น มาเลยมาติดตามกันได้เลยในเจ้าสาวไร่ส้ม

การัณย์กรณ์ ศรอภิวัฒน์ (ณัฐรัฐ โมริส - เลอกรอง) ต้องตกใจแทบล้มทั้งยืน เมื่อได้รู้ข้อความในพินัยกรรม ซึ่ง นายศร ศรอภิวัฒน์ (เศรษฐา ศิระฉายา) คหบดีผู้เป็นพ่อได้ทำไว้ ก่อนจะเสียชีวิต ข้อความในพินัยกรรมระบุว่า การัณย์กรณ์จะได้ครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่แบ่งให้เขาได้ ก็ต่อเมื่อได้จดทะเบียนสมรสแต่งงานกับ น.ส. ขวัญล่า นาบุญยืน (พัชรินทร์ จัดกระบวนพล) ผู้จัดการไร่ส้มของพ่อเขา เหตุผลที่นายศรต้องทำพินัยกรรมพิลึกพิลั่นแบบนี้ เพราะความเหลวไหลของการัณย์กรณ์เอง ด้วยเพราะเป็นน้องคนสุดท้องของแฝดพี่สองสาว แสงดาว (ปรารถนา บรรจงสร้าง) และแสงเดือน (ปาริฉัตร ไพรหิรัญ) จึงถูกเอาใจเป็นพิเศษ ทำให้การัณย์กรณ์กลายเป็นคนไม่จริงจังกับอะไรทั้งสิ้น เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวันๆ ทำธุรกิจก็โดนโกง แถมยังติดเล่นพนันบอล จนถูกเจ้าหนี้ตามล่าตัวอีก เท่านั้นไม่พอการัณย์กรณ์ยังโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ ไปทั่ว นายศรจึงตัดสินใจว่า ขวัญล่า คือคนๆ เดียวที่จะดัดนิสัยลูกชายของเขาได้

เพียงเจอหน้ากันครั้งแรก เธอรู้สึกสังเวชในตัวเขา แม้หน้าตาเขาจะหล่อเหลา แต่กลับดูหยิบโหย่ง ปากคอยังเราะร้าย ส่วนการัณย์กรณ์รู้สึกทันทีว่า เขาไม่มีทางจะแต่งงานกับสาวผิวคล้ำ แถมหน้าตาจืดชืดคนนี้ได้แน่ๆ การพบกันครั้งแรก แม้จะทำให้การัณย์กรณ์ไม่ค่อยพอใจนัก แต่เขาก็จำต้องพยายามทำให้ขวัญล่ายอมแต่งงานกับเขา โดยหวังว่าหลังจากจดทะเบียนสมรส เขาจะขอหย่าขาดจากเธอทันที

วันแรกที่การัณย์กรณ์มาที่ไร่ ก็มีปัญหา เพราะเขาถูกให้ไปนอนบ้านริมบึง และเมื่อตื่นขึ้นมาใกล้เที่ยง หิวจนแสบท้อง จึงตัดสินใจเดินออกไปหาก๋วยเตี๋ยวกินที่ถนนใหญ่หน้าไร่ แต่เดินมาถึงกลางทางก็ทนพิษแดดบวกกับความหิวไม่ไหว จึงเป็นลมทรุดลงกับพื้นถนน ระหว่างนั้นรถสองคันก็วิ่งเข้ามาหยุดตรงการัณย์กรณ์ รถคันหนึ่งเป็นของ ปารวาตี (ชาลิสา บุญครองทรัพย์) สาวสวยวัยยี่สิบกว่าๆ ลูกสาวเจ้าของไร่ส้มและรีสอร์ตที่อยู่ติดกับไร่ของคุณศร ส่วนรถอีกคันหนึ่ง เป็นของ สกุลทิพย์ เมอร์เซอร์ (สกาวใจ พูลสวัสดิ์) แม่ม่ายผัวฝรั่ง เพิ่งหย่าขาดกัน และได้แบ่งสมบัติจากผัวมามากจนตั้งตัวได้ ทั้งสองสาวลงมาดูร่างของการัณย์กรณ์ที่แน่นิ่งอยู่กับพื้น

ณ ที่ไร่ส้ม เมื่อขวัญล่ากลับมา ก็พบกับชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง มารอทวงหนี้พนันบอลจากการัณย์กรณ์ ขวัญล่าตามหาการัณย์กรณ์จึงรู้ว่าการัณย์กรณ์หายตัวไป หลังจากเจรจาขอนัดกลุ่มชายฉกรรจ์ให้มาใหม่ในวันหลังแล้ว ขวัญล่าก็ชวน กิตติชนม์ (พิศาล ศรีมั่นคง) นักวิชาการเกษตรที่ไร่ของปารวาตีซึ่งสนิทกับเธอ ออกตามหาจนพบที่บ้านของสกุลทิพย์ พอทั้ง 2 สาว เจอกัน ก็เกิดการโต้เถียงกันยกใหญ่ เพราะรู้ว่าสกุลทิพย์ต้องการอะไรจากการัณย์กรณ์ วันต่อมา ขวัญล่าเอาร่างสัญญาจ้างงานมาให้การัณย์กรณ์เซ็น เธอยินดีจะเอาเงินของไร่กว่าสองแสนบาทใช้หนี้พนันบอลให้เขา แต่เขาจะต้องยอมทำงานเป็นลูกจ้างในไร่ การัณย์กรณ์จำ ต้องยอมเซ็นสัญญา

ขวัญล่าเริ่มบังคับให้การัณย์กรณ์ออกทำงานในไร่ให้สมกับค่าจ้าง แต่ด้วยการที่เป็นหนุ่มผิวบาง เขาจึงทำงานได้เพียงนิดๆหน่อยๆ แล้วก็ต้องหลบเข้าร่ม ทำให้ขวัญล่าหงุดหงิด และเหมือนจะหมดหวังที่จะเปลี่ยนแปลงการัณย์กรณ์ โชคดีที่ คมสันต์ (ณัฐนันท์ จันทรวิโรจน์) เพื่อนสนิทของการัณย์กรณ์ ทนายประจำตระกูลให้บ้านของการัณย์กรณ์ ช่วยเจรจาขอร้องขวัญล่าให้อดทนกับเพื่อนเขา และเห็นแก่คุณศร ขวัญล่าตั้งใจจะเริ่มต้นใหม่ดีๆ กับการัณย์กรณ์ แต่อุปสรรคคนใหม่ก็ตามมาราวี แคทรีน่า (ธนิดา กาณจนวัฒน์) ดารานางร้ายในละคร แฟนเก่าของ ณัฐีร์ (นพเก้า โกเจริญกิจ) ที่ร่วมหุ้นลงทุนเปิดผับกับการัณย์กรณ์ ที่ตอนนี้แคทหันมาสนใจการัณย์กรณ์ โดยหวังจะปล่อยให้การัณย์กรณ์เป็นอิสระ ด้วยการแกล้งทำเป็นว่าเธอท้องกับการัณย์กรณ์

แคทขอให้ขวัญล่าเห็นแก่เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะต้องลำบาก ขวัญล่านึกสงสารเด็ก จนเกือบจะจดทะเบียนกับการัณย์กรณ์ แผนการของแคทเกือบจะสำเร็จ แต่โชคดีที่ วรวีย์ (ชนิสาร์ บังคมเนตร) ลูกสาวของป้าสาย ปิดเทอมกลับมาพักผ่อนที่บ้าน ล่วงรู้ความลับนี้ แล้วเปิดโปงให้ขวัญล่ารู้ความจริง ต่อมา การัณย์กรณ์ถูกเคี่ยวเข็ญให้ออกไปทำงานตัดหญ้าในไร่ แต่เขาก็ยังคงแอบงีบเหมือนเดิม ขวัญล่ามาพบเข้าก็ต่อว่าและสบประมาทการัณย์กรณ์อย่างรุนแรง ทั้งคู่จึงแก้เผ็ดกันไป-มา โดยการัณย์กรณ์ชวน ก่อลาภ (วิชัย จงประสิทธิ์พร) เด็กคนงาน ขับรถของไร่หนีไปเที่ยวน้ำตก

ขวัญล่าเอาคืนด้วยการแจ้งตำรวจว่าการัณย์กรณ์ขโมยรถ การัณย์กรณ์ถูกตำรวจจับไปนอนเล่นในห้องขังเลยทีเดียว.... เวลาผ่านไปการัณย์กรณ์เริ่มเข้าใจในตัวขวัญล่ามากขึ้น แม้เขาจะทำตัวแย่ขนาดไหน แต่เธอก็ยังเป็นห่วงเขา โดยเฉพาะช่วงที่การัณย์กรณ์ป่วย แต่แคทโทรกลับไปรายงานแสงดาวกับแสงเดือนว่า การัณย์กรณ์ป่วยหนัก แสงดาวกับแสงเดือนจึงบังคับให้คมสันต์ ไปพาตัวการัณย์กรณ์กลับกรุงเทพฯ

เขาจึงจำเป็นต้องกลับไป แต่ก็ให้สัญญาขวัญล่าว่า เขาจะกลับมาช่วยเก็บส้มเมื่อถึงเวลา แสงดาวกับแสงเดือนไม่ยอมให้การัณย์กรณ์กลับไปอยู่ที่ไร่อีก เธอพร้อมจะชดใช้เงินสองแสนให้ขวัญล่า ส่วนเรื่องพินัยกรรม ก็จะให้ทนายพิสูจน์ว่าพ่อของเธอ มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ขณะทำพินัยกรรม แต่ก็ไม่สำเร็จ การัณย์กรณ์กลับมาที่ไร่ ทันเวลาเริ่มเก็บผลส้ม คราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นคนละคน แม้จะต้องทำงานกลางแดด แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่บ่นสักคำ

ขวัญล่าทึ่งในความเปลี่ยนแปลงนี้ และกำลังจะรู้สึกดี แต่ไม่ทันไร ปารวาตีก็แวะมาเยี่ยมที่ไร่ และคิดจะจับการัณย์กรณ์เพื่อหวังนำเงินมาใช้หนี้แทนพ่อตน แต่การัณย์กรณ์ก็ไม่เล่นด้วย กลับผลักให้คมสันต์แทน ความจริงแล้ว ปารวาตีก็รู้สึกดีกับคมสันต์ แต่เพราะถูกแม่สั่งให้จับการัณย์กรณ์ให้ได้นั่นเอง อุปสรรคของทั้งคู่ยังไม่หมด เมื่อสกุลทิพย์ ปราณี (แม่ของปารวาตี) และแคท ต่างก็เห็นพฤติกรรมของการัณย์กรณ์ ก็ต้องการกำจัดขวัญล่า ความสัมพันธ์ของการัณย์กรณ์กับขวัญล่าดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แคทและสกุลทิพย์ก็ยังเทียวมากวนอารมณ์ขวัญล่าอยู่ตลอด แต่ก็จะถูกขวัญล่าตอกหน้ากลับไปทุกครั้ง โดยมีการัณย์กรณ์คอยเชียร์ ยิ่งทำให้ทั้งสองสาวแค้นมากขึ้น

วันหนึ่งพ่อของขวัญล่าป่วยหนัก และคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน พ่อขวัญล่าจึงขอให้ตามหาแม่ให้เจอ ซึ่งแม่ของขวัญล่าก็คือ ป้าสมจิตร แม่บ้านที่อยู่ดูแลบ้านให้การัณย์กรณ์นั่นเอง คมสันต์เอาเรื่องนี้ไปคุยกับป้าสมจิตร แต่ป้าสมจิตรปฏิเสธ เธอทิ้งลูกมาเป็นสิบปี อายที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคน คมสันต์จึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ แต่เหมือนฟ้าบันดาล ป้าสมจิตรเกิดอุบัติเหตุ การัณย์กรณ์จึงต้องกลับไปดูแล เมื่อป้าสมจิตรรู้ว่าพ่อของขวัญล่าอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน เธอจึงยอมบอกความจริง แต่สมจิตรก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน

กระทั่งถึงงานเลี้ยงวันเกิดและงานปีใหม่ของไร่ ทั้งคู่ได้ตกเป็นของกันและกัน จนเช้าวันรุ่งขึ้น ขวัญล่าตัดสินใจจะปลดปล่อยให้การัณย์กรณ์เป็นอิสระ เธอจะยอมจดทะเบียนกับเขา ซึ่งพ่อของขวัญล่า ก็ฝากขวัญล่ากับเขา การัณย์กรณ์รับปากว่าเขาจะดูแลขวัญล่าให้ดีที่สุด แต่เขาขอกลับกรุงเทพฯไปทำธุระอีกเรื่องหนึ่ง แล้วจะกลับมาแต่งงานกับขวัญล่า ข่าวเรื่องการแต่งงานของทั้งคู่เป็นที่ล่ำลือไปทั่ว สร้างความไม่พอใจให้กับแคทและสกุลทิพย์มาก สองคนหันมาจับมือกัน หาทางกำจัดขวัญล่า ทั้งสองได้ไปว่าจ้างวัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกับขวัญล่าและยังเจ็บแค้น ให้ไปทำร้ายขวัญล่าพอให้ได้อาย แต่อย่าถึงกับฆ่าแกง

คืนหนึ่ง ระหว่างที่ขวัญล่ากลับจากไปทำธุระที่ตัวจังหวัด วัยรุ่นสองคนก็ออกติดตามขวัญล่า เมื่อมาถึงกลางทาง วัยรุ่นก็ขับมอเตอร์ไซค์เข้าขนาบข้างรถขวัญล่า แถมเธอไม่ได้เอาปืนมาอีก กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งไร่ส้มปั่นป่วนกันไปหมด เพราะขวัญล่าไม่ได้กลับมาที่ไร่ การัณย์กรณ์กลับมาถึง พอรู้เรื่องก็ยิ่งร้อนรน แต่แล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากขวัญล่า บอกว่าเธออยู่ที่โรงพัก ทุกคนประหลาดใจ แต่เหตุการณ์ที่แท้จริง คือเธอสามารถจัดการกับกลุ่มวัยรุ่นและจับมัดไว้ แต่เธอก็สลบไป จนชาวบ้านมาพบเข้า การัณย์กรณ์ดีใจมากที่ขวัญล่าไม่เป็นอะไร เขารู้สึกผิดที่ทิ้งเธอไป เพราะเขาไปเอาของขวัญแต่งงานมาให้ นั่นคือ ป้าสมจิตรนั่นเอง ทันทีที่ขวัญล่าเห็น น้ำตาก็พรั่งพรูออกมา แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปกอดแม่ของเธอทันที ขวัญล่าพาแม่ไปพบพ่อ ทั้งคู่ต่างให้อโหสิกรรมแก่กัน

ไม่นาน พ่อของขวัญล่าก็เสียชีวิตลง งานแต่งงานของการัณย์กรณ์ถูกจัดขึ้น เป็นงานแต่งงานที่เป็นตำนานของชาวไร่ส้มเลยทีเดียว คมสันต์และปารวาตีก็ได้ลงเอยกัน สองสาวนางร้าย แคท และสกุลทิพย์ หลังจากถูกซัดทอดจากแก๊งวัยรุ่นว่าทั้งสองเป็นผู้จ้างวาน ตำรวจก็เข้าจับกุมและดำเนินคดีกับทั้งสอง ไร่ส้มหวานหวานของการันต์กรณ์และขวัญล่า ได้รับการพัฒนาปรับปรุงต่อไป มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมให้เป็นรีสอร์ทแบบโฮมเสตย์ พร้อมกับทำแปลงสาธิตไร่นาสวนผสม กลายเป็นศูนย์อบรมย่อยๆของจังหวัด แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่มาพักที่นี่ เพราะอยากจะได้เจอ หนุ่มเพลย์บอยกับสาวชาวไร่มากกว่า ติดตามชมละครเรื่อง “เจ้าสาวไร่ส้ม”

http://www.asktarot.co.cc/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.digitallife-shop.com/

วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

แจกฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้-เรื่อง ย่อสามหัวใจ


แจกฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่อง ย่อสามหัวใจ ละครแนวดราม่า เมื่อความรักของชายสามพี่น้องกับหญิงสาวคนหนึ่ง ท่ามกลางสังคมที่แก่งแย่งเอาเปรียบและคดโกง เธอจะเลือกใคร ก็ต้องมาลุ้นกันแล้ว

โฉม เป็นนักศึกษาพยาบาลปีสุดท้าย ต้องไปอยู่หอพักเพื่อหลีกเลี่ยง นายกำพล พ่อบุญธรรมที่ติดการพนัน และพยายามจะข่มขืนเธอ ส่วนคุณอารีย์แม่ ซึ่งรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม คุณอารีย์สุขภาพไม่ค่อยดีโฉมจึงหวังว่าเรียนจบจะได้มารักษาพยาบาล แต่แล้วคุณอารีย์ก็เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุ โฉมต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยงใจบาป

ชัช เป็นนักเรียนโรงเรียนช่างกล หลังจากรับทำงานพิเศษจากอู่รถ และกำลังกลับบ้านพอดี พบโฉมวิ่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกมาจากบ้าน ชัชจึงช่วยโฉมพาซ้อนมอไซด์หนีไปต่อหน้านายกำพล ชัชจึงพาโฉมไปไว้ที่บ้านแม่ชื่น เช้าวันรุ่งขึ้นโฉมแอบเห็นผู้ชายสองคนนั่งกินข้าวกับแม่ชื่นอยู่ จึงถามชัชว่าใคร ชัชเลยบอกว่าเป็นพี่ชายคนแรกชื่อ ชาญ เพิ่งสอบเป็นทนายได้ ส่วนคนรองเป็นนักมวยชื่อ ชาย

ขณะที่นายกำพลกำลังเปิดบ่อนอยู่ที่บ้าน ชัชจึงอาสาไปเอาเสื้อผ้าให้ที่บ้าน พอดีตำรวจเข้ามาพอดีชัชจึงแต่งเป็นหญิง จึงรอดจากตำรวจมาได้ วันต่อมาแม่ชื่นกำลังทำขนมไทยอยู่เกิดน้ำร้อนลวก โฉมเห็นจึงเข้าไปช่วย แล้วโฉมจึงเล่าเรื่องของตนให้แม่ชื่นฟัง แม่ชื่นจึงให้โฉมช่วยขายขนมหน้าบ้านแทน ชายพี่ชายของชัชกำลังซ้อมมวยอย่างหนักกับครูแน่เป็นครูมวย และแล้ว พิภพ ทนายคนหนึ่งก็นำหนังสือมายื่นต่อครูแนบว่าที่ดินจะถูกยึด ครูแนบจึงของผ่อนผันไปก่อน ให้ผ่านพ้นชกมวยไปก่อน และแล้ววันชกมวยก็มาถึง ชายชนะน็อกจึงนำเงินมาต่อดอกที่ดินให้ครูแนบได้สำเร็จ

แม่ชื่นบอกใครต่อใครว่า โฉมเป็นหลานสาวที่มาจากต่างจังหวัด เพื่อที่จะมาเรียน พยาบาล จึงมี เอม ซึ่งเป็นทอมลูกสาว คุณอิ่ม กระเทยเจ้าของเกสท์เฮาส์ริมน้ำมาเฝ้าจีบโฉมทุกวัน เมื่อนายกำพลรู้ที่อยู่โฉม จึงนำตำรวจไปจับชัช แต่ชาญรู้กฎหมายจึงช่วยชัชไว้ได้ นายพิภพเห็นชาญมีความรู้ความสามารถจึงชวนชาญไปทำงานด้วยกัน จึงพาชาญไปแนะนำให้กับ คุณนายพวงแก้มและลูกสาวชื่อ พิมพรรณ


เมื่อชาญว่าความชนะคดีมรดก ทำให้สำนักงานได้รับส่วนแบ่งจากคดี พิมพรรณจึงซื้อรถใหม่ชาญขับ แม่ชื่นเลยบอกให้ไปรับไปส่งโฉมแทนที่ชัช ทำให้ชัชรู้สึกเจ็บปวดมาก ชัชจึงไปแข่งเต้นบีบอยจนได้รางงวัล จึงเอาเงินไปให้โฉม แต่โฉมกับเอาเงินไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้า แล้วชัชพาโฉมไปเที่ยวงานในค่ำวันนั้นอย่างมีความสุข ทำให้ชาญไปรับโฉมที่โรงเรียนไม่เจอ และแล้วก็เกิดเรื่องเมื่อโฉมถูกลวนลาม ชัชถูกโดนรุม พอดีที่ชาญมาช่วยได้ทันและพาโฉมมาส่งบ้าน ส่วนชัชนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีเอมดูแลแล้ว

ชาญถือโอกาสมอมเหล้าโฉม แล้วพาเข้าม่านรูด พอดีเป็นเวลาที่ชัชกับเอมอาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลพอดี จึงเข้ามาช่วยโฉมทันเวลา ชัชโกรธชาญมากจึงจะพาโฉมหนี แต่แม่ชื่นดันมาล้มหัวฟาดพื้นเสียก่อน โฉมจึงต้องคอยดูแลแม่ชื่น และแล้วการชกครั้งสำคัญที่มีการเดิมพันเป็นที่ดินของครูแนบ แต่ก่อนค่ำก่อนวันชกชายได้เห็นชาญมอบแหวนให้โฉม และโฉมก็รับแหวนจากชาญด้วยความยินดี ทำให้ชาญไม่มีกำลังใจในการชก

จึงถูกแชมป์จากเมืองกรุงถลุงจนยับเยิน ชายไม่มีหน้ากลับไปพบใคร ครูแนบจึงชวนชายไปอยู่ด้วยกันที่ ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับลูกสาวครูเนบที่เป็นใบ้ชื่อ นันทา ที่เมืองฝาง ครูแนบและนันทาได้ไปทำงานที่สวนดอกไม้ของป้าเนียรน้องสาวครูแนบแล้ว ชายก็ได้ไปทำงานที่สวนส้มธนาธร ของพ่อเลี้ยง ธนาธร เพื่อนเก่าของครูมีลุกสาวชื่อ คุณทิพยา ซึ่งเป็นภรรยาของ ศักดา ชายรู้มาว่าคุณทิพยาเป็นน้องสาวของเทพฤทธิ์เจ้าของค่ายมวยใหญ่ ชายจึงมีโอกาสได้ขึ้นชกอีกครั้งแล้วก็ชนะ ทำให้ชายได้ความนิยมกลับคืนมา

ชายจึงกลับมาบ้านท่ามกลางความยินดีของทุกคน และเมื่อรู้ว่าโฉมไม่ได้รับหมั้นกับชาญ ชายจึงใกล้ชิดกับโฉมอย่างคนรัก ชาญเห็นภาพบาดตาจึงหนีไปกินเหล้า แล้วถูกพิมพรรณมอมเหล้าและยั่วยวนจนได้ชาญ เป็นสามี และย้ายมาอยู่กับเธอที่บ้านสวน และเทพฤทธิ์กับนายบัชญาก็ได้จัดมวยขึ้นอีก ครั้งเพื่อที่จะให้สิงหราชแก้มือ แล้วชายก็โดนวางยาจึงทำให้แพ้ในครั้งนี้ พอชัชได้รู้ความจริงจึงบุกบ้านไปทำร้ายศักดิ์ดา จึงถูกนายศักดิ์ดายิงตาย แม่ชื่นเสียใจล้มป่วยลงด้วยโรคหัวใจอย่างรุนแรง

คุณทิพยาพยายามหย่าขาดจากศักดิ์ดา ศักดิ์ดาจึงเรียกร้องเงิน 80 ล้านและพยายามฆ่าคุณทิพยา แต่คุนทิพยาก็รอดมาได้ แต่อัมพาตไปทั้งตัว ส่วนพิมพรรณก็มาเป็นชู้กับศักดิ์ดา ต่อมาพิมพรรณรู้ว่าศักดิ์ดาไม่จริงใจ แล้วกินเหล้าเมามายเหมือนคนเสียสติ พ่อเลี้ยงจึงจ้างพิภพฟ้องนายศักดิ์ดาที่วางยาชายตอนชกมวย พี่ชายของคุณทิพยาทนเห็นน้องสาวลำบากไม่ไหว จึงให้ชายไปช่วยน้องออกมา คุณทิพยาจึงได้ยิงนายศักดิ์ดาตาย ชายเห็นจึงรีบคว้าปืนมามาถือไว้ ขณะที่ตำรวจมาเห็นพอดี ชายถูกจับตัวถูกตัดสินประหารชีวิต แม่ชื่นรู้ข่าวจึงช็อคตาย ชาญตัดสินใจยื่นอุทรณ์สู้คดีให้ชาย คุณทิพยาสารภาพเองว่าตนเป็นคนยิงนายศักดิ์ตายเอง และเปิดโปงความชั่วอะไรบ้าง โดยมีนายกำพลเป็นพยานหักหลังนายบัญชา ศาลเลยตัดสิ้นสั่งจำคุกชายแค่ 2 ปี ฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกาย ตำรวจจับนายบัญชาในความผิดหลายอย่าง นายพิภพสำนึกผิดเลยฆ่าตัวตาย ส่วนชาญก็ถูกพิมพรรณยิงตาย

หนึ่งปีต่อมา ชายได้รับอภัยโทษกลับมาที่บ้าน พบว่าบ้านได้รับเป็น ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กทั้งหลายต่างเรียกโฉมว่าแม่ และโฉมยังคงคอยชายอยู่เสมอ แม้เธอจะเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มี สามหัวใจ

รายชื่อนักแสดงนำในละคร สามหัวใจ
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ รับทเป็น ชาย ในละคร สามหัวใจ
ณปภา ตันตระกูล รับทเป็น โฉม ในละคร สามหัวใจ
อเล็กซ์ เรนเดลล์ รับทเป็น ชัช ในละคร สามหัวใจ
วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย รับทเป็น ชาญ ในละคร สามหัวใจ
เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ รับทเป็น ทิพยา ในละคร สามหัวใจ
ชาลิสา บุญครองทรัพย์ รับทเป็น พิมพรรณ ในละคร สามหัวใจ


http://www.asktarot.co.cc/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.digitallife-shop.com/

แจก ฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้-เรื่องย่อ ด้วยแรงอธิษฐาน

แจก ฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี
-เรื่องย่อ ด้วยแรงอธิษฐาน ก่อนสิ้นลม เธอ อธิษฐานเพื่อให้ได้เกิดมาเพื่อแก้แค้น เขา แต่เขา มีชีวิตอยู่เพื่อรัก และรอเธอคนเดียว ความรัก ความแค้น ข้ามเวลามาพบกันในด้วยแรงอธิษฐาน

วรดา ลูกสาวของวารี ภรรยาบ่าวของนายพลประพจน์ หลบออกมาจากงานเลี้ยงวันเกิดของผาณิต ลูกสาวคุณหญิงผกา ภรรยาแต่งของประพจน์ คุณหญิงผกาและผาณิตไม่เคยนับญาติกับวรดา วารีสอนให้วรดาต้องอดทนทุกครั้ง เมื่อต้องฟังคำพูดดูถูกของคุณหญิงผกา วรดานั่งอ่านเจนแอร์ นวนิยายเล่มโปรดในสวนใกล้ต้นปีบ กฤตย์เห็นวรดาครั้งแรกก็ชอบทันที กฤตย์ชวนวรดาคุยและสัญญาว่าจะเอาหนังสือนิยายมาให้ วรดาขอบคุณและมีความสุขมาก


ครอบครัวของเกื้อกับสายพิณมีลูกสามคน คือเกตุมณี พี่สาวคนโต กฤตย์ ลูกชายคนเดียวในบ้าน และแกมแก้ว ลูกคนเล็กที่เอาแต่ใจตัวเองมาก เกื้อมีเชื้อสายจีน เขาย้ายมาอยู่ข้างบ้านประพจน์ คุณหญิงผกาไม่ชื่นชมมากนัก แต่ผาณิตกลับชอบกฤตย์ ผาณิตเป็นคนหัวอ่อนขี้กลัว จึงสนิทกับแกมแก้วที่มีนิสัยกระด้าง ชอบเอาชนะ ผาณิตแอบชอบ กฤตย์ ขณะที่แกมแก้วแอบชอบปิติ ซึ่งเป็นนายทหารผู้ช่วยประพจน์ ปิติเป็นสุภาพบุรุษ จึงมักไปส่งผาณิตและแกมแก้วซื้อของเป็นประจำ แกมแก้วไม่ชอบวรดาเพราะรู้ว่าปิติชอบวรดา กฤตย์ชวนวรดาไปเดินเล่นในสวนที่บ้านกฤตย์ โดยมุดกำแพงผุที่อยู่ระหว่างบ้านกฤตย์ และบ้านวรดา วรดาถามเรื่องหลุมหลบภัยในบ้านกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ทั้งสองคนจึงช่วยกันหาแล้วลงไปในหลุมนั้นด้วยกัน ก่อนกลับบ้าน กฤตย์ขอสัญญาที่จะเจอวรดาอีกแต่วรดาไม่รับปาก ปิติแอบไปหาวรดาที่สวนหลังบ้าน ปรากฏว่า เขาเห็นวรดาอยู่กับกฤตย์ ปิติเสียใจมาก จนขับรถไปชนกับรถเกตุมณี ปิติกำลังโมโหจึงพูดจาไม่ดีกับเกตุมณี เมื่อนึกได้ปิติจึงไปขอโทษเกตุมณี

วันหนึ่งแม่ของปิติไปตลาดจึงได้เจอกับเกตุมณี ทั้งคู่ถูกชะตากัน แม่ของปิติเชียร์ให้ปิติจีบเกตุมณี แกมแก้วมาหาผาณิตที่บ้านจึงเห็นว่า วรดายืนคุยกับคนสวน ทั้งสองหาว่าวรดาร่าน จึงไปฟ้องประพจน์กับคุณหญิงผกา แต่เมื่อมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้นกลับเป็นกฤตย์ กฤตย์ยอมรับผิดทุกอย่างพร้อมทั้งขอให้เกื้อมาสู่ขอวรดาให้เขา เกตุมณีเล่าเรื่องที่กฤตย์จะแต่งงานกับวรดาให้ปิติฟัง เธอจึงได้รู้ว่าปิติเคยรักวรดา รวมถึงแกมแก้วก็หลงรักปิติเช่นกัน ทำให้เกตุมณีคิดตัดใจ แต่ปิติตามง้อและบอกรักเกตุมณี ในที่สุดเกตุมณีก็ยอมแต่งงานกับปิติ เมื่อแก้มแก้วรู้เธอรับไม่ได้ และหาว่าเกตุมณีแย่งปิติไป ปิติกับเกตุมณีจึงตัดสินใจย้ายไปอยู่เพชรบูรณ์

ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องในสวน วรดาไม่ได้เจอกฤตย์เลย เพราะถูกกีดกันจากคุณหญิงผกา แกมแก้ว และผาณิต วรดาทำงานหนักจนไม่สบาย กฤตย์อยากพูดกับวรดาเมื่อเจอหน้ากัน แต่ทุกอย่างแย่ลง คุณหญิงผกาพูดให้กฤตย์คิดว่าวรดาท้อง กฤตย์ไม่อยากเชื่อ วรดาเข้าใจว่ากฤตย์หันไปชอบผาณิต ทั้งสองเข้าใจผิดกัน และวันสุดท้ายที่เจอกัน กฤตย์นัดวรดาไปที่สวนหลังบ้าน วรดารีบทำงานเพื่อไปตาม นัด เมื่อเธอไปถึงกลับไม่พบกฤตย์ แต่โดนคนเอาไม้มาตีคอ วรดาคิดแค่ว่ากฤตย์ทำร้ายเธอ ที่สำคัญเขาจับเธอไปขังที่หลุมหลบภัย จนวรดาขาดอาหาร ก่อนตายเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน ขอกลับมาแก้แค้นคนที่ทำให้เธอต้องเจ็บจนตาย

มนทิรากับนิกรมีลูกสาวชื่อนัทธมน เด็กสาวเกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่สามารถบังคับสิ่งของได้ คืนใดที่นัทธมนฝันร้าย สิ่งรอบตัวของเธอจะลอยขึ้น จนทำให้มนทิรากับนิกรตกใจและเป็นห่วงนัทธมน แต่ทั้งสองยังไม่พานัทธมนไปหาหมอเพราะยังเด็กอยู่ วันหนึ่งมนทิราพานัทธมนวัย ขวบเศษไปใส่บาตรกับพระธุดงค์รูปหนึ่ง พระรูปนี้เตือนให้มนทิราเลี้ยงนัทธมนให้ดี ให้สอนเรื่องการให้อภัยเพื่ออนาคตของนัทธมน แม้นัทธมนจะโตขึ้นแต่อาการฝันร้ายยังมีเหมือนเดิม มนทิราจึงคอยระวังไม่ให้นัทธมนกลัว และสอนนัทธมนให้อโหสิ


แต่ยิ่งโตขึ้น นัทธมนเริ่มไม่เชื่อฟังจนมนทิราหนักใจ เมื่อนัทธมนเข้าโรงเรียน เธอไม่ชอบเพื่อนคนหนึ่งชื่อติสรณ์ หรือเต้ย ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองใหญ่ ติสรณ์ชอบกระตุกผมเพื่อนผู้หญิง วันหนึ่งติสรณ์กระตุกผมนัทธมน ทำให้เธอโกรธและใช้พลังพิเศษ จนติสรณ์ได้รับบาดเจ็บมากกว่านัทธมนหลายเท่า มนทิรารู้ว่านัทธมนเป็นคนทำ เธอให้นัทธมนสาบานว่าจะไม่ทำอีก แต่นัทธมนไม่ยอม ทำให้แม่ลูกทะเลาะกัน นิกรเกิดอุบัติเหตุรถชนตาย นัทธมนรู้ล่วงหน้า จึงรีบกลับมาอยู่เป็นเพื่อนมนทิรา ก่อนที่เพื่อนร่วมงานของ นิกรจะโทรมาบอกว่านิกรเสียแล้ว หลังจบมัธยมสาม นัทธมนบอกมนทิราว่า จะเรียนต่อเลขานุการ โดยไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริงว่า มีอะไรบางอย่างดึงดูดให้เธอต้องไปเรียนที่นี่

มนทิราห้ามไม่ได้จึงปล่อยไป แม้แต่ติสรณ์ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของนัทธมน ก็เสียดายความรู้ของ นัทธมนแทน วันแรกของการเข้าเรียน นัทธมนได้เพื่อนใหม่ชื่อ กลิกาหรือถุงแป้ง ลูกของเกตุมณีกับปิติ และนัทธมนก็ได้รู้จักกฤตย์ ซึ่งเป็นน้าชายของกลิกา นัทธมนรู้ทันทีว่าเป็นเขาที่เธอต้องแก้แค้นนัทธมนนั่งอ่านเจนแอร์ ทำให้กลิกางงที่นัทธมนอ่านหนังสือเก่า แต่นัทธมนไม่รู้สึกซาบซึ้งไปกับเนื้อหา เธอเห็นว่าเจนแอร์เป็นผู้หญิงโง่ ที่ยอมให้ผู้ชายหลอกแล้วทิ้งไปเหมือนวรดา ที่โง่ให้กฤตย์หลอกแล้วก็ตายเพราะเขา เพื่อนของกลิกามักถามถึงกฤตย์ แม้แต่นัทธมนที่ยังไม่เคยเจอกฤตย์ก็ถามถึงจนเพื่อน ๆ งง นัทธมนจึงบอกว่าเธอสนใจกฤตย์ กลิกาอยากให้เป็นจริงเพราะไม่อยากให้กฤตย์ต้องตกลงปลงใจกับปณิตา หม้ายสาวที่ตามตื้อกฤตย์มานาน ที่กฤตย์ยังไม่มีใครเพราะลืมวรดาไม่ได้

กฤตย์มารับกลิกาที่โรงเรียน เขาเห็นนัทธมนแล้วตกใจมากเพราะคิดว่าเป็นวรดา ขณะที่ติสรณ์มารับนัทธมนที่โรงเรียน ติสรณ์สนใจกลิกา นัทธมนจึงช่วยติสรณ์เพราะรู้ว่าทั้งคู่เป็นคนดี นัทธมนแต่งตัวไปงานวันเกิดขอ งกลิกาที่บ้านกฤตย์ เมื่อไปถึงนัทธมนตกใจที่บ้านกฤตย์กลายเป็นบ้านเรือนไทย บ้านเก่าเธอ นัทธมนถามกลิกาจนรู้ว่า กฤตย์ซื้อบ้านหลังนี้มาเพราะทุกคนในบ้านตายหมด ส่วนบ้านอีกหลังกฤตย์ใช้เป็นสำนักงาน นัทธมนยังไม่ได้เจอกฤตย์ เพราะเขาไม่สบายจึงลงมาร่วมงานไม่ได้

กฤตย์เห็นนัทธมนเดินอยู่ในสวนแต่เรียกไม่ทัน จนสะดุดโต๊ะที่วางเค้กวันเกิดของกลิกา แกมแก้วโวยวายว่าเป็นความคิดของกลิกา แต่กฤตย์ปกป้องกลิกา นอกจากนี้ เขาถามกลิกาถึงเพื่อนที่มาเดินในสวนจึงรู้ว่าเป็นนัทธมน กฤตย์จึงบอกกลิกาให้ชวนนัทธมนมาทำงานเป็นเลขาที่บริษัท ซึ่งนัทธมนก็ยินดี นัทธมนจะได้มาทำงานเป็นเลขาของกฤตย์โดยตรง และทำงานที่บ้านเรือนไทย ไม่ใช่ที่สำนักงาน กลิกาดีใจที่นัทธมนได้งาน แกมแก้วนำเอกสารขอส่งลินจันทร์ ลูกสาวที่เป็นใบ้ไปเรียนต่างประเทศเพื่อรักษาตัว ลึกๆ แกมแก้วอิจฉาที่กฤตย์จะส่งกลิกาลูกเกตุมณีไปเรียน กฤตย์ขอเวลาตัดสินใจ

วันแรกของการทำงาน นัทธมนได้รู้จักกับพิษณุ เลขาเก่าของกฤตย์ ซึ่งจะย้ายไปประจำที่สาขาชลบุรี พิษณุสอนงานให้นัทธมน ตอนบ่ายกฤตย์พานัทธมนไปประชุมที่สำนักงานฝั่งตรงข้าม บ้านเรือนไทย นัทธมนได้ทักทายบงกช ซึ่งต้องติดต่องานประจำเมื่อกฤตย์กับนัทธมนไปแล้ว บงกชโทรศัพท์บอกเรื่องนัท ธมนให้ปณิตารู้ทันที ปณิตาไม่ไว้วางใจจึงคิดหาทางกำจัดนัทธมน ปณิตา เป็นลูกแม่ค้าจน ๆ จึงตัดสินใจแต่งงานเพื่อยกระดับตัวเองถึงสองครั้ง ครั้งที่สองทำให้เธอรวยมาจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อปณิตาตั้งใจจะจับกฤตย์แล้วเธอต้องทำให้ได้


แกมแก้วเข้ามาดูเลขาคนใหม่ของกฤตย์ ทำให้แกมแก้วตกใจมากที่นัทธมนหน้าเหมือน นวรดา หลังจบประชุม กฤตย์พานัทธมนไปยังสระน้ำที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยที่วรดาตาย กฤตย์บอกว่าเคยคิดทำสวน กฤตย์พานัทธมนเดินมาหาลินจันทร์ เมื่อนัทธมนเห็นลินจันทร์จึงรู้ว่าลินจันทร์ คือผาณิตกลับชาติมากเกิด ลินจันทร์รู้เช่นกัน จึงกลัวนัทธมนจนวิ่งหนีไป มนทิราบอกเรื่องที่คนจะขายรถ นัทธมนสนใจเพราะจะได้ไปทำงานสะดวก หลังจากไปลองนำรถมาใช้ นัทธมนก็ตกลงซื้อ และขับรถไปทำงานทุกวัน ปณิตาชวนกฤตย์ไปทานข้าว แต่กฤตย์นัดนัทธมนและกลิกาไว้แล้ว ปณิตาจึงขอไปด้วย โดยเลือกร้านอาหารทะเล และเหน็บแนมนัทธมนตลอดเวลา สุดท้าย นัทธมนใช้พลังพิเศษทำให้ปูหนีบนิ้วปณิตา ปณิตาถึงกับพูดไม่ออก ไม่มีใครรู้ว่าเป็นฝีมือของนัทธมน วันรับวุฒิบัตร มนทิราได้เจอกับกฤตย์ที่ไปแสดงความยินดีกับกลิกาและนัทธมน ทั้งสี่คนจึงไปทานอาหารเย็นด้วยกัน มนทิราสังเกตเห็นว่านัทธมนไม่ชอบกฤตย์ และแน่ใจว่าผู้ชายที่ลูกฝันถึงเป็นกฤตย์ มนทิราไม่สบายใจ ที่นัทธมนไม่ตัดความแค้นออกจากใจเสียที

ขณะที่นัทธมนนำรูปคู่ระหว่างตนเองกับกฤตย์ ไปตั้งบนโต๊ะทำงานตามที่กลิกาของ ร้อง แกมแก้วมาเห็นจึงไม่ชอบใจนัก กลิกากลับไปเพชรบูรณ์พร้อมของฝากและรูปถ่าย เมื่อเกตุมณีและปิติเห็นรูปนัทธมนทั้งคู่ตกใจว่าทำไมถึงเหมือนวรดามาก ปณิตาเห็นรูปที่ตั้งบนโต๊ะนัทธมน ปณิตาไม่พอใจมาก เธอชวนกฤตย์ไปทัวร์ยุโรป แถมจองตั๋วเผื่อกฤตย์แล้ว แต่กฤตย์ปฏิเสธเพราะติดธุระพอดี ปณิตาช้ำใจมาก ยิ่งเธอชวนนัทธมนไปทำงานที่บริษัทเพื่อให้ห่างกฤตย์ แต่นัทธมนปฏิเสธ ปณิตาก็ยิ่งแค้น เมื่อคนใช้ยกกาแฟมาให้ ปณิตาจะแกล้งทำกาแฟหกใส่นัทธมน ปรากฏว่ากาแฟหกรดตัวเอง ปณิตางงกับเหตุการณ์ที่พลิกผัน

แกมแก้วพยายามพาลินจันทร์ไปหากฤตย์ พอดีไพโรจน์มาเยี่ยมลูกสาวคือลินจันทร์ และจะพาไปเที่ยว แต่แกมแก้วไม่ยอมจึงทะเลาะกันรุนแรง คราวนี้ไพโรจน์ไม่ยอมเหมือนครั้งก่อน เมื่อลินจันทร์ไปกับไพโรจน์แกมแก้ว จึงมีอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่ง กฤตย์รีบพาแกมแก้วส่งโรงพยาบาล ไพโรจน์ขอโทษที่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น แต่กฤตย์เข้าใจ นัทธมนจัดเสื้อผ้าเตรียมไปทำงานกับกฤตย์ที่เชียงราย โดยกฤตย์รับปากมนทิราว่าจะดูแลนัทธมนอย่างดี ตอนขึ้นเครื่องนัทธมนอาเจียน เพราะกลัวความสูงจึงไม่มีแรง

เมื่อถึงเชียงรายกฤตย์จึงพาไปพักที่โรงแรมก่อน แต่นัทธมนกลับไม่ยอมขึ้นลิฟต์เพราะกลัวที่แคบและความมืด จนลืมตัวพูดไปว่า กฤตย์จะฆ่าตัวเอง ทำให้กฤตย์สงสัย แต่เขาตัดสินใจพักชั้นล่างและพานัทธมนเดินขึ้นบันไดนัทธมนฝันร้ายจนสิ่งของ ลอยเหมือนตอนแด็กอีกครั้ง ทำให้กฤตย์คิดว่าแผ่นดินไหวแต่เมื่อไปถามคนอื่น ทุกคนยืนยันว่าไม่มีแผ่นดินไหว กฤตย์คิดว่านัทธมนต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่

สิงห์ หรือสีหนาท เป็นคนมารับกฤตย์กับนัทธมนไปยัง ไร่สัตตบุษย์ที่กฤตย์จะทำโครงการนัทธมนออก ปากชมบ้านของสีหนาท แต่สีหนาทบอกว่ากฤตย์เป็นคนออกแบบ นัทธมนจึงเงียบลงไปเพราะไม่ชอบให้ใครชื่นชมกฤตย์ต่อหน้าก่อนที่อำพล วิศวกรร่วมโครงการจะขึ้นมา กฤตย์กับนัทธมนได้ไปเที่ยวฝั่งพม่าพร้อมกับสีหนาทและน้องสาว กฤตย์ซื้อสร้อยคอเส้นที่นัทธมนให้นัทธมน เธอจะไม่รับ กฤตย์จึงบังคับเธอ เมื่อกฤตย์และนัทธมนต้องไปเที่ยวกันตามลำพัง นัทธมนไม่อยากไป จนครั้งหนึ่งเธอทำร้ายกฤตย์ กฤตย์สงสัยในพฤติกรรมแปลก ๆ ของนัทธมนแต่ยังหาคำตอบไม่ได้ เมื่ออำพลขึ้นมา กฤตย์เร่งทำงานส่วนนัทธมนใช้เวลาว่างในการคิดแผนการที่จะจัดการกฤตย์ให้เร็ว ที่สุด เพราะกฤตย์เริ่มรู้ตัวแล้ว กฤตย์ไปส่งนัทธมนที่บ้านหลังกลับจากเชียงราย มนทิราขอบคุณกฤตย์

เมื่อนัทธมนกลับไปทำงาน กฤตย์ก็ดีต่อเธอทุกอย่าง แต่นัทธมนไม่ต้องการมัน เธอเริ่มดำเนินตามแผนแก้แค้น เริ่มจากการเอากุญแจห้องเก็บของมาไว้ที่ตัวเอง นัทธมนเจอปิติก่อนที่เขาจะกลับเชียงรายจึงได้รู้ว่า ประพจน์ขอหย่าจากผกา หลังวรดาตาย แล้วไปบวชเป็นพระออกธุดงค์ไปเรื่อย ๆ คุณหญิงผกากับผาณิตถูกรถชนตาย ประพจน์จึงขายบ้านให้กฤตย์ แล้วออกธุดงค์ต่อ ในที่สุดก็มรณภาพ

แกมแก้วเห็นปิติคุยกับนัทธมนจึงเข้ามาหาเรื่อง เมื่อปิติกลับไปถึงเชียงรายก็เล่าเรื่องให้เกตุมณีฟัง ปณิตารู้ว่านัทธมนกลับมาจึงรีบโทรหาสมุนของเธอให้จัดการกับนัทธมน แต่ทุกอย่างผิดแผน เพราะคนร้ายตามรถที่นัทธมนใช้ประจำไปโดยไม่ได้ดูว่าใครขับ ทำให้มนทิราเคราะห์ร้าย เมื่อนัทธมนรู้เรื่อง เธอสัญญาว่าจะต้องจัดการกับคนร้ายให้ได้ แม้มนทิราจะขอร้องแต่นัทธมนไม่รับปาก ปณิตารู้ว่างานพลาดจึงสั่งให้จัดการใหม่อีกครั้ง แต่นัทธมนไม่กลัวเพราะรอชำระความอยู่แล้ว


คนร้ายทั้งสองถูกจัดการจนบาดเจ็บสาหัส คนแรกที่นัทธมนจัดการคือบงกช นัทธมนใช้วิธีสะกดจิตให้บงกชเกิดภาพหลอนเห็นหนอนเต็มปาก ส่วนปณิตาเมื่อรู้ว่านัทธมนไม่ใช่คนธรรมดา เธอจึงมาเตือนกฤตย์ แต่กฤตย์ไม่สนใจ นัทธมนสะกดจิตปณิตาให้เห็นปีศาจ อย่างที่ปณิตากล่าวหาว่านัทธมนเป็นปีศาจ เมื่อเลิกงาน นัทธมนชวนกฤตย์ไปห้องเก็บของ กฤตย์ยอมไปแต่โดยดีและเดินลงไปในห้องเก็บของตามที่นัทธมนต้องการ กฤตย์รอฟังคำอธิบายจากนัทธมน จึงรู้ว่านัทธมนคือวรดากลับชาติมาเกิด นัทธมนไม่ฟังสิ่งที่กฤตย์จะบอก เธอทำให้กองอุปกรณ์หล่นมาทับขากฤตย์หักและขังกฤตย์ไว้ เธอหวังให้เขาร้องขอความช่วยเหลือแต่เขาไม่ร้อง สุดท้ายคนที่แพ้คือนัทธมน

วันรุ่งขึ้นนัทธมนให้ทุกคนตามหากฤตย์ที่หายไปจนเจอ แกมแก้วจะพากฤตย์ไปหาหมอ แต่กฤตย์ขอคุยกับนัทธมนเป็นการส่วนตัว กฤตย์ส่งแหวนที่เขาเตรียมให้วรดากับ นัทธมน วันนั้นกฤตย์ยังไม่ทันออกจากบ้าน แม่ของกฤตย์เกิดหกล้มขาหัก เขาจึงพาส่งโรงพยาบาลและให้แกมแก้วไปบอกวรดาแทน แต่วันต่อมาวรดาหายไปไม่มีใครพบ จนกระทั่งวรดาตาย นัทธมนตกใจที่รู้ว่าไม่ใช่กฤตย์ เธอจึงไปหาลินจันทร์และแกมแก้ว

นัทธมนคาดคั้นลินจันทร์ให้พูดความจริง ลินจันทร์กลัวมากจึงเล่าว่า แกมแก้วเป็นคนวางแผนทั้งหมด ตั้งแต่ตีหัววรดา และลากวรดาไปซ่อนในหลุมหลบภัย ซึ่งแกมแก้วบอกจะปล่อยวรดาในอีกสองสามวันข้างหน้าแต่แกมแก้วไม่ทำ จนวรดาตาย นัทธมนโกรธมากที่รู้ว่าแกมแก้วทำ แกมแก้วไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น ลินจันทร์พูดได้แต่เป็นเสียงผาณิต เมื่อเรื่องทุกอย่างเปิดเผย แกมแก้วจึงยอมรับออกมาและคิดจะฆ่านัทธมนอีกครั้ง แต่นัทธมนใช้พลังจิตทำร้ายแกมแก้ว จนแกมแก้วกลัวลนลาน กฤตย์พยายามห้ามไว้ แล้วให้นัทธมนอโหสิกรรม หลังจากวันนั้น แกมแก้วเป็นอัมพาต กฤตย์รักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และตัดสินใจส่งลินจันทร์ไปเรียนต่างประเทศ

นัทธมนหลีกเลี่ยงการพบกับกฤตย์ แต่ยังถามข่าวจากกลิกา นัทธมนพามนทิราไปเที่ยว ชายทะเล จนคิดได้ตามที่แม่สอนว่า คนเราไม่ควรฝืนชะตาความรัก นัทธมนโทรหากฤตย์ แต่กฤตย์ไม่อยู่บ้าน เธอจึงเสียใจ แต่กฤตย์ตามเธอมาที่ทะเล ทั้งสองปรับความเข้าใจกันในที่สุด ทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักของกันและกันเวลาผ่านไป กลิกาใกล้เรียนจบ โดยมีติสรณ์รออยู่เมืองไทย ส่วนนัทธมนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อ อธิษฐ์ แม้อธิษฐ์จะดื้อ แต่นัทธมนก็รักเขามาก รวมถึงลูกในท้องที่จะเป็นเด็กผู้หญิง กฤตย์และนัทธมนตกลงจะตั้งชื่อลูกว่า วรดา ติดตามชมละคร ด้วยแรงอธิษฐาน

ราย ชื่อนักแสดงในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน

ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบทเป็น กฤตย์ ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
เขมนิจ จามิกรณ์ รับบทเป็น นัทธมน และ วรดา ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
อานัส ฬาพานิช รับบทเป็น ปิติ ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
เปรมสินี รัตนโสภา รับบทเป็น เกตุมณี ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
เอมี่ กลิ่นประทุม รับบทเป็น แกมแก้ว ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล รับบทเป็น ถุงแป้ง ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
ธาราเขต เพ็ชรสุกใส รับบทเป็น ติสรณ์ ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ รับบทเป็น ผาณิต ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
ณิชานันท์ ฝั้นแก้ว รับบทเป็น ปณิตา ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ รับบทเป็น ประพจน์ ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
สุรางคณา สุนทรพนาเวช รับบทเป็น ผกา ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
อนุสรา จันทรังสี รับบทเป็น วารี ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบทเป็น นิกร ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน
ธนาภรณ์ รัตนเสน รับบทเป็น มนทิรา ในละคร ด้วยแรงอธิษฐาน

วันศุกร์ที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

แจกฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้-5 สิ่งผิดปกติในฟุตบอลโลกปี 2010

แจกฟรี หลวงปู่ทวดเนื้อผงแร่น้ำพี้

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-5 สิ่งผิดปกติในฟุตบอลโลกปี 2010

เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วที่ฟุตบอลโลก 2010 เริ่มขึ้น หลายคนคงรู้สึกว่าครั้งนี้มันเหมือนมีอะไรแปลกประหลาดกว่าครั้งก่อนๆ สำนักข่าว เดอะการ์เดี้ยน จึงจัดอันดับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นให้เห็นกันอย่างชัดๆ


1. จาบูลานี่


ลูกฟุตบอลรุ่นล่าสุดของ "อาดิดาส" ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทิศทางและน้ำหนักของลูกที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เห็นได้จากการเปิดลูกโยนจากข้างสนามและฟรีคิกของหลายๆทีมไม่มีประสิทธภาพมาก เท่าที่ควรในบางจังหวะ แต่สำหรับทีมเยอรมันแล้วพวกเขาไม่มีปัญหากับลูกบอลลูกนี้เลย เพราะทีมเยอรมันใช้ลูกบอลลูกนี้มาตั้งแต่เดือน มกราคมแล้ว ลองมองในแง่ดีแบบ เจมี่ คาราเกอร์ปราการหลังทีมอังกฤษจากสโมสรลิเวอร์พูลที่ให้สัมภาษณ์ว่า "เป็นธรรมดาที่ลูกบอลถูกออกแบบมาให้ยิงประตูได้ง่ายขึ้น มันก็ดีเหมือนกันนะที่เจ้าจาบูลานี่มักสร้างเรื่องตื่นเต้นเพิ่มสีสันให้กับ ทัวร์นาเม้นต์"

แต่นายทวารหลายคนไม่คิดเหมือนพี่สิครับ หลายคนแอบเครียดเวลาเล่นในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลต่างกัน ซึ่งเจ้าจาบูลานี่มีความเร็วที่ต่างกันไป เป็นงานที่น่าหนักใจสำหรับเหล่าผู้รักษาประตู ก็พี่เจมี่ไม่ใช่คนใช้มือรับบอลเข้าซองครับ แน่นอนว่าโรเบิร์ต กรีนคงตื่นเต้นเกินพี่เจมี่แน่ๆ


2. ผู้เล่นชื่อดังหลายคนหายไปจาก"เวิลด์ คัพ"ในกาฬทวีป


ทุกๆประเทศมีนักเตะดาวดังเป็นฮีโร่ประจำทีม แต่มีดาวดังบางคนไม่สามารถลงเล่นในเวิลด์ คัพได้อาทิ มิชาเอล บัลลัค ไม่สามารถเล่นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายที่แอฟริกาใต้เพราะบาดเจ็บ อิตาลีขาด อันเดรีย ปีร์โล่ ฮอลแลนด์ขาด อาร์เยน ร็อบเบน เวิลด์ คัพเป็นทัวร์นามเม้นต์ที่สร้างดาวดังขึ้นมา นักเตะอย่าง ไมเคิล โอเวน โรนัลโด้ ล่าสุดนักเตะที่น่าจับตามองคือ เมซุต โอซิล ของเยอรมันที่เริ่มฉายแววโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนัดปะทะออสเตรเลีย


3. โค้ชที่วางแผนเกมรับ


มาร์เซโล่ ลิปปี้กล่าวให้สัมภาษณ์โจมตีโค้ชปารากวัยหลังจากจบเกมแรกว่าตอนแรกเกราร์โด้ มาร์ติโน่โค้ชปารากวัยโวว่าจะเปิดเกมรุกเข้าใส่แต่พอเอาเข้าจริงผู้เล่น เกือบทั้งหมดไม่ได้วิ่งขึ้นมาเกินฝั่งของตัวเองเลย ทั้งนี้ ปารากวัยไม่ใช่เป็นทีมเดียวที่วางแผนเล่นเกมลักษณะแบบนี้ หลากหลายทีมกลัวที่จะไม่มีแต้มติดกระเป๋าจึงวางแทคติกให้อีกฝ่ายเปิดเกมบุก เข้าใส่จากนั้นก็รอให้อีกฝ่ายพลาดเอง แต่ก็อย่างว่า มันเป็นแทคติกของทีมที่เสียเปรียบกว่า แต่ความเป็น จริงแล้วการเล่นเกมรับไม่สามารถเอาชนะทีมอื่นได้ หากต้องการประสบความสำเร็จก็ต้องโผล่หัวออกมาจากพื้นที่ฝั่งตัวเอง


4. ม้านั่งที่ว่างโหลงเหลงในสนาม


เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเมื่อเห็นม้านั่งในสนามว่าง ในนัดที่เกาหลีใต้พบกรีซ อัลจีเรียพบสโลวีเนีย และญี่ปุ่นพบแคเมอรูนมีม้านั่งกว่า 1 หมื่นที่เว้นว่างไร้ผู้ชมนั่งชมเกม เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ม้านั่งชมการแข่งขันฟุตบอลโลก หนึ่งในการแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกว่างโหลงเหลง แต่ลองมองในแง่ดีกว่า ม้านั่งว่างดีกว่าเห็นสนามที่ล้นไปด้วยผู้ชมและเกิดจราจลขึ้น


5. เสียงที่น่ากวนใจเป็นอย่างยิ่งจากแตร"วูวูเซลา"


นับว่าเป็นปัญหานอกสนามเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง ผู้ชมมากมายและผู้เล่นดาวดังต่างออกมาบ่นถึงเสียงแตรของแอฟริกาใต้มากมายรวม ทั้ง ลีโอเนล เมสซี่ด้วยเขากล่าวว่า "มันเป็นเรื่องยากที่จะสื่อสารกับเพื่อนในทีม ราวกับว่าเราหูหนวกไปซะอย่างนั้น "


แต่มี ข้อมูลว่าแตรวูวูเซลาเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถเป่าให้เป็นท่วงทำนองได้ ซึ่งมันทำให้เห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่เป่าไม่เป็น มีเสียงเรียกร้องมากมายให้ออกกฎห้ามนำแตรนี้เข้ามาในสนาม และเป็นที่สังเกตว่าการแข่งขันรักบี้ในเมืองเคปทาวน์ก็ห้ามนำแตรเข้าไปใน สนาม สรุปแล้วก็ลองมองโลกในแง่ดีเอาไว้ดีกว่า เป็นเรื่องดีที่ฟุตบอลโลกแต่ละครั้งมีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่เป็นเหมือน อัตลักษณ์ที่แสดงให้โลกได้เห็น


โดย: หนังสือพิมพ์มติ ชน

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้-เตือนภัย น้ำยาบ้วนปาก

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เตือนภัย น้ำยาบ้วนปาก

กลิ่นปากเป็นปัญหาสำคัญ หลาย ๆ คนก็คงต้องใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยดับกลิ่นปาก แล้วรู้หรือไม่น้ำยาบ้วนปากดีจริงหรือไม่ วันนี้เราจะมารู้เรื่องราวของน้ำยาบ้วนปาก

แพทย์โรงพยาบาลราชวิถี เตือนคนไทยถึง "น้ำยาบ้วนปาก" หากใช้มากๆนานๆ ทำตุ่มรับรสเพี้ยน เกิดเชื้อราช่องปาก สีฟันเปลี่ยน หินปูนเกิดง่าย ส่วนยาสีฟันที่อ้างลดแบคทีเรียนั้น มีประสิทธิภาพเท่ากับแปรงฟันอย่างถูกวิธี ส่วนคนไทย 9 ล้านคนมีกลิ่นปาก และแนะวิธีเช็กกลิ่นปาก น้ำยาบ้วนปาก, ปาก, ช่องปาก, กลิ่นปาก, อาหาร, โรงพยาบาลราชวิถี

ท.ญ.นพมณี วงษ์กิตติไกรวัล ทันตแพทย์กลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่า การใช้น้ำยาบ้วนปากมีไว้เพื่อกำจัดกลิ่นปาก แต่ที่จริงแล้ว เป็นเพียงการกลบกลิ่นปากด้วยกลิ่นของน้ำยาใน ระยะสั้นเท่านั้น จากนั้นไม่นานก็กลับมามีกลิ่น ปากเช่นเดิม การใช้น้ำยาบ้วนปากติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้ไปทำลาย เชื้อแบคทีเรียที่ดีที่อาศัยอยู่ในปากให้ตายไปด้วย อาจนำมาซึ่งเชื้อราในช่องปาก ทำให้ตุ่มรับรสของลิ้นเพี้ยนไป มีสีเคลือบผิวฟันที่เปลี่ยนแปลง หรือทำให้เกิดหินปูนได้ง่าย

ส่วนยาสีฟันที่อ้างว่า สามารถลดแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นปากได้ นั้น ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่า ยาสีฟันจะมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อในปากได้ ซึ่งประสิทธิภาพของยาสี ฟันที่อ้างว่าลดแบคทีเรีย ไม่แตกต่างกับการแปรงฟันด้วยยาสีฟันอะไรก็ได้อย่างถูกวิธี และใช้ไหมขัดฟันในซอกฟันส่วนที่แปรงไปไม่ถึง กลิ่นปากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากชนิดที่ไม่ใช้ออกซิ เจน ผลิตก๊าซในกลุ่มซัลเฟอร์ กลิ่นปากยังเกิดได้จากผู้ป่วยมีโรคอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว เช่น โรคกรดไหลย้อน หากรักษาโรคเหล่านั้นกลิ่นปากก็จะหายไป รวมทั้งกลิ่นปากจากโรคในช่องปาก เช่น โรคปริทนต์ โรคเหงือก ฟันผุ ฯลฯ

วิธี การตรวจว่ามีกลิ่นปากจริงหรือไม่นั้น ทำได้โดยการสังเกต จากคนรอบข้าง หรือเอาช้อนมาขูดลิ้นแล้วทิ้งไว้ 5 วินาที จากนั้นนำมาดม หากพบว่ามีกลิ่นเหม็นก็แนะนำให้มาพบทันต แพทย์เพื่อตรวจเช็กปัญหาในช่องปาก

วันจันทร์ที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้-ไล่ยุง มดด้วยวิธีง่าย ๆ

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้ ให้แก่ทหาร ตำรวจ และบุคคลทั่วไป

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-ไล่ยุง มดด้วยวิธีง่าย ๆ กับสิ่งของที่มีอยู่ในครัว

ไม่ ว่าจะเป็นโรคชิคุนกุนยาไข้เลือดออก มาลาเรียหรืออีกหลายๆ โรค ล้วนมีสาเหตุมาจากยุง ยิ่งหน้าฝนที่น้ำขังอย่างนี้ยุงยิ่งเยอะ ลำพังยุงก็ปวดใจจะแย่ บางบ้านยังมีมดที่หนีน้ำขึ้นมาสมทบ

เราจึงนำวิธีแบบธรรมชาติไว้ไล่ยุงและมดมาบอก และด้วยความเป็นธรรมชาติจึงไม่เป็นภัยกับคนในบ้าน และยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่าปลอดภัยไร้กังวลจริงๆ

4 ของในครัวไล่ยุงร้าย

กระเทียม

นำกระเทียมตำให้พอบุบ ผสมกับน้ำแล้วทาลงบนจุดชีพจรต่างๆ ในร่างกายและบนใบหน้าจะช่วยให้ยุงไม่เข้าใกล้อีก แต่ระวังอย่าให้เขาตาและไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นกระเทียม เพราะอาจจะมีกลิ่นค่อนข้างฉุน

น้ำมันมะกอก


นำน้ำมันหอมระเหยที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส มะนาว ตะไคร้ ทีทรีไธม์ และ เปปเปอร์มินต์ หยดลงในน้ำมันมะกอก 2-3 หยด แล้วทาลงบนผิวจะช่วยให้ยุ่งไม่เข้าใกล้ แถมยังมีกลิ่นหอม ช่วยผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย

วานิลา

นำผงวานิลาผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วทาลงบริเวณจุดชีพจรบนผิวหนัง หรืออาจจะแต้มลงบนเสื้อผ้า เมื่อยุงได้กลิ่นจะไม่กล้าเข้าใกล้

ตะไคร้

นำตะไคร้มาตำให้แหลก ผสมน้ำเล็กน้อย แล้วคั้นเอาแต่น้ำ นำไปเคี่ยวจนเป็นน้ำมัน แล้วมาทาลงบนผิว ช่วยป้องกันยุงได้อย่างดี

4 วิธีไล่มดตัวจิ๋วจอมป่วน

คุณพ่อบ้านและคุณแม่บ้านทั้งหลาย คงรำคาญกับการก่อกวนของเจ้าพวกมดตัวน้อยตัวนิด ที่เวลาวางกับข้าวหรือน้ำหวาน เพียงไม่กี่นาทีก็เดินขบวนยาวสามัคคีกันมาเป็นแถว หากจะกำจัดปัญหาปวดหัวนี้ แค่ใช้วิธีง่ายๆ ด้วยการหาของใช้ในบ้านเรานี่แหละมาปราบเจ้ามดกัน

วิธีที่ 1 นำน้ำส้มสายชูผสมน้ำ แล้วเช็ดตามทางเดินมด จะทำให้มดไม่กลับมาเดินอีก และยังช่วยไล่แมลงสาบได้อีกด้วย

วิธีที่ 2 ใช้ผงฟูโรยตามทางเดิน หรือใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดตามทางเดินมด จะทำให้มดหาทางเดินไม่เจอ ไม่เดินกลับมาที่อาหารได้อีก

วิธีที่ 3 โรย พริกป่น กากกาแฟ สะระแหน่แห้ง ตามทางที่มดเดิน จะทำให้มดสับสนหาทางเดินไม่ได้

วิธีที่ 4 นำมะนาวบีบลงไปในรูมด แล้วทิ้งเปลือกมะนาวไว้ตรงนั้นจะทำให้มดไม่กลับมาอีก

เห็นไหม เพียงแค่เดินเข้าครัวก็หาสิ่งของป้องกันเจ้ายุงร้ายกับมดตัวจี๊ดได้ไม่ยาก โดยที่ไม่ต้องไปหาซื้อลิ้นเปลืองและยังปลอดภัยไม่มีสารพิษตกค้างให้เป็น อันตรายต่อสุขภาพคนในบ้านด้วย

วันศุกร์ที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้-เรื่องของ หมา ๆ

แจก ฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้ ให้แก่ทหาร ตำรวจ และบุคคลทั่วไป


AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องของหมา ๆ

กลางดึกใน คืนที่อากาศแจ่มใส เมื่อเห็นว่าภรรยาและลูกสาวนอนหลับสนิทแล้ว วิทยาชายวัยกลางคนก็ย่องลงมาจากบ้าน เขาตรงไปที่หลังบ้านไขกุญแจเปิดกรง แล้วก็อุ้มร่างของหมาตัวหนึ่งเดินไปยังสนานหญ้าหน้าบ้าน จากนั้นก็วางมันลงอย่างช้าๆ หมาตัวนั้นส่งเสียงครางในลำคอเมื่อเห็นเจ้านายของมันนั่งลงข้างๆ

“นอนอยู่ นั่นแหละแกไม่ต้องลุกขึ้น จริงสิบางทีแกอาจจะไม่มีแรงลุกขึ้นมาแล้วก็ได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ขณะที่จ้องมองหมาร่างกายผ่ายผอมจนเห็นกระดูก นอนอ้าปากหายใจอย่างลำบาก
“แกอยู่กับฉันมากี่ปีแล้ว สิบกว่าปีแล้วมั้ง ใช่หรือเปล่า” เขาพูดกับหมาซึ่งนอนนิ่งอยู่ มันเหมือนจะเข้าใจคำพูดของเขา แต่มันพูดไม่ได้

“รู้ไหม แกมันไม่มีดีสักอย่าง เป็นหมากระจอก หมาข้างถนนที่ฉันเก็บมาเลี้ยง แกเข้าใจไหม แกมันไม่ดีสักอย่าง” เขาพูดเสียงดังขึ้น
“แกเป็นหมาแน่หรือเปล่าวะ แมวก็ยังกลัว ฟ้าร้องก็วิ่งหางจุกก้นเข้าบ้าน ชอบขุดต้นไม้ข้างรั้วจนกระจุยกระจาย ห้ามก็ไม่ฟัง แกมันเป็นหมาหรือหนูกันแน่” เขาด่ามันเสียงดังขึ้นกว่าเดิม จ้องมองมันซึ่งแม้จะถูกเขาดุด่า มันก็จ้องมองตอบด้วยสายตาที่ไม่เปลี่ยนแปลง สายตาเดิมซึ่งไม่เคยเปลี่ยนนับแต่มันมาอาศัยอยู่กับเขา

“แต่จะว่าไปแกก็มีดีอยู่หน่อยหนึ่ง” เขาหลบตามันเงยหน้ามองดาวบนฟ้า พูดลดเสียงลง
“ไม่ต้องห่วง ฉันยังจำเรื่องเมื่อห้าปีก่อนได้ ตอนนั้นมีหมาพันธุ์ร๊อตไวเล่อร์หลุดเข้ามาในบ้าน แกก็เห่าไล่มัน เห็นไหมฉันยังจำข้อดีแกได้” เขาหัวเราะกับหมาที่นอนอยู่ มันพยายามส่งเสียงครางในลำคอคล้ายกับจะตอบกลับเขา
“แล้วไงต่อ เหรอ ก็ไอ้หมาตัวนั้นมันไม่ยอมออกจากบ้านใช่ไหม แกก็เข้าไปกัดกับมัน แผลนี่สินะ” เขาเอามือลูบรอยทางยาวที่พาดอยู่ข้างลำตัวผอมมัน รอยนี้ลึกเข้าไปในเนื้อ ดังนั้นเมื่อหายแล้วจึงไม่มีขนขึ้นมาอีก
“หรือ แกเป็นหมาบ้าวะ แกแพ้มันอยู่แล้วยังดันทุรังกัดกับมันไม่ยอมเลิก ทำไมแกไม่หนีเข้าบ้าน ทำไมแกยังไม่ยอมถอย โดนมันกัดตั้งหลายแผลก็ยังกัดสู้กับมันอีก ถ้าตอนนั้นฉันไม่กลับมาบ้านทันไล่หมาตัวนั้น แกก็ตายไปแล้วรู้หรือเปล่า” วิทยาพูดเสียงเบาลง

“แล้วสองสามวันนี่แกจะหาทางออกจากบ้านทำไม รู้ไหมแกไม่สบาย ทำไมไม่นอนอยู่ดีๆ แกจะออกไปเที่ยวเหรอ ทำไมไม่รอให้หายก่อนค่อยไป อยากไปทะเลไหม ถ้าแกหายดีฉันจะพาไปเที่ยวนะ ไปไหมไปไล่ปูที่ชายหาด ฉันจะวิ่งเป็นเพื่อนแก” เขาพูดเสียงเบาลงจนจะกลายเป็นเสียงกระซิบ
“ฉันรู้ว่าแกชอบกินหมูสะเต๊ะ พรุ่งนี้ฉันจะซื้อให้กินนะ แต่แกต้องสัญญาว่าจะไม่พยายามออกไปข้างนอกอีก” เขาขยับเข้าไปใกล้มัน จนเมื่อเข้าใกล้จนชิด มันจึงผงกหัวขึ้นมาเลียขาเขา

“ฉัน ตามใจแกทุกอย่างแล้วนะ แกชอบนอนบนหญ้าฉันก็หามมานอนแล้ว แกต้องสัญญานะ ว่าจะไม่หนีออกจากบ้านไป เข้าใจไหม” เขาพูดเสียงสั่น
“ฉันขอโทษที่ว่าแกเป็นหมาไม่ดี ฉันขอโทษนะ ฉันผิดไปแล้ว แกโกรธฉันไหม” น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปเป็นตะกุตะกัก และสูดหายใจลึกๆ เพื่อจะพูดต่อ
“แกเป็นหมาดีที่ สุด แกอย่าทิ้งฉันไปนะ อย่าทิ้งกันไปนะ ” ที่สุดเขาก็หลั่งน้ำตาออกมา แล้วก็เอนตัวลงนอนข้างหมาแก่ซึ่งหายใจรวยรินบนพื้นหญ้า เมื่อเห็นเจ้านายมันนอนลงข้างๆ มันก็เลียหน้าเขา เหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของเจ้านายที่มันรักเหนืออื่นใด

เจ้า นายกอดมันและร้องสะอื้นจนหลับไป พอเห็นว่าเจ้านายมันหลับลงแล้วมันก็เขย่งตัวค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า และออกเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน ท่ามกลางหมู่ดาวเต็มท้องฟ้า หมาใกล้ตายตัวหนึ่งอาศัยลมหายใจช่วงสุดท้ายในชีวิตของมัน พาร่างผ่ายผอมเดินไปเรื่อยๆ จนลับหายไปจากแสงไฟหน้าบ้าน
ตลอด กาล

******************************

รุ่งขึ้นวิทยาตื่นขึ้นมาก็ไม่พบหมาของเขาแล้ว เขาได้แต่บอกภรรยาและลูกสาวว่าหมาตัวนั้นมันวิ่งหนีออกไปเมื่อคืน ซึ่งความจริงแล้วเขารู้เหตุผลดีว่าทำไมมันถึงออกจากบ้านไป เพราะว่ามันไม่ยอมให้เขากับภรรยา และลูกสาว เห็นมันตาย มันกลัวพวกเขาจะเสียใจ เรื่องนี้เขาเพิ่งจะเข้าใจก็ตอนที่มองนัยน์ตามันเมื่อคืน มันยอมหนีออกไปตายอย่างเดียวดาย ดีกว่าปล่อยให้คนที่มันรักเสียใจ

แก หลับให้สบายเถอะเพื่อนรัก แกดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว

บางครั้งเราคิดว่ามันไม่เข้าใจคำพูดของเรา
บางครั้งเรา คิดว่ามันไม่เข้าใจความรู้สึกของเรา
เพราะหลายครั้งเราไม่เคยมองลึกเข้า ไปในตาของมัน
ดวงตานั้นไม่เคยเปลี่ยน ดวงตานั้นบอกว่ารักเรา
ช่วง ชีวิตของเรายาวนานเมื่อเทียบกับมัน
แต่จะไม่มีประโยชน์อันใดเลย มีชีวิตร้อยปีแล้วจะเป็นอย่างไร
ถ้าชั่วชีวิตนี้เราไม่เข้าใจความรัก อย่างแท้จริงอย่างมัน สู้มีชีวิตเพียงสิบกว่าปีดีกว่า

ขอบคุณ @cloud

วันอังคารที่ ๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

แจกฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้-เจ้านาย กับแม่

แจกฟรี หลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้ ให้แก่ทหาร ตำรวจ และบุคคลทั่วไป


AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เจ้านาย กับแม่

แม่ของฉัน กับเจ้านายของฉัน ......... ใคร เคยทำกับแม่แบบนี้บ้าง ? ทุกวัน ฉันต้องตื่นเช้า เข้างานแปดโมง วันนี้..ก็เหมือนเคย แต่เมื่อคืนฉันทำงานจนดึก ตื่นสาย.. อารมณ์ตอนนั้น โมโหตัวเองมาก ที่ลืมตั้งนาฟิกาปลุก ( โดนเจ้านายด่าแน่ๆ )

แม่มาเคาะประตูห้อง ...
“ ตื่นหรือยังลูก หกโมงแล้ว
“ฉันหงุดหงิดมาก ........... โธ่ !! แล้วทำไมแม่ไม่ปลุกหนูให้เร็วกว่านี้เนี่ย..หนูไปทำงานไม่ทันแล้ว วันนี้..มีประชุมด้วย
“ แม่ทำข้าวต้มให้หนูอยู่ เมื่อคืนเห็นนอนดึก อยากให้กินอะไรร้อนๆหน่อย
“ ........แม่ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่กง ไม่กินมันแล้ว....
แม่จับแขนฉันเบาๆก่อนเดินออกจากห้อง
อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง แม่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“ กินข้าวต้มกับแม่ก่อนนะลูกนะ แม่รอหนูอยู่
“หนูไม่กิน พูดโดยไม่มองหน้าแม่ เดินออกมาจากบ้านทันที

ถึงที่ทำงาน
“ ไม่รู้หรืองัย ว่าวันนี้มีประชุม แล้วรายงานอยู่ไหน “
ยกมือไหว้ .. ขอโทษค่ะพี่ ...รีบส่งรายงานให้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
“ พี่เลื่อนประชุมไปเป็น 10 โมงนะ เดี๋ยวช่วยไปหาอะไรให้พี่กินหน่อยสิ “...
ได้ค่ะพี่ ...วิ่งเข้าห้องครัว หยิบโจ๊กกึ่งสำเร็จรูป รีบ รีบ รีบ เติมน้ำร้อน ..
ว๊า !! น้ำร้อนลวกมือ ..มาแล้วค่ะพี่ โจ๊กร้อนๆเลยค่ะ....

ออกจากห้องประชุมเกือบเที่ยง แม่โทรมาจากบ้าน
“ เมื่อเช้า.. หนูวางผ้าเช็ดหน้าไว้ตรงไหนลูก แม่หาในตะกร้าไม่เจอ จะเอาไปซักน่ะ
“หาไม่เจอก็ไม่ต้องซักหรอก หนูจำไม่ได้ คงโยนไว้ที่ไหนน่ะแหละ เมื่อเช้าหนูรีบ .......
“ ไม่เป็นไรลูก แล้วเย็นนี้..กลับกี่โมง มากินข้าวกับแม่นะ ”
ยังไม่รู้หรอกแม่ ว่างานเสร็จเมื่อไหร่
ยังงัย..แม่กินไปก่อนเลยแล้วกัน ไม่ต้องรอ .....
วางหูโทรศัพท์ ก้มหน้า ก้มตาทำงาน เอาใจเจ้านาย ....

“ เอ!! พี่วางบัญชีรายชื่อลูกค้าทิ้งไว้แถวนี้มั่งรึเปล่า ไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน หาไม่เจอ..
ไม่เป็นไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูช่วยหา พี่ลงไปทานข้าวเถอะค่ะเที่ยงกว่าแล้วนะคะ
... หา หา หา หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
โธ่..พี่ขา ก็พี่มาทำหล่นไว้ใต้เก้าอี้ในห้องประชุมนี่นา
โอย !! เที่ยงครึ่งแล้ว ลงไปกินข้าวไม่ทันแน่ๆ
ไม่เป็นไร..บะหมี่ซักห่อพออิ่มก็แล้วกัน

... พี่คะ เจอแล้วนะคะ พี่ ่ทำหล่นไว้ที่ห้องประชุมค่ะ
“ อ้าว..เหรอ “ รับเอกสาร?ืน ไม่มีแม้แต่ขอบใจสักคำ
แต่ฉันกลับปลื้ม ที่ทำให้เจ้านายพอใจได้ ใกล้เลิกงานแล้ว.. รีบกลับบ้านไปนอนดีกว่า
“ ช่วยแก้งานตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ เสร็จแล้ววางไว้บนโต๊ะพี่เลย

พี่กลับก่อนล่ะ ว่าแต่ว่า เราน่ะมีธุระอะไรรึเปล่า คงต้องกลับช้านิดนึงนะวันนี้ “
.. ยิ้มรับ.. ไม่มีธุระอะไรค่ะพี่ เดี๋ยวหนูพิมพ์ให้เลยค่ะ โทรหาเจ้านายตอนเกือบทุ่ม .. พี่ขา หนูแก้ไข

และตรวจทานเรียบร้อยแล้วค่ะ หนูวางไว้บนโต๊ะนะคะ

“ กลับดึกจังลูก จะอาบน้ำก่อน หรือ กินข้าวก่อนล่ะ ??
“... เงียบไม่มีเสียงตอบไม่มีรอยยิ้ม ...
“ มา มา แม่ช่วย “ แม่รวบของจากมือฉันไปวางบนโต๊ะ ..
หนูเหนื่อยมากเลยแม่ หนูอยากพักผ่อน กำลังจะเดินขึ้นห้อง ..
ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ...เจ้านายเหรอคะมีอะไรรึเปล่าคะ ..
อ๋อ !! ไม่ยุ่งค่ะ เดี๋ยวหนูจัดการให้เลยค่ะ กุลี กุจอ เปิดคอมพิวเตอร์ ... เจ้านายคะ เรียบร้อยแล้วค่ะ


แม่..หายไปไหน ในครัวไม่มี ห้องนอนไม่มี. . . แม่นั่งอยู่หลังบ้านเหงา ๆ คนเดียว . . .

แม่แอบร้องไห้ ... เ พราะฉันสินะ ฉันทำให้แม่ต้องร้องไห้
แม่..ดูแลฉันมาทั้งชีวิตเป็นห่วงฉัน รักฉันมากกว่าใครๆ
แต่..ฉันตอบแทนได้สาสมเหลือเกิน ฉันเริ่มทบทวน...
เจ้านายคนที่ให้เงินเดือนฉันกับ แม่คนที่ให้ความเป็นคนแก่ฉัน
เพื่อประจบสอพลอเจ้านาย ฉันทำร้ายผู้ให้กำเนิดได้เพียงนี้เลยหรือ...

แม่ ... หนูขอโทษ
ใคร ??? เคยเป็นแบบฉันบ้าง ......

ชั่วชีวิตของคุณ คุณอาจจะเปลี่ยนงานหลายๆ ครั้ง คุณอาจจะมีเจ้านายนับไม่ถ้วน แต่ตลอดชีวิตของคุณ.....

คุณมีแม่มีเพียงคนเดียวค่ะ คนเดียวจริงๆ ทำดีกับท่านไว้เถอะค่ะ อย่าทำให้ท่านต้องร้องไห้เพราะการกระทำของคุณเลย....

คุณอาจจะรักท่านน้อยลง ทุกๆ วัน แต่ท่านไม่เคยรักคุณลดลงเลย ตรงกันข้ามท่านกลับรักและเป็นห่วงคุณมากขึ้นทุกๆ วัน....

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องแปลกของคนไทยที่ฝรั่งต้องอึ้ง!!!!

แจกหลวงปู่ทวด เนื้อผงแร่น้ำพี้ ให้แก่ทหาร ตำรวจ และบุคคลทั่วไป

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-เรื่องแปลกของคนไทยที่ฝรั่งต้องอึ้ง!!!!

1. ประเทศไทย...ทำไมมีสรรพนาม เรียกแทน ตัวเองและฝ่ายตรงข้ามมากมายหลายคำ ?
ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็จะมีแค่ I กับ You ถ้าเป็นภาษาจีน ก็มี หว่อ
กับ หนี่ แต่ภาษาไทยนี่มีเยอะมากกกก ตั้งแต่ ฉัน-เธอ , เรา-แก , ข้า-เอ็ง ,
ผม-คุณ , เดี๊ยน-หล่อน และอีก สารพัด เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่างๆ
ถ้าคุยกับพ่อแม่อาจจะเรียกตัวเองว่า หนู
ถ้าคุยกับน้องสาวอาจจะเรียกตัวเองว่าฉัน แต่พอไปคุยกับเพื่อน
อาจเรียกตัวเองว่าเรา เอ๊ะ นั่นน่ะสิ ทำไมคนไทยถึงมีสรรพนามเรียก
แทนตัวเองและคนอื่นเยอะขนาดนี้นะ ? น่าสงสัยเหมือนกันนะ !

2. ประเทศไทย .... ทำไมเมืองหลวงชื่อยาวมาก ?
ชาว ต่างชาติมักรู้จักกรุงเทพฯ ในนาม Bangkok แต่ถ้าใครได้รู้ชื่อ
เมืองหลวงเต็มๆ ของกรุงเทพฯ รับรองว่าอึ้งทุกราย ก็ชื่อเมืองหลวง เต็มๆ
ของกรุงเทพฯ เค้ามีชื่อว่า "กรุงเทพมหานคร อมรรัตน โกสินทร์ มหินทรายุธยา
มหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต
สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์" ว่าแต่น้องๆ ท่องกันได้รึเปล่าล่ะ ?

3. ประเทศไทย .... ทำไมคนไทยนามสกุลยาวจัง ?
ในขณะที่ชาวต่างชาติเค้า นามสกุลสั้นๆ แค่ 2-3 พยางค์
บางชาติก็แค่พยางค์เดียว แต่คนไทยส่วนมากนามสกุลย๊าวยาว บางคนยาวกว่า 8-9
พยางค์ บางคนยาวเป็น 10 พยางค์ก็มี เวลากรอกเอกสารสำคัญๆ
เรียกว่าเขียนเกินหน้ากระดาษกันเลยทีเดียว

4. ประเทศไทย .... ทำไมคนไทยชอบ พิมพ์ 5555 ?
ก็เพราะว่าเลข 5 ในภาษาไทยออกเสียงว่า 'ห้า' หรือ พ้องไปเป็น
'ฮ่า' ดังนั้นเวลาพิมพ์หรือแชทกัน แล้วรู้สึก ตลกหรือขำ ก็จะพิมพ์แทน
'ฮ่าฮ่าฮ่า' ว่า '555' บาง คนเผลอเอาไปพิมพ์แชทกับเพื่อน ต่างชาติ
รับรองว่า ฝรั่งงงทุกรายแน่ๆ 555 ไปๆ มาๆ เพื่อนต่างชาติของ
เราดันติดเอาไปใช้คุยกับคนอื่นต่ออีกแน่ะ 555 อ้อ
แต่บางทีคนไทยด้วยกันเองก็มีงงบ้าง เช่น
ค่ารถ เท่าไรอะ
55
จะขำทำไม
เปล่า เฟ้ย หมายถึงค่ารถ 55 บาท

5. ประเทศไทย .... ทำไมอะไรๆ ก็ตีเป็นเลขได้ ?
อู้ ยยย อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยที่แปลกใจ
คนไทยด้วยกันเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมทุกอย่างถึงสามารถตีเป็นเลขได้
ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้(ต้นไม้ร้องไห้ มีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา)
สัตว์(ควายแรกเกิดมี 2 หัว) ของกิน(แตงโมเผือก)
และอะไรอีกสารพัดก็สามารถเอามาตีเป็นเลขได้ คนไทยนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะเนี่ย
อิอิ

6. ประเทศไทย .... ทำไมชื่อเล่นคนไทยถึงแปลกจัง ?
ก็ชื่อเล่นคนไทยมีทั้งชื่อสัตว์(แมว กวาง นก กระต่าย) ผลไม้(ส้ม
เปิ้ล มะปราง ชมพู่) ผัก(คะน้า แตงกวาต้นหอม ขิง) ขนม(วุ้น ปุยฝ้าย เค้ก
ลูกกวาด) เครื่องประดับ (แก้ว แหวน สร้อย) เลข(หนึ่ง สอง สาม สี่)
และอะไรอีกสารพัด เล่นเอาคนต่างชาติอึ้งว่าทำไมถึงตั้งชื่อกันอย่างนี้

มีเพื่อนคนนึงชื่อแตงกวา
คุณเธอไปเรียนต่อที่เกาหลีเลยจัดแจงเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น 'โออี' (ภาษา
เกาหลีแปลว่าแตงกวา) ตอนออกไปแนะนำตัวหน้าชั้น
ทั้งอาจารย์ทั้งเพื่อนขำกันยกใหญ่ว่าคนอะไรชื่อแตงกวา
หารู้ไม่ว่าที่เมืองไทยชื่อแตงกวาออกจะน่ารัก ก็แหม
มีใครเคยเจอชาวต่างชาติชื่อ cucumber rabbit necklace อะไรอย่างนี้มั้ยล่ะ?
ไม่มี๊ไม่มี
มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละที่สามารถเอาสิ่งรอบตัวมาตั้งเป็นชื่อเล่นได้ !
สุดยอดปะล่ะ !

7. ประเทศไทย .... ทำไม....ไหว้อะไรกันที่หน้า บ้าน ?
นั่นก็หมายถึงศาล พระภูมิเองล่ะค่ะ ฝรั่งบางคน(หรือแทบทุกคน)
ได้เห็นแล้วต้องเป็นงงว่า 'นี่คืออะไร บ้านนกเหรอ?' แล้วทำไม
ต้องจุดธูปกับเอาของกินมาถวายบ้านนกด้วยล่ะ ? ดังนั้นก็ต้อง
อธิบายกันซะยืดยาวว่าจริงๆ แล้วนั่นคือศาลพระภูมิที่เชื่อกันว่าเป็นที่
สิงสถิตย์ของเจ้าที่ที่คอยคุ้ม ครอง

แต่แหม พี่ฝรั่งบางคนนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่ทราบ ดันซื้อกลับ
ประเทศไปซะหลายหลัง - -"อย่างนักบอลชื่อดังเดวิด เบคแฮม ก็เป็น
อีกรายที่ซื้อศาลพระภูมิกลับประเทศไปตรึม

8. ประเทศไทย .... ทำไมต้องยืนตรงก่อนหนังฉายในโรงหนัง ?
รับรองเถอะค่ะ
ร้อยทั้งร้อยของชาวต่างชาติที่มีโอกาสได้เข้าไปในโรงหนังของบ้านเรา
ต้องสงสัยทุกรายว่าทำไมต้องยืนตรงก่อนหนังฉาย
ยังไงก็อย่าลืมอธิบายให้เค้าฟังด้วยนะคะว่า 'ต้อง
ยืนตรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี' (ไม่
ว่าจะอยู่ในโรงหนังหรือไม่ก็ตาม)
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยนั่น
เองค่ะ ..... เชื่อมั้ยคะว่า
ชาวต่างชาติบางคนรู้สึกขนลุกและประทับใจต่อเพลงสรรเสริญฯ มาก
บางคนมาเมืองไทยทีไร ต้องหาเวลาเข้าโรงหนัง ไม่ได้เข้าไปดูหนังหรอกนะคะ
แต่เข้าไปยืนตรงแล้วฟังเพลง

9. ประเทศไทย .... ทำไมคนไทยต้องติดรูปนี้ไว้บนฝาบ้าน ?
นั่นก็คือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเองค่ะ
ซึ่งเป็นรูปที่คนไทยต้องมีกันทุกบ้านไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของประเทศไทย
คนไทยบางคน(โดยเฉพาะในเมืองนอก)ถึงกับพกพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์
ติดกระเป๋าสตางค์ พอฝรั่งเห็นเข้าก็แปลกใจว่า เอ๊ะ พกรูปใครมาน่ะ Do you
know him personally (รู้จักเค้าเป็นการส่วนตัวเหรอ) ?
เราไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว
แต่ท่านคือพ่อของคนไทยทุกคนที่พวกเราทั้งรักและจงรักภักดีต่างหาก....

เครดิต cartoonclub ถ้าซ้ำก็ขออภัยนะคะ

มีหลายประเทศเลยนะคะ ที่เค้าสนใจเกี่ยวกับประเทศของเรา รักกันไว้นะ ^^
FW

วันพฤหัสบดีที่ ๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๓

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-วิธีลดน้ำหนัก

AKEtarot เรียนไพ่ยิปซี-วิธีลดน้ำหนัก

ชายอ้วนคน หนึ่งเห็นประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์ว่า
จะ สามารถลดน้ำหนักได้ในเวลาวันเดียว โดยคิดปอนด์ละ 1 ดอลลาร์
เขาจึง ตัดสินใจโทรไปหาบริษัทช่วยลดความอ้วนอันนี้
เมื่อโทรติดมีคนรับสายและถามว่า

" คุณต้องการลดน้ำหนัก เท่าไหร่ครับ"
"10 ปอนด์" ชายอ้วนตอบ สายตอบมาว่า
" ดีมาก , โปรดบอกเบอร์บัตรเครดิตของคุณมา แล้วเราจะส่งพนักงานไปหาที่บ้านพรุ่ง นี้เช้า"

วันต่อมา เวลา 9:00 น. มีคนมาเคาะที่ประตูบ้าน ชายอ้วนเปิดประตูออก
พบว่ามี สาวน้อยนางหนึ่งยืนเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ที่ประตูบ้าน ที่คอของเธอมีป้ายแขวนไว้เขียนว่า
" ถ้าคุณจับฉันได้ ฉันจะให้รางวัล" หลังจากนั้นชายอ้วนก็วิ่งไล่ตามสาว เปลือยไปตามที่ต่างๆในบ้าน
ข้างล่าง , ข้างบน , กระโดดข้ามโซฟา , วิ่งเข้าครัว ฯลฯ ในที่สุดเขาก็จับเธอได้ และมีความสุขกับเธอ
เมื่อ เสร็จแล้ว เธอจึงพูดกับเขาว่า " เร็วเข้า , ลองไปวัดน้ำหนักของ คุณกัน"
เขาทำตาม และพบว่าน่ามหัศจรรย์จริงๆ เขาลดไปได้ 10 ปอนด์ ในเวลาแค่ครึ่งวัน

ในตอนเย็นวันนั้นเขาจึงโทรกลับไป ที่บริษัทเดิมอีก ชายผู้รับสายถาม

" คราวนี้คุณต้องการลด น้ำหนักเท่าไหร่ครับ"
" ผมต้องการลดมากขึ้นกว่าเดิม , เอาซัก 20 ปอนด์เป็นไง" ชายอ้วนพูด
" ดีครับ , เราจะหักเงินตามหมาย เลขเครดิตคาร์ดของคุณ แล้วจะส่งพนักงานไปที่บ้าน
ในวัน พรุ่งนี้ตอนเช้า ขอให้โชคดีครับ"

เช้าวันต่อมา เวลา 8:00 ก็มีหญิงสาวคนใหม่ที่ สวยกว่าเดิมมาเคาะประตูบ้านอีกเช่นเดิม
เธอมีป้าย แขวนไว้ที่คอเขียนไว้ว่า "ถ้าจับฉันได้ คุณจะทำอะไรกับฉันก็ได้" คราวนี้
เธอล่อหลอกชายอ้วนมากกว่าเดิม ทำให้เขาใช้เวลานานขึ้นในการวิ่งไล่ จับ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็จับเธอได้ และก้อ...กับ เธอและกลับไปวัดน้ำหนัก "โอ้โห , วิเศษจริงๆ ฉันลดได้ 20 ปอนด์ อย่างมีความสุข"
ชายอ้วน พูดด้วยความพึงพอใจ

หลังจากนั้นในตอนเย็นเขาจึงโทรไป ที่บริษัทฯอีกครั้งและพูดว่า

" คราวนี้ผมอยากลด มากกว่าเดิมอีก เอา 50 ปอนด์เลย" ชายอ้วนพูด ในใจเขาคิดถึงสาวคนใหม่ที่สวยกว่าวันนี้อีก

" ห้าสิบปอนด์ เลยเหรอะ!" พนักงานทำเสียงดัง "นั่นมันเป็นไป ไม่ได้นะคุณ จะให้มันลดในครั้งเดียวยากมาก"

ชายอ้วนเริ่มไม่พอใจ และพูดว่า
"นี่นาย , เอาเบอร์บัตรเครดิต ฉันไปเลย แล้วพรุ่งนี้รีบส่งพนักงานมาหาฉันให้ได้ในตอนเช้า"เขาพูด ด้วยเสียงอันดัง และรีบวางหู

ในเช้าวันต่อมา เวลา 7:00 น. เขาได้ยินเสียงเคาะประตู เลยรีบวิ่งไปเปิดประตูทันที
ทันใดนั้นเขาพบว่า มีนิโกรคนหนึ่ง ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน มีป้ายแขวนอยู่ที่คอเขียนไว้ว่า

" ถ้ากูจับได้ มึงเจอถั่วดำ..!!!"