aketarot-เรื่องย่อ สาวน้อย
เมื่อชายหนุ่มสูงศักดิ์ผู้สูญเสียความทรงจำจากการโดนทำร้าย เกิดมาพบรักกับสาวชาวเกาะที่ช่วยชีวิตเขา ความรักไม่มีพรหมแดน ไม่มีชนชั้นขวางกั้นระหว่างเขาและเธอ แต่เหมือนฟ้าจะเล่นตลกเมื่อความทรงจำของชายหนุ่มกลับคืนมา แต่ไม่มีความทรงจำเมื่อครั้งที่เขาติดเกาะ มาติดตามเรื่องของคนทั้งคู่ได้ใน aketarot-เรื่องย่อ สาวน้อย
สรรค์ (สน ส่งไพศาล) บุตรคนเดียวของ พระชาญชลาศัย (เกรียงไกร อุณหะนันท์) เสนาบดีกระทรวงการคลัง สรรค์มีความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากเรียนจบจากฟิลิปปินส์ เขาเดินทางกลับมาเมืองไทยพร้อมกับได้หมั้นหมายกับ สุวลี (บุษกร ตันติภนา) คืนวันหมั้นสรรค์ได้รู้ความจริงว่าพ่อมีภรรยาใหม่คือ มารศรี (บงกช คงมาลัย) นักร้องไนท์คลับ ซึ่งมารศรีได้กลายเป็นสาเหตุให้สรรค์ต้องมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพระชาญชลาศัย ด้วยความน้อยใจสรรค์จึงหนีไปอยู่กับ บุญมา(รัชชานนท์ สุขประกอบ) เพื่อนสนิท แต่ระหว่างทางสรรค์โดนดักทำร้ายจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ เมื่อสรรค์รู้สึกตัวก็พบว่าตนเองอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเกาะสีชัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ย่านท่าเรือและได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า เสียม เสียมทำงานเป็นจับกังในเรือ
วันหนึ่งเรือแล่นผ่านเกาะสีชัง เสียมได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะและเกิดหลงไหลในความงดงามของเกาะสีชัง จึงแอบหนีลงจากเรือและว่ายน้ำไปที่เกาะสีชังทันที ระหว่างที่เสียมกำลังว่ายน้ำเขาเกิดหมดแรงไปเสียก่อน แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติจมลงไปใต้ท้องทะเล นิด (วรรณรท สนธิไชย) หญิงสาวชาวเกาะมาพบเข้าและได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย เสียมหลงรักนิดตั้งแต่แรกพบจึงขออาศัยอยู่ด้วย แต่เขาเปรียบเหมือนคนพเนจร จึงทำให้ นิ่ม (ศันสนีย์ วัฒนานุกูล) แม่ของนิดและ เนือง(พงศ์สิริ บรรลือวงศ์) พี่ชาย รวมถึง เชิด (อาณัตพล ศิริชุมแสง) ชายหนุ่มที่หลงรักนิดมานาน รู้สึกไม่พอใจที่เสียมมาอาศัยอยู่ด้วย พวกเค้าจึงคอยตั้งแง่กับเสียมตลอดเวลา แต่ด้วยความดีของเสียมจึงเอาชนะใจของพวกเขาได้
สิ่งที่ทำให้เสียมประหลาดใจคือการค้นพบว่าตนเองมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษและสามารถวาดรูปได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้เสียมจึงตั้งใจวาดรูปนิดและตั้งชื่อรูปนี้ว่า สาวน้อย เขาได้มอบรูปนี้ให้กับเธอในวันแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขบนเกาะสีชัง
แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพระชาญชลาศัยรู้ว่าสรรค์ความจำเสื่อมและอาศัยอยู่ที่เกาะสีชัง จึงรีบตามมาพบสรรค์และพากลับไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่สรรค์ไม่ยอมถ้าไม่มีนิดกลับไปด้วย เพราะเหตุนี้พระชาญชลาศัยจึงจำใจยอมพานิดไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ผลการรักษาทำให้ความทรงจำของสรรค์กลับคืนมา แต่โชคร้ายที่ความทรงจำของสรรค์ตอนที่อยู่เกาะสีชังกลับหายไป แม้กระทั่งนิดหญิงสาวที่สรรค์รักสุดหัวใจเขาก็จำเธอไม่ได้ สุวลีกังวลว่าสักวันหนึ่งสรรค์จะจำนิดได้หากทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เธอจึงออกอุบายให้นิดไปทำงานเป็นข้ารับใช้ของ คุณหญิงมะลิ (วาสิฏฐี ศรีโลฟุ้ง) ภรรยาของ พระยาธรรมนูญ (เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์)
ระหว่างที่นิดเป็นข้ารับใช้เธอรู้ว่าคุณหญิงมะลิแอบคบชู้กับ หลวงจินดา (ปิยะ วิมุกตายน) เธอจึงคิดจะนำเรื่องนี้ไปบอกพระยาธรรมนูญ แต่ไม่ทันจะได้บอกนิดก็ถูกคุณหญิงมะลิจับได้ และหาเรื่องใส่ความทำให้เธอมีความผิดต้องติดคุก ทำให้นิดได้พบกับ ชด (อริศรา วงษ์ชาลี) นางละครซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ในคุกนี้เองนิดกับชดกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจ เพราะทั้งคู่รักในเสียงเพลงและการแสดงเหมือนกัน จากนั้นไม่นาน แก้ว (ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) เพื่อนสนิทของนิดที่พยายามหาทางช่วยให้นิดพ้นโทษ ได้นำความจริงที่คุณหญิงมะลิคบชู้ไปบอกกับพระยาธรรมนูญ
เมื่อพระยาธรรมนูญรู้ความจริงจึงช่วยให้นิดและชดพ้นโทษออกมาพร้อมกับจัดตั้งคณะละครของชดให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนิดก็กลายเป็นนางเอกสาวพราวเสน่ห์ ผู้คนต่างชื่นชมและเรียกขานเธอว่า วนิดา เมื่อมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองเธอจึงกลับมาหาสรรค์อีกครั้ง เพื่อทวงชายอันเป็นที่รักคืนมาจากสุวลี ในเมื่อสุวลีทั้งสวยและฉลาด เธอหรือจะยอมเป็นผู้พายแพ้ เมื่อไม่มีใครยอมใคร บทสรุปของการต่อสู้ชิงชัยในความรักระหว่างหญิงสองคนจะลงเอยเช่นไร? ติดตามชมได้ใน ละครสาวน้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น