วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-กาแฟ เค็มหรือกาแฟหวาน

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-กาแฟ… ใส่เกลือเค็มหรือหวาน

กาแฟเ็ป็นเครื่องดื่มที่ดื่มกันได้ทั้ง กาแฟเย็น กาแฟร้อน กาแฟใส่นม กาแฟใส่ครีม กาแฟใส่น้ำตาล แต่มีอีกหนึ่งเมนูของผู้ชายคนนี้ที่ดื่มเป็นกาแฟใส่เกลือ โอ้ รสชาติคงแปลก ๆ เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกาแฟใส่เกลือที่ทั้งเค็มและหวานกันเลย

กาลครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาเจอเธอในงานเลี้ยง แห่งหนึ่ง เธอดูโดดเด่นมาก และมีคนมากมายรุมล้อมเธอ ในขณะที่เขาดูเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีใครใส่ใจเขาเลย และหลังงานเลี้ยงเลิก เขาได้มีโอกาสชวนเธอไปทานกาแฟต่อ เธอประหลาดใจมาก แต่ท่าทีที่สุภาพของเขา ทำให้เธอตอบตกลง

พวกเขานั่งในร้านกาแฟดีๆแห่งหนึ่ง เขาดูประหม่าจนพูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกอึดอัดมาก จนคิดในใจว่า ได้โปรดให้ฉันกลับบ้านเหอะ แต่ทันใดนั้น….. เขาถามบ๋อยว่า ขอเกลือป่นได้ไหม อยากเอามาใส่ในกาแฟ ทุกคนในร้านหันมาจ้องเขาด้วยความประหลาดใจ เขาอายจนต้องก้มหน้า แต่ก็ยังเติมเกลือลงในกาแฟ และก็ดื่มมันเสียด้วย

ทำให้เธอต้องถามเขาอย่างอดไม่ได้ว่า ทำไม ชอบกาแฟรสชาติแบบนี้ เขาตอบว่า เมื่อเขายังเด็ก บ้านเกิดเขาอยู่ริมทะเล เขาเป็นลูกน้ำเค็ม เล่นกับทะเลทุกวัน เคยชินกับรสเค็มของเกลือ เหมือนกับรสชาติของกาแฟเค็ม เพราะฉะนั้นเมื่อทุกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสกาแฟเค็มๆ เขาก็จะคิดถึงวัยเด็ก คิดถึงบ้านเกิด เขาคิดถึงพ่อแม่ทียังอยู่ที่นั่น

เธอก็เริ่มประทับใจในตัวเขา เริ่มชวนเขาคุย เล่าถึงบ้านเกิดของเธอบ้างชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวของเธอ เธอกับเขาคุยกันถูกคอมากขึ้นเรื่อยๆ และจากการเริ่มต้นที่ดี ทำให้เขากับเธอคืบหน้าความสัมพันธ์ต่อไปจนทีสุด เธอ ก็ค้นพบว่า เขาคือผู้ชายแบบที่เธอต้องการอย่างแท้จริง เขาใจกว้าง อ่อนโยน อบอุ่น และดูแลเป็นอย่างดี เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอเกือบจะมองข้ามเขาไป!

หลังจากนั้นอีกสี่สิบปี เขาก็จากเธอไป ทิ้งจดหมายไว้ให้เธอฉบับหนึ่ง ข้างในมีใจความว่า
"ที่รัก อภัยให้ผมด้วย ที่ต้องโกหกคุณชั่วชีวิต มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมโกหกคุณ เรื่องกาแฟเค็มนั่น
จำวันแรกที่เรามีนัดกันได้ไหม ผมประหม่ามากในตอนนั้น จริงๆแล้วผมต้องการน้ำตาล
แต่ผมพูดผิดเป็นขอเกลือ ซึ่งมันยากที่จะกลับคำในตอนนั้น ผมจึงต้องปล่อยมันไป

ซึ่งผมไม่คิดว่า นั่นจะทำให้เราได้เริ่มต้นการพูดคุยกัน ผมพยายามที่จะสารภาพกับคุณหลายต่อหลายครั้ง
แต่ ผมก็ไม่กล้าที่จะสารภาพออกไป ทำให้ผมสัญญากับตัวเองว่า จะไม่โกหกอะไรคุณอีกแม้แต่ครั้งเดียวตอนนี้ผมจากไปแล้ว ผมไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีก ดังนั้นจึงเล่าความจริงในจดหมายฉบับนี้ แท้จริงแล้วผม ไม่ได้ชอบทานกาแฟรสเค็มเลยแม้แต่น้อย มันรสชาติค่อนข้างแย่ทีเดียว แต่ว่าผมทานมันตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่ได้รู้จักคุณ ผมไม่เคยนึกเสียใจในสิ่งที่ทำเพื่อคุณเลย

การได้พบคุณเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดชีวิตของผม ถ้าผมได้มีโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง ผมก็ยังอยากจะได้พบคุณ และมีคุณเป็นภรรยาผมอีกครั้งเช่นกันแม้ว่าผมจะต้องดื่มกาแฟรสเค็มอีกตลอด ชีวิตก็ตาม!"

น้ำตาของเธอหยด ใส่กระดาษจดหมาย จนเปียกชุ่ม และหลังจากนั้น หากมีใครถามเธอ
กาแฟรสเติมเกลือรสชาติเป็นเช่นไร เธอก็จะตอบเสมอว่า “มันหวาน”

แล้วคุณล่ะคิดว่ากาแฟใส่เกลือ เค็มหรือหวานล่ะ?

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-กฎเหล็กของบริษัท

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-กฎของบริษัท

ประกาศจาก ทีมผู้บริหารบริษัท

มีความยินดีจะแจ้งให้ทุกคนทราบถึง
กฎบริษัทที่เพิ่งจะได้อนุมัติจากคณะกรรมการ
หลังจากที่มีการประชุมใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
คณะผู้บริหารหวังเป็นอย่าง ยิ่งว่า..
พนักงานทุกคนคงจะยินดีปรีดาไม่น้อยกว่าคณะผู้บริหารเหมือนกัน

กฏของบริษัทมีดังนี้....

1. การใช้ยานพาหนะ
-ทางบริษัทอยากแนะนำให้พนักงานทุกคนเดินทางมาทำงานโดยใช้ยวดยานพาหนะที่เหมาะสมกับเงินเดือนของตัวเอง

* หากทางบริษัทเห็นว่าพนักงานท่านใดขับรถยนต์ฮอนด้ามาทำงานทางบริษัทก็ตระหนัก ดีว่า ท่านไม่สมควรที่จะได้รับการพิจารณาปรับเงินเดือนขึ้นแต่อย่างใดเพราะท่านก็ พอมี พอกิน อยู่แล้ว

* หากพนักงานท่านใดที่ขับรถยนต์เก่าเกินกว่า 10 ปี มาทำงาน หรือนั่งรถโดยสารมาทำงาน ทางบริษัท ก็ตระหนักดีว่า ท่านไม่สมควรที่จะได้รับการพิจารณาปรับเงินเดือนขึ้นแต่อย่างใด เพราะท่านเป็นคนที่มัธยัสถ์และเก็บเงินเก่งอยู่แล้ว

* หากพนักงานท่านใดที่ขับรถยี่ห้ออื่นมาทำงาน ท่านไม่สมควรที่จะได้รับการพิจารณาปรับเงินเดือนขึ้นแต่อย่างใด เพราะท่านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว

2. การลาพักร้อน
พนักงานทุกคนมีสิทธิ์ที่จะลาหยุดได้ 104 วัน ต่อปี คือวันเสาร์และวันอาทิตย์

3. เวลาพักกลางวัน
* พนักงานท่านใดที่ผอมสลิม สแลนเดอร์ จะได้รับอนุญาตให้พักเที่ยงได้ถึง 30 นาที เพื่อที่จะได้ทานอาหารอย่างเต็มที่และเต็มอิ่ม

* พนักงานท่านใดที่ดูไม่ผอม ไม่อ้วน กำลังพอดี จะได้รับอนุญาต ให้พักเที่ยง ได้ 15 นาที เพื่อจะได้ไม่มีเวลาทานมากจนเกินไป เดี๋ยวจะอ้วนขึ้นซะเปล่าๆ

* พนักงานท่านใดที่น้ำหนักเกินพิกัด จะได้รับอนุญาตให้พักได้ 5 นาที เพื่อว่าจะได้ดื่มอาหารจำพวกธัญญพืชหรือยาลดความอ้วน

4. การลาป่วย
ทางบริษัท จะไม่ยอมรับใบรับรองแพทย์อีกแล้ว เพราะบริษัทได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงดีว่า หากพนักงานท่านใดป่วยแต่ยังสามารถไปหาแพทย์ได้ ก็สามารถไปทำงานได้เช่นเดียวกัน

5. การใช้ห้องน้ำ
ทางบริษัท ได้สังเกต ค้นคว้า วิจัย ออกมาแล้วว่า พนักงานส่วนใหญ่เสียเวลาไปกับห้องน้ำนานมากก ทางบริษัทจึงได้ติดตั้งเครื่องมือเอาไว้ หากพนักงานท่านใดใช้เวลาเกินกว่า 3 นาที เสียงเตือนระบบไซเรนท์จะดังขึ้น ม้วนกระดาษชำระจะถูกเก็บเข้ากล่อง ประตูจะเปิดออกโดยอัตโนมัติ และพนักงานท่านนั้นจะถูกถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

หากพนักงานท่านใด ยังนั่งห้องน้ำ เกิน 3 นาทีเป็นครั้งที่สอง รูปที่ถูกบันทึกไว้จะถูกตีพิมพ์ ส่งไปยังตามบอร์ดต่างๆในทุกแผนกของบริษัท เพื่อเป็นการเตือนผู้ร่วมงานท่านอื่นๆ


6. การผ่าตัด
ตราบ ใดที่ท่านยังเป็นพนักงานบริษัทอยู่ ท่านไม่สามารถไปผ่าตัดได้ตามอำเภอใจ เพราะทางบริษัทต้องการท่าน และได้รับท่านเข้ามาทำงาน พร้อมกับอวัยวะที่ครบ 32 ประการ หากท่านไปผ่าตัดถือว่าท่านไม่ได้ทำตามสัญญาและข้อตกลงที่ได้ให้ไว้

7. การใช้ INTERNET
การใช้เน็ตจะถูกบันทึกไว้ในระบบของบริษัท หากทางบริษัทเห็นว่า
ท่าน ใช้เน็ตเป็นการส่วนตัว ทางบริษัทจะหักค่าใช้จ่ายนี้จากโบนัสประจำปีของท่าน (ถ้ามี) และหากในปีนั้นไม่มีโบนัสประจำปี ทางบริษัทก็จะหักค่าใช้จ่ายนี้จากเงินเดือนของท่านตามบันทึกของระบบ 73% ของพนักงานจะไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือน


***ปล.. หากพนักงานผู้ใด มีข้อสงสัย หรือต้องการจะปรึกษา ก็ให้ติดต่อที่ห้องผู้บริหารได้ทุกเมื่อ (ถ้าอยู่)**


ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-เรื่องย่อเทพธิดาปลาร้า


ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-เรื่องย่อเทพธิดาปลาร้า

เป็นเรื่องราวของสาวใบหม่อน ที่มีความขยัน อดทน มีความคิดในการพัฒนาธุรกิจพื้นบ้าน สู่ธุรกิจอินเตอร์ สินค้าที่ว่าคือ ปลา (เมื่อย) ร้าส่งออก แต่หนทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มะ มาเลยมาอ่านเรื่องราวสนุกสนุกดีกว่า

ใบ หม่อนลูกสาวผู้ใหญ่อ้วก ต้องการให้ใบหม่อนเรียนหนังสือแต่เงินทองไม่ค่อยจะพอใช้ ใบหม่อนเองก็อยากเรียนเช่นกันจึงตัดสินใจเข้าไปเรียนต่อในอำเภอโดยไปอาศัย อยู่กับบ้านของคำหลอยเพื่อนสนิทที่ครอบครัวมีร้านอาหารอีสาน ใบหม่อนอยากมีปลาร้ากระป๋องโกอินเตอร์ ส่วนทางคำหลอยอยากมีร้านอีสานเฟรนไซน์ทั่วไทย

มหัศจรรย์ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าต่าง และทรัพย์สมบัติ มีคุณสุดสวยผู้เป็นแม่สอนเอาไว้ว่า อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนจนไม่มีระดับ ท่านสส.ปาฎิหารย์ จึงส่งลูกชายสุดที่รักไปเรียนวิชาพัฒนาชีวิตมนุษย์ต้องไปอยู่บ้านนอกเพื่อ เรียนรู้ชีวิตแบบพอเพียง มหัศจรรย์ถึงกับคอตกยืนกรานไม่ไป

ต่อมามหัศจรรย์ได้พบกับสาวสวยไฮโซร่วมฤดี ซึ่งวางแผนจับมหัศจรรย์ และก็เป็นไปตามแผน ร่วมฤดีจึงขอร้องให้แต่งงานกับเธอ แต่ปาฏิหารย์รั้งไว้อ้างว่าต้องไปคลุกคลีกับชาวบ้านสามเดือนก่อน มหัศจรรย์ต่อรองว่ากลับมาต้องยกที่ดินซอยทองหล่อให้เป็นเรือนหอ

ในที่สุดมหัศจรรย์ก็เดินทางไปอีสาน เป็นช่วงปิดเทอมพอดีใบหม่อนกับคำหลอยเดินทางกลับบ้านจึงได้รับคำสั่งจาก ผู้ใหญ่ให้เป็นพี่เลี้ยงลูกชายท่านสส.ปรากฎว่าผู้ชายคนนั้นคือมหัศจรรย์ ชายหนุ่มที่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใบหม่อนและคำหลอยที่ร้านอาหารอีสานในอำเภอ มหัศจรรย์โกรธมากโทรบอกท่าน สส.ว่าจะกลับแต่ถูกดุและพูดเรื่องเรือนหอที่ซอยทองหล่อจึงต้องยอมอยู่ต่อไป

ที่กรุงเทพฯ ร่วมฤดีไปตีสนิทกับสุดคะนึงน้องสาวนิสัยเสียของมหัศจรรย์ด้วยการวางแผนของ รวยรื่นและเสี่ยหิน เสี่ยหินเห็นสุดคะนึงทั้งสวยทั้งรวยจึงวางแผนกับสองแม่ลูกให้แนะนำให้ตน รู้จักแกล้งทำตัวเป็นพ่อหม้ายเมียตายเนื้อหอม รวยมหาศาลไปจีบสุดคะนึงสำเร็จ คุณสุดสวยดีใจแต่ท่านสส.ปรามไว้ เสี่ยหินแต่งงานกับสุดคะนึงเพราะสุดคะนึงท้อง ทำเอารวยรื่นถึงกับช็อคและอาฆาตมาก

สาม เดือนผ่านไปมหัศจรรย์กลับกรุงเทพฯ รวยรื่นได้ข่าวการตัดถนนผ่านที่นาของชาวบ้านจึงวางแผนหลอกทำโฉนดปลอมเอา ที่ดินของชาวบ้านไปขาย โดยมีที่นาของพ่อแม่ใบหม่อนได้รับความเดือดร้อนด้วย ใบหม่อนแค้นใจมากสาบานว่าจะเอาที่นาคืนมาให้ได้จึงอยากเรียนนิติศาสตร์เป็น ทนายความเพื่อทวงที่นาคืน

ใบหม่อนจึงตัดสินใจเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ โดยมีคำหลอยติดตามมาด้วย ทั้งสองได้งานทำที่บ้านเศรษฐีแห่งหนึ่งโดยไม่รู้ว่าบ้านหลังนั้นเป็นของ มหัศจรรย์ มหัศจรรย์ที่ไปเที่ยวทะเลกับร่วมฤดีกลับมาพบว่าสองสาวอยู่ในถึงกับพากันไล่ ออกจากบ้าน แต่ท่านสส.และเสี่ยหินห้ามเอาไว้ ใบหม่อนแอบทำปลาร้า นำไปขายที่รถเข็นของบักซกเล็ก จนมีคนกินส้มตำเริ่มสนใจและสั่งซื้อปลาร้าของใบหม่อนเพิ่มขึ้น

ใบหม่อนแอบไปสมัครเรียนกฎหมายกะจะจบในเวลาสามปีให้ได้ ปลาร้าเริ่มขายดีอาหารอีสานคำหลอยก็มีคนติดใจมีรายได้พอสมควร ส่วนมหัศจรรย์ก็แปลกใจตัวเองที่วันไหนไม่ได้ทะเลาะกับใบหม่อนก็รู้สึกอึดอัด เหมือนมีอะไรขาดหายไป เสี่ยหินเริ่มฮุบสมบัติได้มากขึ้นพารวยรื่นไปเล่นการพนันที่บ่อนชายแดน บังเอิญใบหม่อน คำหลอยและบักซกเล็กไปส่งปลาร้าที่นั่น และได้รู้ความจริงว่าที่แท้สุดคะนึงน่าจะโดนหลอกและสองคนนี้เป็นนักพนันตัว ยง

ร่วมฤดีหมั้นกับมหัศจรรย์ในเวลาต่อมาและวางแผนสร้างเรือนหอที่ซอยท่องหล่อ แต่งงานโดยทันทีแต่มหัศจรรย์กลับเฉื่อยชาลงไป ใบหม่อนสอบได้เนติบัณฑิตกลายเป็นทนายชั้นดี กิจการปลาร้าดีวันดีคืน คำหลอยและบักซักเล็กตกหลุมรักกันกลายเป็นหุ้นส่วนชีวิตในเวลาต่อมา พวกบ้านท่านสส.เมื่อรู้ว่าโดนหลอกหมดเนื้อหมดตัว ต้องไปเช่าบ้านอยู่เหลือเงินเพียงเล็กน้อย

สุดสวยฟ้องลูกเขยเสี่ยหินและฟ้องร่วมร่วมฤดีว่าที่ลูกสะใภ้ สำนักงานกฎหมายส่งทนายสาวว่าความให้ทั้งหมดถึงกับตะลึง เพราะทนายความสาวช่างเหมือนกับสาวใช้ใบหม่อน ในที่สุดท่านสส.ละครอบครัวก็ชนะคดีความได้ทรัพย์สมบัติคืนมาทั้งหมดและใบ หม่อนก็สามารถฟ้องเอาที่ดินชาวบ้านกลับคืนมาได้

มหัศจรรย์ทนคิดถึงใบหม่อนไม่ไหวบอกท่านสส.แม่และน้องสาวว่าจะ ๆ ไปดูแลมวลชนที่อีสาน ที่อีสานมหัศจรรย์มาพบใบหม่อนในฐานะสาวชาวบ้านทำปลาร้าเหมือนเดิมและยังได้ พบกับสาวทนายความที่ไปว่าความฟรีให้ชาวบ้านที่โดนโกง มหัศจรรย์สับสนไปหมดรักทั้งสองคน ในที่สุดมหัศจรรย์จึงมาสารภาพรักกับใบหม่อนสาวชาวบ้านทำปลาร้าขายชาวบ้านโดย ไม่สนใจว่าเธอเคยเป็นสาวใช้ที่บ้าน

มหัศจรรย์ ไม่กลับกรุงเทพฯ และช่วยผลิตปลาร้าส่งออก ส่วนคำหลอยเปิดร้านอาหารอีสานมาตรฐานกับซกเล็กมีเฟรนชายน์ขายไปทั่วและเป็น เอเยนต์ปลาร้ายี่ห้อเทพธิดาปลาร้า มหัศจรรย์เป็นผู้อำนวยการโครงการทนายอาสาและต่อมาสมัครเป็นสส.ที่เขตนั้นได้ เป็นสส.ที่ประชาชนรักมากที่สุดคนหนึ่ง ติดตามเรื่องราวความสนุกสนานเฮฮาของ ละครเทพธิดาปลาร้า

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

วันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-เรื่องย่อ ละอองดาว


ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-เรื่องย่อ ละอองดาว

ละอองดาว เป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงกำพร้าคนหนึ่งที่ได้เป็นลูกบุตรธรรมของ ดร.ไกร และเมื่อเธอเติบโตขึ้นเป็นสาวสวย และมีหนุ่ม ๆ มาติดพันกันหลายคน ใครนะจะเป็นผู้ชนะในเรื่องความรัก ตลอดจนความลับในเรื่องชาติกำเนิดของเธอได้เปิดเผยขึ้น เธอไม่ใช่เป็นสามัญคนคนธรรมดา อยากรู้แล้วล่ะสิ อ่านกันได้เลย

กรกฏ เดินทางกลับจากอเมริกาทันที หลังจากได้รับข่าวการเสียชีวิตของ ดร.ไกร ผู้เป็นบิดา ขุนอรรถวาที ทนายประจำตระกูล ได้แจ้งให้ทราบถึงเงื่อนไขในพินัยกรรมว่า เขาจะได้รับมรดกก็ต่อเมื่อได้แต่งงานกับ ละอองดาว หญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นน้องเลี้ยงที่ดร.ไกรรับมาเลี้ยงไว้จากเพื่อนสนิทคน หนึ่ง กรกฏเคยเจอกับละอองดาวไม่กี่วันก่อนที่เขาจะถูกส่งไปเรียนที่อเมริกาความทรง จำสุดท้ายของเขาที่มีต่อละอองดาวคือ เด็กหญิงตัวมอมแมม ขี้มูกเกรอะกรัง

ตัว กลมเหมือนไหกระเทียม หน้าตาเหมือนเด็กเป็นโรค กรกฏรับไม่ได้กับเงื่อนไขในพินัยกรรม เพราะเขามี ผดาชไม นักร้องสาวสังคมจัดเป็นแฟนอยู่แล้ว เขาคิดว่าละอองดาวหวังสมบัติและประจบพ่อของเขาจนหลงเป็นเหตุให้ทำพินัยกรรม ประหลาดนี้ขึ้น พินัยกรรมระบุว่าถ้าครบ 1 ปีละอองดาวเป็นฝ่ายตัดสินใจปฏิเสธการแต่งงานกับเขา หรือแต่งงานกับคนอื่นไปก่อนเงื่อนไขนั้นก็จะเป็นโมฆะ กรกฏก็จะได้รับมรดกทั้งหมด

เขาจึงจ้าง ธัชชัย เพื่อนสนิทซึ่งเป็นทนายหนุ่มมาจีบละอองดาว เพื่อตัวเขาจะได้แต่งงานกับผดาชไมสมความปรารถนา แต่เมื่อกรกฏได้เจอกับละอองดาวเขาก็ตะลึงไปกับความสวยของเธอ แต่ด้วยอคติจึงเข้าไปต่อว่าเธอว่าโลภมาก อยากได้สมบัติ และเขาจะไม่ยอมแต่งงานกับเธอ ละอองดาวแปลกใจเพราะไม่รู้เรื่องพินัยกรรมมาก่อน แต่เธอก็พร้อมจะหลีกทางให้ถ้าเขาไม่ต้องการ ธัชชัยมาทำความรู้จักกับละอองดาวแต่กรกฏกลับแสดงความหึงหวง

ละอองดาว ทำเย็นชากับเขาก็ยิ่งทำให้เขาหมั่นไส้จนมีการปะทะคารมกันอยู่บ่อยๆ ละอองดาวไปสมัครงานที่วังนภดลของ พระองค์เจ้าพราวนภางค์ นภดล อดีตราชินีอาณาจักรคีรีรัฐ หลังจากพระสวามีสิ้นพระชนม์จึงย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย เจ้าพราว นภางค์ถูกชะตากับละอองดาวเป็นอย่างมากจึงรับเข้าทำงาน เจ้าคำอินทร์ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานก็เกิดถูกชะตาเธอเหมือนกัน จึงอาสาไปรับไปส่งยิ่งทำให้กรกฏไม่พอใจ ที่วังนภดลละอองดาวได้เห็นภาพวาดชายหนุ่มคนหนึ่ง

ก็รู้สึกผูกพัน อย่างประหลาด ต่อมาจึงได้รู้ว่าเขาคือ จักราชัย โอรสของเจ้าพราวนภางค์ ที่ถูกถอดยศเพราะมาหลงรักหญิงคนไทย ก่อนจะไปใช้ชีวิตเป็นกบฏใต้ดินที่ฝรั่งเศสและเสียชีวิตที่นั่น ขณะที่มีลูกสาวคนหนึ่งจักราชัยได้ฝากให้ดร.ไกรนำมาเลี้ยงดู ท่านชายสดายุ หลานชายของเจ้าพราวนภางค์กลับจากฝรั่งเศส และเคยรู้จักกับละอองดาวมาตั้งแต่อยู่ฝรั่งเศส จึงเชิญเธอไปร่วมงานบอลล์วันเกิดที่วังมยุรฤทธิ์ของท่าน

และในงาน เลี้ยงถ้าหากหญิงคนไหนได้ออกเต้นรำกับท่านชายเป็นคนแรก คนนั้นก็คือคู่ครองของท่าน ผดาชไมหวังเกาะคนมีฐานะและชื่อเสียง เธอจึงหว่านเสน่ห์ท่านชายตลอดเวลา โดยไม่สนใจสายตาของกรกฏแม้แต่น้อย กรกฏเองก็คอยจับตาดูละอองดาว แต่เมื่อเห็นท่านชายสนใจเธอเขาก็รู้สึกดูด้อยค่าไปทันที ในงานเลี้ยงของท่านชายกรกฏดื่มเหล้าจัดย้อมใจอย่างประชดชีวิต ผดาชไมเริ่มรู้ว่าละอองดาวเป็นคู่แข่ง

จึงตามไประรานให้ละอองดาวเลิก ยุ่งกับกรกฏและทวงหนังสือปฏิเสธการแต่ง เธอจึงเขียนหนังสือยกเลิกสัญญาการแต่งงานและนำไปให้กรกฏ แต่เขากลับจุดไฟเผาสัญญานั้นเป็นจุณ ละอองดาวมีหนุ่มๆ ทั้งธัชชัย, เจ้าคำอินทร์ และท่านชายสดายุ มารุมจีบทำให้กรกฏรู้สึกหึงหวง แต่ก็แสดงออกอะไรมากไม่ได้จึงได้แต่ตัดพ้อกับละอองดาวอย่างน้อยใจ ผดาชไมหาทางกลั่นแกล้งละอองดาวแต่ก็ทำให้เธอกับกรกฏได้อยู่กันตามลำพังบ่อยๆ

กรกฏเศร้าหนักถึงกับกินเหล้าจัดจนกลายเป็นคนติดเหล้า ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ละอองดาวต้องมาคอยเฝ้าและสั่ง คนในบ้านให้นำเหล้าไปซ่อนให้หมด แต่กรกฏก็อาละวาดหาเหล้ามากินจนได้ ผดาชไมแอบไปควงคู่กับพ่อเลี้ยงเชียงใหม่หวังเกาะคนรวย กรกฏจับได้คาหนังคาเขา และยังมีรูปเธอกับพ่อเลี้ยงประจานหราในหนังสือพิมพ์แต่เธอก็ไม่ยอมรับผิด ผดาชไมโกรธละอองดาวมากจึงยิงปืนใส่ละอองดาวจนเธอได้รับบาดเจ็บ

สุด ท้ายผดาชไมก็ถูกเมียหลวงของพ่อเลี้ยงตามมาเล่นงานสาดน้ำกรดใส่หน้าจนเสียโฉม ไป ดร.ไกรเขียนจดหมายทิ้งไว้ก่อนตาย พร้อมด้วยสร้อยล็อกเกตฝากไว้ที่ท่านขุนอรรถฯ บอกว่าเมื่อละอองดาวอายุครบ 25 ปีเมื่อไหร่ให้นำของสองสิ่งนี้มาให้เธอ กรกฏนำของนั้นมาให้ละอองดาวที่วังนภดล เจ้าพราวนภางค์เป็นคนเปิดอ่านจึงได้รู้ว่าละอองดาวเป็นหลานของท่านที่ตามหา มานาน 25 ปี กรกฏเห็นว่าละอองดาวเป็นหลานของเจ้าผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ เขารู้ทันทีว่าฐานะของตัวเองห่างไกลกันนักจึงเดินคอตกกลับมาที่บ้าน

ช่วง เวลานั้นทั้งกรกฏและละอองดาวพยายามทำตัวห่างเหินกันเพื่อตัดความสัมพันธ์ทาง ใจ สุดท้ายกรกฏก็ตัดสินใจเขียนจดหมายยกสมบัติทั้งหมดให้กับสาธารณกุศลและคิดออก บวช ส่วนละอองดาวได้รับฟังคำตักเตือนของท่านชายสดายุที่รู้ว่าเธอหลงรักกรกฏ แต่พยายามปิดซ่อนความรู้สึก ให้เธอทำตามที่หัวใจต้องการละอองดาวได้คิดจึงรีบไปหากรกฏที่บ้าน กลับพบจดหมายที่เขาเขียนทิ้งไว้และเดินทางไปบวชแล้ว เธอจึงรีบตามไปง้อและปรับความเข้าใจกัน

ร้านค้าออนไลน์
ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก
http://www.digitallife-shop.com/

http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-เรื่องย่อ หงส์ฟ้า



ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-
เรื่องย่อ: หงส์ฟ้า

เรื่องราวของเด็กผู้หญิง มีศักดิ์เป็นถึงธิดารัชทายาทรัฐอิสระแห่งหนึ่งทางเหนือประเทศไทย ชีวิตที่เล่นตลกทำให้ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ผู้สูงศักดิ์ ไปอยู่ในความเลี้ยงดูของขอทาน แต่ด้วยความดี ความงาม ความกตัญญู และความอดทน ทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคนานา พิสูจน์คุณค่าของความเป็นหงส์ ถึงอย่างไรก็เป็นหงส์ และก็เป็นถึงหงส์ผงาดฟ้า

นาฏลดาถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎาผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏ ลดากับอนุวัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย

วิทย์ ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน...ส่วนเด็กทา รกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ แกเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์ที่ผูกข้อมือทารก ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า” แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” บางทีก็ “อีกะลา” ตามแต่จะเรียก ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา” และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้ กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่ ทำให้พิกุล แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ หลานยายนิ่ม ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย กะลาไม่อยากทำ แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก

วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน คนขับชนแล้วหนีไป กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้ เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ก็ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้ วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงขอร้องไว้ และจะอุปการะกะลา เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่า นั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ

กะลามาถึงรถตู้ของอนุวัฒน์ นาฏลดาดีใจมาก ขณะที่รถตู้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อนุวัฒน์ให้เงินกะลาพันบาทเพื่อซื้อน้ำดื่ม กะลาหลงเชื่อ แต่เมื่อลงจากรถไป อนุวัฒน์ก็สั่งให้วิทย์ขับรถหนีไป กะลาวิ่งตามจนหกล้ม เธอคิดแค้น ผูกใจเจ็บ และคิดว่านาฏลดาเปลี่ยนใจ และไม่รักษาสัญญา ส่วนนาฏลดาเสียใจมาก ทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ยายนิ่มนำเงินของกะลาไปเล่นหวย และใช้หนี้ค่าแชร์ที่ติดค้างเจ้าหนี้ไว้ บุญช่วยได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ ขาของบุญช่วยเสียข้างหนึ่ง ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาเข้ารับฝึกอาชีพในสถานสงเคราะห์คนพิการ รอคอยการกลับมาของกะลา ลูกสาวที่เขาแสนรัก เช่นเดียวกับมานพที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก

ชีวิตสมรสของนาฏลดาเหมือนตกอยู่ในนรก อนุวัฒน์ทรมานใจเธอ เขารู้ว่าตลอดเวลาเธอไม่เคยลืมคนรักเก่า รัชนีวิภา ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา นำความลับเรื่องที่เธอเคยท้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาแล้ว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณหญิงชฎามารดาของนาฏลดาบอกใครๆ รัชนีวิภาจ้างสด หัวหน้าแม่บ้านให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว และหาทางกลั่นแกล้งนาฏลดาทุกวิถีทาง แม้สำลีจะคอยช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทุกครั้ง รัชนีวิภาหาทางทำลายชีวิตสมรสของนาฏลดา เพื่อเธอจะได้อยู่กินกับอนุวัฒน์อย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในฐานะเมียเก็บอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่นาฏลดาไม่สามารถหย่าได้เพราะธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างหนัก ต้องใช้เงินทุนของอนุวัฒน์พยุงธุรกิจไว้

กะลาเร่ร่อนไป ในย่ามเก่าๆมีเพียงกะลาที่ใช้ขอทาน เธอตัดสินใจใช้กะลาของบุญช่วยขอทานเพื่อยังชีพ และรับจ้างทำงานสารพัด หลายครั้งที่ต้องผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายเธอหนีไปแอบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูอารี มาพบเข้าและอุปการะ จัดการให้เรียนหนังสือ ต่อมาคุณหญิงชฎากับนาฏลดามามอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนนี้ นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตนตามที่เคยสัญญากันไว้ กะลาต่อว่านาฏลดาที่ไม่รักษาสัญญา คุณหญิงชฎาเห็นว่าลูกสาวมีความต้องการอุปการะกะลาจริง จึงยินดีให้กะลาไปอยู่กับตน คอยรับใช้เล็กๆน้อยๆ กะลาจึงลาครูอารีไปอยู่กับคุณหญิงชฎา อนุวัฒน์รู้เรื่องก็โกรธนาฏลดามาก สั่งห้ามไม่ให้พาเด็กกะลาเข้ามาในบ้าน

กะลาโตเป็นสาว สวย ผิวพรรณดี คุณหญิงชฎาเมตตากะลามาก และมักจะพาออกงาน คุณหญิงชฎาเลยคิดจะตั้งชื่อให้เธอใหม่ แต่กะลาพอใจจะใช้ชื่อนี้ หรือไม่ก็ชื่อหงส์ฟ้า วันที่เธอเล่าให้คุณหญิงฟังเรื่องที่มาของชื่อหงส์ฟ้า นาฏลดาอยู่ด้วย ทำให้เธอมั่นใจว่ากะลาคือลูกสาวของตน แต่มิอาจเปิดเผยกับกะลาได้ เพราะรู้ว่ากะลายังไม่หายโกรธเธอ..อีกทั้งจะทำให้อดีตของเธอถูกเปิดเผยต่อ สังคมวงกว้างมากขึ้น กะลานำเงินเก็บก้อนหนึ่งกลับไปยังสลัม และเธอก็พบว่าสลัมกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโครงการของอนุวัฒน์นั่นเอง ยายนิ่มเสียชีวิตแล้ว พิกุลป่วยเป็นโรคร้ายตาย ศพยังเก็บไว้ที่วัด รอคอยญาติมาทำพิธี มานพเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง กะลามอบเงินจำนวนนั้นให้มานพเป็นค่าทำศพพิกุล แล้วเธอก็ได้พบกับเงาะ หลานสาวของยายนิ่ม ซึ่งออกจากสถานพินิจมาทำงานในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมีเนียม เงาะเห็นกะลามีความสุขก็เกิดอิจฉาและหาทางลัดให้กับตัวเอง โดยยอมเป็นเมียเก็บของอนุวัฒน์ ซึ่งมาคุมงานก่อสร้างบ่อยๆ รัชนีวิภารู้เข้าก็อาละวาดใส่เงาะ และเล่าเรื่องนี้ให้นาฏลดาฟัง แต่นาฏลดาไม่เจ็บร้อนเพราะเธอไม่เคยรักอนุวัฒน์เลย

พลโทชัชวาล เดินทางกลับจากอังกฤษ พาวายุ ผู้บุตรชายมาเยี่ยมชฎา วายุเห็นกะลาก็นึกชอบ เขากลายเป็นแขกประจำของบ้าน วายุได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมของอนุวัฒน์ เขาได้พบกับพริ้งพิไล หลานสาวของรัชนีวิภา พริ้งพิไลชอบวายุมาก จึงหาเรื่องกับกะลาบ่อยๆ แต่วายุก็แอบมาพบกะลาเสมอ มานพสอบบรรจุเป็นตำรวจได้ เขาถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนที่ภาคเหนือ ขณะนั้นรัฐอิสระเกิดการรัฐประหารขึ้น มิ่งหล้าหนีตายเข้ามาในชายแดนไทย มานพถูกสั่งให้ปฏิบัติการพิเศษ โดยการนำตัวเจ้ามิ่งหล้าเข้ามาในแผ่นดินไทยและดูแลอารักขาในฐานะแขกของ รัฐบาลไทย มานพถูกย้ายเข้ากรุงเทพฯ มิ่งหล้าซ่อนตัวอยู่ในแฟลตแคบๆของมานพ ในฐานะญาติคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด วันหนึ่งมานพหยิบกระเป๋าลายหงส์ออกมาดู มิ่งหล้าจำได้ และอยากพบเจ้าของกระเป๋านี้มาก แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเพราะเหตุใด พริ้งพิไลกับรัชนีวิภารวมหัวกันหาเรื่องกับกะลา กะลาตบสองน้าหลานจนได้รับบาดเจ็บ อนุวัฒน์สั่งให้นาฏลดาตบหน้ากะลาแทนตนเป็นการลงโทษ นาฏลดาจำใจตบลูกทั้งน้ำตา คืนนั้นเธอสารภาพกับกะลาว่าเธอคือแม่ แต่กะลาไม่ยอมรับ พร้อมยืนยันว่าพ่อของเธอเป็นขอทาน ส่วนแม่เป็นผู้หญิงหากิน ถ้าคุณเคยเป็นผู้หญิงหากินมาก่อน กะลาก็จะยอมรับว่าเป็นแม่ คำตอบของกะลาทำให้นาฏลดาเสียใจมาก

มานพติดตามขบวนของคุณหญิงชฎามาสถานสงเคราะห์คนพิการ กะลาตามคุณหญิงชฎามาด้วย มานพกับกะลาดีใจที่ได้พบบุญช่วย กะลาบอกกับใครๆว่านี่คือพ่อของเธอ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว นาฏลดา ซึ่งไปร่วมการกุศลครั้งนั้นด้วย ได้ยินก็เสียใจมาก มานพชวนกะลาไปเที่ยวบ้าน มิ่งหล้าได้พบกับกะลา เขาแอบร้องไห้ดีใจ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่ากะลาจะมีอันตราย เงาะแสดงความหมางเมินกับกะลาและทำทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกะลา ให้ได้ แต่อนุวัฒน์กลับไม่ให้เงินทองอย่างที่เงาะต้องการ เงาะจึงดื้อแพ่งมาอยู่ในบ้านของอนุวัฒน์ หาเรื่องกับนาฏลดา แต่กะลาซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่านาฏลดาคือแม่ของตน เธอจึงปกป้องนาฏลดาเท่าที่จะทำได้ ทำให้เงาะตั้งตัวเป็นศัตรูกับกะลาอย่างเปิดเผย กะลาจึงต้องรับศึกหนัก ทั้งจากพริ้งพิไล รัชนีวิภาและเงาะ

วายุให้บิดามาสู่ขอกะลา ชัชวาลตามใจลูก ทำให้พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาไม่พอใจมาก กะลาไม่กล้าตัดสินใจเพราะชีวิตตนเป็นหนี้บุญคุณคุณหญิงชฎา ในวันหมั้นกันนั่นเอง พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาจ้างนักข่าวมาทำข่าวขุดคุ้ยกำพืดของกะลา ชัชวาลอับอายที่จะบอกใครๆว่าสะใภ้ของตนมีกำเนิดที่น่ารังเกียจ กะลาวิ่งหนีแขกเหรื่อในงาน เป็นที่สะใจของสองน้าหลานเป็นอย่างมาก นาฏลดาจึงเปิดเผยกับทุกคนว่ากะลาไม่ได้มีกำเนิดที่น่ารังเกียจ เพราะเธอคือลูกของตน รัชนีวิภาจึงถามว่าพ่อของกะลาเป็นใคร นาฏลดาจึงเปิดเผยว่าพ่อของกะลาเป็นบุคคลสูงส่ง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวได้ อนุวัฒน์ข่มขู่นาฏลดาให้เปิดเผยความจริงว่าพ่อของกะลาเป็นใคร เขาทนไม่ได้ที่รู้ว่าตลอดเวลานาฏลดายังมีใจให้ผู้ชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะถอนหุ้นในบริษัทของคุณหญิงชฎาให้หมด สังคมจะได้รู้กันเสียทีว่าคุณหญิงชฎามีแต่เปลือก และจะฆ่ากะลาเสียด้วย ในฐานะที่กะลาเป็นพยานรักอันน่ารังเกียจสำหรับเขา นาฏลดากลัวคำขู่นั้นจึงบอกความจริงว่าพ่อของกะลาคือเจ้ามิ่งหล้า องค์รัชทายาทผู้สูงส่ง

อนุวัฒน์เรียกวิทย์ไปพบ ขอให้วิทย์สืบหาตัวมิ่งหล้า ซึ่งแอบมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯให้พบ หากพบก็หาทางเก็บเสีย อย่าให้มีชีวิตกลับไปที่รัฐของตนได้ งานนี้มีค่าจ้างงาม แต่วิทย์ไม่ตกลงเขาเปิดเผยว่าเขาหลงรักนาฏลดามาตั้งแต่เธอยังสาว และเขาก็ทำงานเป็นลูกน้องพ่อของนาฏลดามา เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจของนาฏลดาได้ อนุวัฒน์ตกใจมากที่รู้ความจริง จึงไล่วิทย์ออกไปจากบ้าน เงาะแอบได้ยินจึงอาสาว่าจะทำงานนี้ให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนุวัฒน์จะต้องหย่ากับนาฏลดาและจดทะเบียนสมรสกับตน ทันทีที่ทำงานนี้สำเร็จ เงาะเข้ามาสนิทกับกะลาอีกครั้ง นาฏลดาย้ายข้าวของมาอยู่กับมารดา ทำให้เธอเริ่มปรับความเข้าใจกับกะลา แม้กะลายังมึนตึงกับเธออยู่ก็ตาม วายุตามมาง้องอนแต่กะลาไม่มีใจให้แล้ว เธอรู้ดีว่าคนที่รักเธอมาตลอดคือมานพ

มานพมาชวนให้กะลาไปหาลุงมิ่ง กะลาถูกชะตากับลุงมิ่งอยู่แล้ว จึงไปเยี่ยม เงาะสงสัยจึงสะกดรอยตามไป และได้เห็นการเปิดเผยความจริงของพ่อกับลูก เงาะยิงมิ่งหล้า แต่กระสุนพลาดไปถูกกะลา มานพตามล่าเงาะ แต่เธอหนีไปที่คอนโดมีเนียม ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เงาะขอให้อนุวัฒน์ช่วยตน แต่อนุวัฒน์บอกให้เงาะหลบไปซ่อนตัวที่ไหนก่อน เงาะเสียใจมาก จึงยิงอนุวัฒน์ตายในงาน ต่อมามานพนำกำลังตำรวจมาจับตัวเงาะได้ นาฏลดา มิ่งหล้า และกะลา ดีใจที่เปิดเผยความในใจต่อกัน กะลากราบพ่อแม่ของตน มิ่งหล้าเห็นว่าสถานการณ์ในรัฐของตนสงบแล้ว จึงชวนให้ทั้งสองไปกับตนด้วย กะลารับรักมานพ วายุยอมรับความพ่ายแพ้ เขาเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ พริ้งพิไลขอติดตามวายุไปด้วย ส่วนรัชนีวิภาสูญเสียอนุวัฒน์ไปแล้ว ก็กลายเป็นบ้าอยู่ในคอนโดมีเนียมร้าง เพราะไม่มีคนซื้อ

กะลา เด็กหญิงที่ถูกชะตากรรมนำพาให้ประสบกับความลำบากแสนสาหัส ได้ใช้ความดีพิสูจน์ว่าถึงจะเป็นเพียงกะลาต่ำต้อย แต่เธอก็คือกะลาทองอันทรงคุณค่า ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เชื่อมั่นในพลังของความดีและความกตัญญู

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/

http://www.asktarot.co.cc/

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-เรื่องย่อ อภิมหึมามหาเศรษฐี

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432-เรื่องย่อละคร อภิมหึมามหาเศรษฐี

เมื่อเศาร์ เด็กบ้านนอก ที่แอบชอบอินลูกสาวมหาเศรษฐี เมื่อ ว่าที่พ่อตาตอบปฏิเสธพร้อมกับยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่มีสินสอดทอง หมั้นจำนวนพันล้าน !! ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า พระเจ้าช่วยด้วย เรียกสินสอดมหาศาลขนาดนี้ แล้วพระเอกซึ่งเป็นลูกชาวนาจนๆ อย่างเศาร์จะหาเงินมาจากไหน เพื่อขออินแต่งงาน? ติดตามเส้นทางความรักของทั้งคู่ได้ในละคร “อภิมหึมามหาเศรษฐี”

เศาร์ เด็กต่างจังหวัดเป็นลูกชาวไร่ชาวนาจนๆ ที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เพราะหวังจะเอาความรู้ไปพัฒนาบ้านเกิด เศาร์เป็นคนหน้าตาดี ฉลาด เรียบร้อย แถมยังเป็นประธานค่ายอาสาพัฒนาชนบท ทำให้เป็นที่หมายปองของนักศึกษาสาวๆ โดยเฉพาะ แพท รองประธานชมรมค่ายอาสาฯ คนสวย แต่เศาร์กลับเห็นแพทเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น เพราะวันๆ เศาร์ชอบขลุกอยู่กับ เบิ้ม และ เอก เพื่อนสนิทที่พักอยู่บ้านเช่าเดียวกัน เปิดเทอมใหม่เศาร์ได้มาเจอกับ องค์อินทร์ เฟรชชี่ปี 1 ที่หน้าตาน่ารักจึงปิ๊งเธอเข้าเต็มเปา

แต่ พอเศาร์รู้ว่าอินเป็นถึง ลูกสาวมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยจึงต้องตัดใจเพราะเห็นว่าตัวเองไม่คู่ควร ส่วนอินก็แอบชอบเศาร์เหมือนกันแต่ไม่กล้าแสดงออก เพราะคิดว่าเศาร์เป็นแฟนกับแพท ที่สำคัญ นวลปราง เพื่อนสนิทไฮโซของเธอก็ชอบเศาร์เช่นกัน ถึงอินจะเก็บกดความรู้สึกไว้คนเดียว แต่ มดแดง เพื่อนสนิทของเธออีกคนก็ดูออก ว่าอินชอบเศาร์มากแค่ไหน ตั้งแต่อินสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ คุณนายศรีตรัง กับ พยนต์ ออกมาและยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินของ พาไล ด้วยการปลอมเอกสารให้ทุกอย่างกลายมาเป็นของตัวเอง

พ่อ กับแม่ของเธอก็ ไม่ยอมปล่อยให้คลาดสายตาเพราะกลัวอินจะเหมือน วิวิต พี่ชายที่แหกคอกไปเรียนเมืองนอกแล้วไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้อินไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะถูกคนในมหาวิทยาลัยมองเป็นคุณหนูไฮโซ อินจึงต้องสมัครเข้าชมรมค่ายอาสาฯ แถมยังช่วยหาทุนให้ชมรมฯ เพื่อลบคำสบประมาท ตั้งแต่อินไปออกค่ายฯ กับเศาร์ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่สนิทสนม กันมากขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับคุณนายศรีตรังและพยนต์อย่างมาก ทั้งคู่จึงตัดสินใจส่งอินไปเรียนต่อเมืองนอกกลางคัน เพราะไม่ต้องการให้เศาร์ใกล้ชิดกับอินอีก

จน เศาร์เรียนจบมหาวิทยาลัย กลับไปพัฒนาที่บ้านตัวเอง และขาดการติดต่อกับอินเพราะถูกกีดกันจากพ่อและแม่ของเธอ ที่เมืองนอกอินพยายามส่งจดหมายมาหาเศาร์อยู่เสมอแต่เศาร์ไม่ตอบกลับ ทำให้เธอคิดว่าเศาร์คงแต่งงานกับ ไฉไล สาวสวยในหมู่บ้านที่แอบชอบเศาร์ไปแล้ว เพราะทั้ง ยายทอง กับ เฉลา ยายและแม่ของเศาร์ชอบไฉไลมาก เลยอยากได้มาเป็นหลานสะใภ้ เหมือนฟ้าลิขิตเศาร์ได้เจอกับอินอีกครั้ง มื่ออินกลับจากเมืองนอก และมาช่วยพ่อทำงานที่บริษัท เป็นขณะเดียวกับที่พยนต์ต้องการสร้างภาพเพื่อจะลงเล่นการเมือง

อิน จึงอาสาเป็นตัวแทนบริษัทของพ่อมาแจกของชาวบ้านที่หมู่บ้านของเศาร์ ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งและปรับความเข้าใจกัน พออินกลับกรุงเทพฯ เธอพยายามหาข้ออ้างกับพ่อเพื่อจะกลับไปหาเศาร์ที่บ้านดงมะต้องอีก อินกับเศาร์จึงได้เจอกันบ่อยขึ้นโดยที่ไม่มีใครสงสัย ในขณะที่ความรักของอินกับเศาร์กำลังไปได้สวย จู่ๆ ศรีตรังก็จะให้อินแต่งงานกับ หทัย ลูกชายของ อัปสร เพื่อนสนิท เพราะได้แรงยุจาก อรัญชรา เลขาคนสนิท แต่อินก็หาทางบ่ายเบี่ยงจนได้ โดยมี ลุงหงวน คนขับรถคอยช่วยเหลือ ศรีตรังให้หทัยคอยติดตามดูแลใกล้ชิดอิน

หทัย จึงต้องตามอินไปที่บ้านดงมะต้องด้วย จนเศาร์เข้าใจผิดคิดว่าหทัยเป็นแฟนอินจึงคิดจะตัดใจจากเธออีกครั้ง แต่ไม่นานความลับเรื่องที่หทัยเป็น “เกย์” ก็ถูกเปิดเผย อินดีใจมากที่ไม่ต้องแต่งงานกับหทัย เธอรีบเดินทางไปบอก เรื่องนี้กับเศาร์ ทำให้เศาร์มั่นใจว่าอินก็มีใจให้เขาเหมือนกันเศาร์จึงกล้าบอกรักอิน พออินกลับมาที่บ้านเธอก็ได้เจอกับวิวิตพี่ชายที่ถูกพ่อเรียกตัวกลับเมืองไทย เพื่อให้มาช่วยดูแลธุรกิจ วิวิตทิ้งภรรยาฝรั่งแล้วควงสาวไทยแฟนใหม่กลับมาด้วย อินตกใจมากที่พี่สะใภ้คนใหม่ของเธอคือ แพท

ด้าน ศรีตรังกับพยนต์ก็ไม่ ชอบแพทเอาซะเลย เพราะเธอไม่ร่ำรวยและไม่ไฮโซ แต่วิวิตก็ยืนยันจะใช้ชีวิตกับแพท จนเธอตั้งท้องเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ ถึงคลี่คลาย ส่วนที่บ้านดงมะต้องก็มีมหาเศรษฐีจากอเมริกาที่ชื่อ ดาวเรือน มาพักอยู่ เพราะชอบในความเป็นธรรมชาติและนิสัยใจคอของผู้คนที่หมู่บ้านดงมะต้อง ดาวเรือนตามหาลูกชายคนเดียวที่เธอเคยทิ้งไป โดยให้ โชค นักสืบคนสนิทช่วยตามหาทุกที่แต่ก็ไม่เจอ เธอจึงใช้เวลาว่างช่วยเหลือโครงการของหมู่บ้านทุกอย่าง โดยมีเศาร์ประสานงานให้ ดาวเรือนรู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูเศาร์มากเป็นพิเศษ

เมื่อ เธอรู้ว่าเศาร์จะเข้ากรุงเทพฯ ไปหาอิน ดาวเรือนให้กำลังใจเศาร์ต่อสู้กับอุปสรรคความรักให้สำเร็จ แต่เรื่องยุ่งๆ ไม่จบแค่นั้นเพราะ ออม เพื่อนร่วมงานของอินก็ชอบเศาร์เหมือนกัน พอออมรู้ว่าอินกับเศาร์แอบคบกันเธอจึงเอาเรื่องของทั้งคู่ไปฟ้องศรีตรัง ทำให้ความรักของอินกับเศาร์ถูกกีดกันอีกครั้ง แต่คราวนี้เศาร์มุ่งมั่นจะแต่งงานกับอินให้ได้ เศาร์จึงเข้าไปพบศรีตรังและพยนต์เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ก็โดนว่าที่พ่อตาปฏิเสธและยื่นคำขาดว่าถ้าไม่มีสินสอดทองหมั้นพันล้าน !! ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า โอ้มายก๊อต..ต เรียกสินสอดมหาศาลขนาดนี้ลูกชาวนาจนๆ อย่างเศาร์จะหาเงินมาขออินแต่งงานได้ยังไง? ติดตามเส้นทางความรักของทั้งคู่ได้ในละคร “อภิมหึมามหาเศรษฐี”

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/


วันอังคารที่ ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-กระเพาะปลาน้ำแดง

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432 - เมนูรักสุขภาพซึ่งทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในวันนี้ก็ต้องเป็น

'กระเพาะปลาน้ำแดง' 'เพื่อสุขภาพ'
การขายอาหารการกินในปัจจุบัน ไม่ว่าจะร้านเล็ก-ร้านใหญ่ นอกจาก ราคาเป็นธรรม ใส่ใจเรื่องความสะอาดแล้ว ควรให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพผู้บริโภคด้วย ซึ่งกับ “กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย”
ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอวันนี้ ก็ใส่ใจสุขภาพลูกค้าจนเป็นจุดขายที่ดีทีเดียว...

“กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย” เจ้านี้ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาสำหรับคนรักสุขภาพ
ผู้ปรุงขายนั้น เป็นอดีตข้าราชการของสถาบันมะเร็งฯ ในตำแหน่งโภชนากรดูแลอาหาร ผู้ป่วย
เมื่อเกษียณอายุราชการแล้วก็เปิดกิจการเล็ก ๆ ขายกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าวฯ และก็เป็นที่นิยมของลูกค้ามากทีเดียว

อา รยา ปั้นพิพัฒน์ หรือ ป้าเจียม เจ้าของสูตร เล่าว่า ทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วยขายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ก็เป็นเวลากว่า 9 ปีแล้ว
กระเพาะปลาที่ทำขายนั้น นอกจากเน้นความอร่อยแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ด้วย จะไม่ใส่เครื่องใน ใช้ยอดมะพร้าวแทนหน่อไม้ เสริมด้วยเม็ดแปะก๊วยซึ่งดีต่อสุขภาพ และจะไม่ใส่น้ำปลาและชูรส ที่สำคัญจะไม่ใส่สารกันบูด แต่แป้งก็ไม่มีการคืนตัว

สำหรับ อุปกรณ์ในการทำกระเพาะปลาน้ำแดงขายนั้น ถ้าทำขายเล็ก ๆ อุปกรณ์ การทำก็เป็นพวกเครื่องครัวต่าง ๆ เช่น เตาแก๊ส หม้อ จาน ฯลฯ และก็ควรต้องมีหม้อใส่กระเพาะปลาขายโดยเฉพาะด้วย

ส่วนสูตรและวิธีทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วยเจ้านี้ เริ่มที่ทำน้ำซุป
โดยใส่น้ำสะอาดในหม้อเบอร์ 40 ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่โครงไก่หักครึ่ง 2 กก. รากผักชี 200 กรัม และพริกไทยดำ 200 กรัม ปรุงรสด้วยซอส 2 ถ้วย ซีอิ๊ว 1/2 ถ้วย และน้ำตาลกรวด 500 กรัม น้ำซุปนี้ต้มเคี่ยวประมาณ 3 ชั่วโมง

เมื่อขั้นตอนการต้มน้ำซุปเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการทำกระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย
โดยใส่กระเพาะปลา 1,500 กรัม (แช่น้ำให้นุ่ม ต้มให้สุก ล้างด้วยน้ำเย็น บีบให้พอหมาด ๆ แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ) แล้วใส่ เห็ดหอม 300 กรัม (แช่น้ำให้นิ่ม และหั่นเป็นชิ้น ๆ เช่นกัน)

ใส่ยอดมะพร้าวหั่นต้ม 1.5 กก. จากนั้นค่อย ๆ ละลายแป้งท้าวยายม่อมและแป้งถั่วอย่างละ 200 กรัม กับน้ำในปริมาณที่พอประมาณ ดูว่าไม่ใสเกินไป-ไม่ข้นเกินไป ละลายแป้งแล้วก็ใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยใส่เลือดไก่ 5 ถ้วย ซึ่งต้องล้าง และต้มให้สุกเสียก่อน จากนั้นใส่ไข่นกกระทาต้ม 50 ฟอง เท่านี้ก็เรียบร้อยไปส่วนหนึ่ง ในส่วนของเม็ดแปะก๊วยนั้น จากสูตรส่วนผสมข้างต้น จะใช้ประมาณ 1.5 กก. (ล้างให้สะอาด และต้มให้สุก) โดยจะแยกไว้ต่างหากไม่ใส่ผสมเลยทีเดียว และรวมถึงเส้นหมี่ลวกสุกกับผักชีหั่น ที่ก็แยกไว้เช่นกัน

นอกจากนี้ ก็ต้องเตรียมน่องไก่และปีกไก่ตุ๋น 2 กก. (การตุ๋นน่องไก่หรือปีกไก่นั้น ให้นำลงต้มพร้อมกับน้ำซุปกระเพาะปลาให้สุก ก่อน เมื่อน่องไก่หรือปีกไก่สุกแล้ว ก็ให้ตักออกมาใส่หม้อตุ๋นอีกใบต่างหาก โดยตุ๋นด้วยน้ำซุปกระเพาะปลาที่แบ่งมา และปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำพอประมาณ ตุ๋นไปจนงวดก็เป็นอันใช้ได้)

การขาย ก็ตักกระเพาะปลาใส่ถุงหรือชาม ขายชุดละ 25 บาท
โดยกะปริมาณกระเพาะปลา ยอดมะพร้าว เส้นหมี่ และแป้ง ให้พอดี ๆ ใส่ไข่นกกระทา 2 ฟอง, น่องไก่หรือปีกไก่ 1 ชิ้น
และเม็ดแปะก๊วยต้มจำนวนหนึ่ง โรยหน้าด้วยผักชีซอย และพริกไทย เสิร์ฟ-ขายพร้อมเครื่องปรุง อาทิ น้ำตาลทราย,จิ๊กโฉ่ว

จากปริมาณส่วนผสมที่ว่ามาข้างต้นนั้น เจ้าของสูตรนี้บอกว่า ถ้าขายหมดจะมี รายได้ประมาณ 2,000 บาท
โดยต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ซึ่งก็นับว่าเป็นเมนูอาหารที่สร้างรายได้น่าสนใจทีเดียว

ใครสนใจ “กระเพาะปลาน้ำแดงยอดมะพร้าว-แปะก๊วย” สูตร ของป้าเจียม-อารยา อยากทำทานเอง หรือทำเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ส่วนใครที่ได้ไอเดียทำกินจากอาหาร ที่เน้นสรรพคุณเพื่อสุขภาพเป็นจุดขาย ก็รีบฝึกฝนเพื่อทำขาย อย่ารอช้า !!.

ร้านค้าออนไลน์

วันอาทิตย์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-เตือนภัย ไปห้างต้องระวังอะไรบ้าง

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432-เตือนภัย : ไปห้างต้องระวังอะไรบ้าง

ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า อันตรายมีมาจากหลายทิศทาง ไม่ว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ตลอดจนสถานที่เปลี่ยว ๆ ซึ่งก็มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น เราควรมีวิธีที่จะระมัดระวังตัวกันด้วย ซึ่งก็สามารถป้องกันภัยได้ในระดับหนึ่ง

ควรจอดรถในที่เห็นได้หลายทาง ห้ามจอดในมุมอับ ถ้า น้องๆ นำรถยนต์ส่วนตัวไปห้างสรรพสินค้าเอง น้องๆ ควรหาที่จอดรถที่อยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นได้จากหลายๆ ทาง ห้ามจอดรถในมุมอับเด็ดขาดเลย

อย่าช้อปปิ้งคนเดียวตอนกลางคืน
แม้ว่าคนจะน้อยกว่าก็จริง แต่เมื่อน้องๆ หอบของพะรุงพะรัง ทำให้ขาดการระมัดระวังตัว และถ้าน้องๆ จะเดินไปขึ้นรถคนเดียว อาจขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือพนักงานของทางห้างสรรพสินค้า ช่วยเดินเป็นเพื่อนหรือช่วยหิ้วของให้ด้วยก็ได้ค่ะ

หลีกเลี่ยงทางเดินมืด เมื่อใกล้เวลาห้างปิด บางบริเวณทางห้างจะปิดไฟเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ให้คุณหลีกเลี่ยง และเลือกเดินในทางเดินเส้นหลักดีกว่า

ใช้ห้องน้ำที่คนพลุกพล่าน เลือกเข้าห้องน้ำที่ศูนย์อาหาร หรือห้องน้ำใกล้ประตูใหญ่ จะดีกว่าห้องน้ำเงียบๆ ที่อยู่ชั้นบน เพราะโจรอาจสบโอกาสทำร้ายคุณโดยไม่มีใครเห็นได้

จ่ายเงินที่แคชเชียร์เท่านั้น น้องๆ ควรเลือกจ่ายเงินโดยตรงกับทางแคชเชียร์ของสินค้าที่เราซื้อเท่านั้น เพราะจะลดความเสี่ยงที่มิจฉาชีพอาจจะปลอมตัวมาในคราบของพนักงาน วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่สูญทั้งเงินและทั้งของไปฟรีๆ ค่ะ


ระวังโจรแฝงขอความช่วยเหลือ
ไม่ว่าน้องๆ จะอยู่ในห้าง หรือลานจอดรถ ถ้ามีคนไม่น่าไว้ใจมาขอความช่วยเหลือจากน้องๆ แล้วอ้างว่าเหตุผลต่างๆ นานา และพยายามดึงน้องๆ ไปตามเส้นทางที่เขาต้องการ ให้บอกปฏิเสธ และหันไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือพนักงานห้างแถวนั้นแทน


วิธี เหล่านี้เป็นการป้องกันตัวในระดับหนึ่ง ทางที่ดีที่สุดคือน้องๆ ไม่ควรเดินห้างสรรพสินค้าคนเดียว เพราะอย่างน้อยหากเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คาดฝันขึ้นน้องๆ จะได้มีเพื่อนช่วยคิดหาวิธีแก้ปัญหายังไงล่ะ ตามสุภาษิตที่ว่า สองหัวดีกว่าหัวเดียว

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-ขำขำ

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432-ขำขำ หัวเราะวันล่ะนิด จิตแจ่มใส โลกไม่เครียดเพราะเสียงหัวเราะ ...

Alert แปลว่า เตรียมพร้อม ว่องไว เตือนภัย
Red แปลว่า แดง - สีแดง
ในกองทัพ Red Alert แปลว่า แนวรบที่อันตรายมาก
ทหารหนุ่มคนหนึ่งเมื่อแต่งงานและพบว่า
เจ้าสาวมีรอบเดือนตั้งแต่คืนส่งตัวคืนแรก
เขาโทรเลขด่วนถึงกองบัญชาการใหญ่ว่า.....
' แนวรบด้านหน้าเป็นเขต Red Alert ขอถอนทัพ '
กองบัญชาการใหญ่โทรเลขตอบกลับมาทันทีว่า ' ให้โจมตีด้านหลัง
---------------------------------

เซ็กส์ของคนแคระ
คนแคระ 2 คนเข้าไปในบาร์ ขากลับหิ้วอีหนูออกไปด้วย 2 คน
เข้าห้องพักโรงแรมซึ่งได้ห้องติดกัน
ปรากฏว่าหนุ่มคนแคระคนที่ 1 ผิดหวังมาก
เพราะทำยังไง เจ้าน้องชายก็ไม่ยอมลุกขึ้นสู้
ต้องนอนทรมานฟังเสียงครวญครางจากห้องข้าง ๆ
' หนึ่ง, สอง, สาม........โอ๊ย ! ' แล้วก็ตามด้วย
' นึง...ส่อง....ซั้ม...อู้ย!
' เป็นระยะ ๆ อยู่ตลอดคืน
รุ่งเช้า พอเจอหน้ากัน หนุ่มแคระคนที่ 2 ก็ถามทันที
'ไงเพื่อน ดีไหม ? '
' ดีกะผีอะไรเล่า ' หนุ่มแคระคนที่1 ตอบ
'ขายหน้าจังว่ะ ทำยังไง มันก็ไม่สู้ '
หนุ่มแคระคนที่ 2 ส่ายหน้า
' แค่นี้ก็รู้สึกขายหน้าแล้วเหรอ? ข้านะ พยายามขึ้นเตียงทั้งคืน
ยังขึ้นไม่ได้เลย'
----------------------------------------

Delivery แปลว่า ส่ง แต่อีกความหมายหนึ่งแปลว่า คลอดลูก
จึงมีชายยากจนคนหนึ่งซึ่งเมียเจ็บท้องจะคลอดลูก
แทนที่จะส่งเมียไปโรงพยาบาล เขากลับส่งเมียไปร้านพิซซ่า ฮัท
เพราะพิซซ่า ฮัท โฆษณาว่า Free Delivery
--------------------------

คดีผัวยิงเมียตาย
ผู้พิพากษา : ทำไมจำเลยจึงยิงภรรยาตัวเอง
จำเลย : เพราเมียมีชู้ครับใต้เท้า
ผู้พิพากษา : ทำไมจำเลยจึงไม่ยิงชู้ แต่กลับไปยิงเมียตัวเอง
จำเลย : ข้าแต่ศาลที่เคารพ ขอใต้เท้าได้โปรดเห็นใจกระผม
ด้วยว่าที่ผมต้องเลือกยิงเมียผมนั้น
ผมแค่ยิงเธอเพียงคนเดียว
แต่ถ้าให้ผมยิงชู้ผมก็ต้องเหนื่อยที่ต้องยิงผู้ชาย
อาทิตย์ละคน อาทิตย์ละคนขอรับใต้เท้า
---------------------------

หลังจบบทรักอันยาวนานของค่ำคืน
ชายหนุ่มก็ม้วนตัวไปข้างเตียงหยิบบุหรี่ออกจากกางเกง
และล้วงหาไฟแช็ก แต่หาเท่าไรก็หาไม่พบ
เขาจึงถามหญิงสาวว่าเธอพอจะมีบ้างไหม
'อาจจะมีไม้ขีดอยู่ในลิ้นชักชั้นบนนะคะ '
เขาเปิดลิ้นชักที่โต๊ะข้างหัวเตียง
และพบกล่องไม้ขีดวางอยู่บนกรอบรูปของชายหนุ่มผู้หนึ่ง
เมื่อเห็นอย่างนั้นเขาจึงชักไม่ค่อยสบายใจ ขึ้นมาทันที
' นี่รูปสามีคุณหรือ '
' อย่าบ้าน่ะ ไม่ใช่หรอก '
' งั้นแฟนคุณละสิ '
' ไม่ใช่เลยค่ะ '
' งั้นผู้ชายในรูปนี้เป็นใครล่ะ ' ชายหนุ่มรบเร้าต้องรู้ให้ได้
'เฮ้อ จะบอกให้ก็ได้ ' หญิงสาวถอนหายใจยาวก่อนจะตอบว่า
' ฉันเองล่ะ ถ่ายไว้เมื่อตอนยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ
----------------------------

ปัญหาของคุณผู้หญิง
คุณมณีมีปัญหาตอนไปพบแพทย์ เมื่อคุณหมอถามว่าเป็นอะไร
เธอก็บอกว่า ' น้ำอะไรไม่รู้ค่ะ มันออกมา เจ็บ ๆ คัน ๆ '
คุณหมอจึงให้เธอขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้ แล้วหยิบถุงมือสวม
แล้วเริ่มตรวจภายในคลำแล้วกดตรงโน้นตรงนี้อยู่พักใหญ่
จึงถามว่า' รู้สึกเป็นยังไง '
คุณมณีถอนหายใจอย่างมีความสุขก่อนตอบ
' อูยวิเศษมากค่ะคุณหมอ แต่อาการที่ว่า มันเกิดที่ช่องหูนะคะ '
----------------------------

ควันบุหรี่อาจทำให้เป็นมะเร็ง
หนุ่มคนหนึ่งอายมากที่สัญลักษณ์แห่งความเป็นชายของตน
เล็กผิดปกติ เล็กจนอายที่จะให้แฟนสาวเห็นพราะกลัวเธอ
จะทิ้งเขาไป เมื่อเห็นขนาดของมัน
คืนหนึ่งขณะที่เขากับเธอพลอดรักกันอย่างมีอารมณ์
ในมุมมืดสนิทแห่งหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจอาศัยความมืดช่วย
ให้เธอรู้ความจริงเสียที เขารูดซิปกางเกง เอาเจ้าตัวน้อย
วางบนฝ่ามือของเธอ แล้วคอยอย่างกระวนกระวายว่าเธอ
จะมีปฏิกิริยาอย่างไร
แฟนสาวหันมากระซิบอย่างอ่อนหวานว่า
'ขอบคุณที่เอื้อเฟื้อ แต่ฉันไม่สูบบุหรี่ค่ะ'
----------------------------

ข้อสงสัยเรื่องผู้หญิง
เมื่อชายคนหนึ่งตายและไปสวรรค์ เขาถามพระเจ้าว่า
'ทำไมพระองค์จึงสร้างสตรีให้มีความงดงาม '
พระเจ้าตอบว่า
' พวกเจ้าจะได้ชอบหล่อนยังไงล่ะ '
' เข้าใจละ แต่เหตุไฉนพระองค์จึงต้องสร้างให้พวกหล่อน
สวยบาดใจขนาดนั้นล่ะ '
เพื่อพวกเจ้าจะได้รักหล่อนอย่างไรล่ะ ' พระเจ้าตอบ
ชายคนนั้นเงียบไปสักครู่ก็ถามขึ้นอีกว่า '
แต่ไฉนพระองค์จึงสร้างสมองอันว่างเปล่าให้พวกหล่อนด้วยเล่า'
พระองค์กล่าวตอบว่า
'เพื่อพวกหล่อนจะได้รักเจ้าลงโดยไม่ต้องฝืนใจอย่างไรล่ะ'
----------------------------

ใหม่ - เก่า
หญิงชราคนหนึ่งกำลังยืนรับลมอยู่บนหัวเรือเดินทะเลขนาดใหญ่
เธอต้องยกสองมือขึ้นจับหมวกไว้ตลอดเวลา เนื่องจากลมพัดแรง
สักครู่สุภาพบุรุษคนหนึ่งก็เดินรี่เข้าไปหาคุณยายและกล่าวว่า
' ขอประทานโทษเถิดครับคุณยาย
ผมไม่อยากเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของคุณยายหรอกนะครับ
แต่คุณยายทราบหรือเปล่าครับว่า
กระโปรงคุณยายน่ะโดนลมพัดเปิดไปถึงไหนแล้ว'
'รู้สิ ยายรู้ แต่ยายต้องใช้มือทั้งสองข้างจับหมวกนี่พ่อหนุ่ม ' '
แต่คุณยายครับ คุณยายก็รู้นี่ว่าคุณยายกำลังโป๊ '
คุณยายก้มมองตัวเอง แล้วเงยหน้าพูดกับชายหนุ่มว่า
'อะไรทั้งหลายที่พ่อหนุ่มเห็นของยายน่ะ มันอายุตั้ง 85 แล้วนะ
แต่หมวกใบนี้น่ะ
ยายเพิ่งซื้อมาเมื่อวานนี้เองจะไม่ให้ยายห่วงมันได้ยังไง'
------------------------

สาวคุยกับหนุ่ม :
ถ้าคุณจูบฉันสักครั้งหนึ่งรับรองฉันจะเป็นของคุณตลอดไป
หนุ่ม : ขอบคุณที่เตือนครับ
---------------------------

อนงค์ : ฉันเบื่อจริง ๆ สามีฉันกลับถึงบ้านตอนตี 3 ทุกคืน
เธอรู้ไหมว่าฉันจะทำยังไงดีที่จำทำให้เขากลับบ้านหัวค่ำ
นงนุช : อ๋อ สามีฉันก็เคยกลับบ้านตอนตีสามเหมือนกัน
พอฉันได้ยินเขาเปิดประตูบ้าน ฉันก็ตะโกนออกไป
จากห้องนอนเลยว่า..... ' นั่นเธอเหรอสมชาย ' ....
พูดออกไป 2 - 3 ครั้ง....ได้ผลเลย
อนงค์ : แล้วมันจะได้ผลยังไง
นงนุช: โอ๊ย หลังจากนั้นเขากลับบ้านเย็นทุกวัน....
คือสามีของฉัน ชื่อ 'สมหมาย' น่ะ

ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-คำตอบ ที่ผู้ชายกลัว

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432-คำตอบ...ที่ผู้ชายกลัว
ในโลกนี้มีคำตอบที่บรรดาผู้ชายกลัว อยากกันแล้วล่ะซิว่า หนุ่ม ๆ กลัวอะไรกัน ตามมากันเลย

1. W h a t e v e r
อ ะ ไ ร ก็ ไ ด้

Men: What to have for dinner?
เราจะกินอะไรกันดีอ่ะจ๊ะ

Women: Whatever
อะไรก็ได้จ้า

Men: Why not we have steamboat?
ทำไมเราไม่กินสตีมโบทกันล่ะ

Women: Don't want la, eat steamboat later got pimples in my face
ไม่อ่ะค่ะ กินแล้วสิวขึ้นนะตัวเอง

Men: Alright, why not we have Si Chuan cuisine
ก็ได้ งั้นกิน อาหาร เสฉวนกันม้า

Women: Yesterday ate Si Chuan, today eat again?...
เมื่อวานก็กิน วันนี้จากินอีกเหยอ

Men: Hmm..... I suggest we have seafood...
งั้นเค้าแนะนำว่ากินซีฟูดดีกว่ามะ

Women: Seafood no good la, later I got diarrhea
อาหารทะเลไม่ดีมั้ง กินแล้วท้องเสียอ่ะ

Men: Then what you suggest?
งั้นตัวเองจะกินไรล่ะ

Women : Whatever
อะไรก็ได้จ้ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------

2. A n y t h i n g
ไ ด้ ทั้ ง นั้ น

Men: So what should we do now?
เอ เราจะทำอะไรกันดีน้า

Women: Anything
อะไรก็ได้ทั้งนั้น แหละ

Men: How about watching movie? Long time we didn't watch movie
ดูหนังกันมั้ย ไม่ได้ดูนานแล้วนะ

Women: Watching movie no good la, waste time only
ดูหนังไม่ดีหรอก ดูไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ

Men: How about we play bowling, do some exercises?
งั้นโยนโบว์ กันดีกว่า ออกกำลังกาย

Women: Exercise in such hot day? You not feel tire meh?
ออกกำลัง ตอนร้อน ๆ เนี่ยนะ ไม่เหนี่อยบ้างไง


Men: Then find a caf>é and have drink
ถ้างั้นก็หากาแฟกินนะ

Women: Drink coffee will affect my sleep
กินกาแฟเดี๋ยวก็นอนไม่หลับหรอกตัวเอง

Men: Then what you suggest?
งั้นเราทำไรกันดีล่ะ

Women: Anything
อะไรก็ได้ทั้งนั้นค่าาาาา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3. Y o u d e c I d e
ต า ม ใ จ เ ธ อ

Men: Then we just go home lo
งั้นเรากลับบ้านละกันนะ

Women: You decide...
ตามใจสิจ๊ะ

Men: Let take bus, I will accompany you...
ขึ้นรถเมล์ละกันนะ เด๋วเค้านั่งด้วย

Women: Bus is dirty and crowded. Don't want la
รถเมล์สกปรก แถมคนก็แน่นด้วยอ่ะ ไม่อยากขึ้นเลย

Men: Ok we will take Taxi
โอเค นั่ง taxi ก็แล้วกัน

Women: Not worth it la... for such a short distance...
ไม่คุ้มเลยเนี่ย ใกล้แค่นี้เอง

Men: Alright, then we walk lo. Take a slow walk
ได้ ๆ งั้นเดินไป

Women: What to walk with empty stomach woh?
รัยกัน . . . จะเดินตอนหิว ๆ งี้เลยหรอ

Men: Then what you suggest?
ฮ่วย.. แล้วจะเอาไงละ ว่ามา

Women: You decide
ตามใจเทอดิ

Men: Let's have dinner first
แดกข้าวก่อนละกันวะ

Women: Whatever
อะไรก็ได้

Men: Eat what?
เอ้า... จะกินไร

Women: Anyting
ได้ทั้งนั้นแหละ

Men: (Look around... no one here, gonna kill her....)
(มองไปรอบ ๆ .... ไม่เห็นใคร... ฆ่ามันดีก่า...ย๊ากกกส์...!!!)


ร้านค้าออนไลน์

http://www.digitallife-shop.com/

http://www.albaniagirls.net/

http://www.belizegirl.co.cc/

http://www.asktarot.co.cc/

วันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์-เรื่องย่อ ถึงร้ายก็รัก ฉบับไต้หวัน




ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432-
เรื่องย่อ: devil beside you "ถึงร้ายก็รัก"

ละครหนังไต้หวันที่คัดลอกมาจากหนังการตูนญี่ปุ่น แปลเป็นไทยว่า "ปีศาจร้ายข้างกายฉัน" แปลเป็นไทยครั้งที่ 2 "ถึงร้ายก็รัก" แปลเป็นไทยครั้งที่3 "ถึงร้ายก็รักนะจ๊ะ" เอาล่ะ เรามาอ่านกันได้เลย.... นะจ๊ะ

ตอนที่ 1
ฉีเยี่ยสาวแรกแย้มแอบหลงรักซ่างหยวนอีหนุ่มรูป งามหัวหน้าทีมบาสเกตบอลจนหัวปักหัวปำ จากลูกยุของฉิงจื่อและ เสียวไฉ่เพื่อนรักทำให้ฉีเยี่ยตัดสินใจเปิดเผยความในใจบอกรักซ่างหยวนอี นึกไม่ถึงว่าขณะที่ฉีเยี่ยกำลังจะเปิดเผยความในใจบอกรักซ่างหยวนอีนั่นเองก็ เกิดความประหม่าจนทำให้จดหมายรักที่เธอเขียนขึ้นมาตกอยู่ในมือเจียงเหมิ่ง นับแต่นี้เป็นต้นไปจึงเป็น การยากที่ฉีเยี่ยจะสลัดหลุดจากฝันร้ายไปได้
เนื่องจากฉีเยี่ยปล่อยไก่ออกมาจึงต้องรีบหนีไปให้เร็วที่สุดจนไม่ รู้ว่าจดหมายรักที่เธอเขียนถึงซ่างหยวนอีหายไป เจียงเหมิ่งนำจดหมายรักข่มขู่ฉีเยี่ยโดยบีบบังคับให้เธอเป็นคนรับใช้ส่วนตัว ของตน ฉีเยี่ยไม่มีทางเลือกจึงยอมรับข้อเสนอของเจียงเหมิ่ง นอกจากต้องจดบันทึกบทเรียนให้เจียงเหมิ่ง ถ้าหากเจียงเหมิ่งต้องการอะไร ฉีเยี่ยก็ต้องรีบตอบสนองให้เจียงเหมิ่งทันที ต่อมาจากกำลังใจที่ได้รับจากซ่างหยวนอีอัศวินขี่ม้าขาว ฉีเยี่ยก็ตัดสินใจสลัดหลุดจากการรังควานของมารร้ายเจียงเหมิ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าวันเดียวกันนี้เอง จดหมายรักของฉีเยี่ยที่เขียนถึงซ่างหยวนอีก็ถูกเปิดเผยออกมา
ด้วยความที่ฉีเยี่ยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจึงได้รีบรุดไปคิดบัญชีกับ เจียงเหมิ่งทันที ฉีเยี่ยตบหน้าเจียงเหมิ่งไปฉาดหนึ่ง พฤติกรรมของฉีเยี่ยสร้างความตกตะลึงให้สมัครพรรคพวกที่เห็นเจียงเหมิ่งเป็น ผู้นำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ทุกคนต่างหวาดกลัวว่าถ้าหากเจียงเหมิ่งโกรธขึ้นมาแล้วจะหักแข้งหักขาฉีเยี่ย ไม่เป็นชิ้นดี แต่นึกไม่ถึงว่าเจียงเหมิ่งกลับมีประกาศออกมาอย่างเยือกเย็นว่าไม่มีสิ่งใด ที่ตนไม่ได้ เมื่อฉีเยี่ยจับจ้องไปที่สายตาของเจียงเหมิ่ง ความรู้สึกหวาดกลัวก็บังเกิดขึ้นมา...ช่วงเวลาที่ฉีเยี่ยกำลังขุ่นข้องหมอง ใจนี้เอง เสี่ยเวยแม่ของฉีเยี่ยก็ประกาศออกมาว่าจะแต่งงานด้วยเหตุผลว่าบัดนี้เธอได้ พบคู่ชีวิตแล้ว
ตอนที่ 2
ว่าที่พ่อเลี้ยงของฉีเยี่ยไม่ใช่คนอื่นไกล ที่แท้ก็คือเจียงโหย่วฮุยผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นพ่อของเจียงเหมิ่ง นั่นเอง แน่นอนว่าฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งต้องกลายเป็นพี่น้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ ได้ สิ่งที่แย่กว่านั้นคือคนลวงโลกเช่นเจียงเหมิ่งได้ยื่นข้อแม้แลกเปลี่ยนกับ การที่ตนจะเข้าเป็นสมาชิกทีมบาสเกตบอลด้วยการให้ฉีเยี่ยเป็นผู้จัดการทีม บาสเกตบอลเท่านั้น ฉีเยี่ยคิดว่าการเข้าสู่ทีมบาสเกตบอลเป็นโอกาสเดียวที่ทำให้เธอ เป็นคนรักของซ่างหยวนอี แต่น่าเสียดายเจียงเหมิ่งกลับทำลายแผนการเสียก่อน ฉีเยี่ยจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับซ่างหยวนอีได้อย่างไรในเมื่อเธอเป็นคนรับใช้ ส่วนตัวของเจียงเหมิ่ง ซินลี่เซียงหญิงสาวซึ่งหลงรักเจียงเหมิ่งมาโดยตลอด เนื่องจากเห็นฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งใกล้ชิดเหมือนเงาตามตัว ทำให้เกิดความริษยาขึ้นมา เพื่อจับตาดูพฤติกรรมของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่ง ซินลี่เซียงซึ่งเป็นเอกเทศไม่ขึ้นกับใครก็ทำลายกฎเกณฑ์ของเธอเองเพื่อเข้า ชมรมบาสเกตบอล และในเวลานี้เองเธอก็เปิดเผยความจริงว่าเธอเป็นคนนำจดหมายรักของฉีเยี่ยออก มาประจาน ความจริงแล้วซ่างหยวนอีก็แอบรักฉีเยี่ย จากลูกยุของฉิงจื่อและเสียวไฉ่ ในที่สุดซ่างหยวนอีก็ตัดสินใจตอบสนองความรักของฉีเยี่ย แต่นึกไม่ถึงว่าซ่างหยวนอีกลับเห็นภาพบาดตาซึ่งเป็นภาพที่เจียงเหมิ่งและฉี เยี่ยจูบกันอย่างดูดดื่ม ต่อมา ฉีเยี่ยก็รู้สึกว่าโลกใบนี้ถล่มลงมาเมื่อสวรรค์สร้างความฉงนท์ให้เธอด้วยการ ที่ซ่างหยวนอีเป็นฝ่ายนัดหมายเธอไปดูคอนเสิร์ต โอกาสครั้งนี้ยากที่จะหาได้ จะปล่อยให้หลุดลอยไปไม่ได้
ตอนที่ 3
ฉีเยี่ยเข้าใจผิดคิดว่าเจียงเหมิ่งเป็นคนถืออำนาจบาตรใหญ่เป็นคน เลวที่รังแกคนอ่อนแอกว่า และแล้วฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งก็มีปากเสียงทะเลาะกันขึ้นมา งานคอนเสิร์ต เสน่ห์ในการแสดงของเจียงเหมิ่งดึงดูดผู้ชม แม้แต่ฉีเยี่ยก็ยังจับจ้องโดยไม่ละสายตา เมื่อฉีเยี่ยเผิญหน้าเจียงเหมิ่งก็ทำให้เธอถึงกับหวั่นไหวเลยทีเดียว แม้ว่าฉีเยี่ยรู้สึกสับสนบ้าง แต่อีกด้านหนึ่งนั้นก็ชื่นชมเจียงเหมิ่ง ซ่างหยวนอีบอกความจริงให้ฉีเยี่ยรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วการที่ฉีเยี่ยทำเช่น นี้นั้นเพียงเพื่อสั่งสอนเด็กไม่ดีที่รังแกสัตว์เท่านั้น ฉีเยี่ยรู้สึกฉงนท์เมื่อรู้ว่าเจียงเหมิ่งยังมีด้านหนึ่งที่ดีงาม เนื่องจากแม่ของฉีเยี่ยต้องรีบกลับไปทำธุระที่บ้านเกิดจึงทำให้ฉีเยี่ยต้อง ไปพักที่บ้านเจียงเหมิ่ง ด้วยความที่ฉีเยี่ยรู้สึกผิดต่อเจียงเหมิ่ง ฉีเยี่ยจึงดูแลเอาใจใส่เจียงเหมิ่งเป็นอย่างดี ฉีเยี่ยทำแผลให้เจียงเหมิ่งจนผล็อยหลับไป ทำให้ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งผล็อยหลับไปตลอดทั้งคืน

ซ่างหยวนอีเห็นฉีเยี่ยค่อย ๆ เอนเอียงไปทางเจียงเหมิ่ง จึงทำให้ซ่างหยวนอีร้อนใจจึงได้ตัดสินใจเปิดเผยความในใจบอกรัก ฉีเยี่ย น่าเสียดายกลับถูกเจียงเหมิ่งขัดคอ เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ทำให้ฉีเยี่ยโล่งอก เนื่องจากในเวลานี้ซ่างหยวนอีไม่ใช่ซ่างหยวนอีซึ่งอ่อนโยนที่เธอรู้จัก ฉิงจื่อเห็นว่าเหตุการณ์บานปลายไปกันใหญ่จึงได้แก้ต่างแทนซ่างหยวนอีโดย ตำหนิฉีเยี่ยว่าเห็นแก่ตัวที่นำความรักในอุดมคติของเธอทุ่มเทที่ซ่างหยวนอี โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของซ่างหยวนอีเลยแม้แต่น้อย ฉีเยี่ยกลัดกลุ้มใจเมื่อความผิดของเธอเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ เจียงเหมิ่งใช้ความอ่อนโยนปลอบใจฉีเยี่ยในเวลาที่เหมาะสมด้วยการให้คำมั่น สัญญาต่อ ฉีเยี่ยว่าจะดูแลเธอชั่วชีวิต ฉีเยี่ยสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเจียงเหมิ่ง เธอจึงตัดสินใจรับไมตรีจากเจียงเหมิ่งโดยปฏิเสธซ่างหยวนอีชายที่เธอแอบหลง รักมานาน การที่ฉีเยี่ยรักคนเลวเช่นเจียงเหมิ่งได้สร้างความสะเทือนใจให้ซ่างหยวนอี เป็นอันมาก แต่เพื่อไม่สร้างความลำบากใจให้ฉีเยี่ย ซ่างหยวนอีจึงต้องพูดแก้เก้อออกมาว่าแต่ไหนแต่ไรมาตนไม่ได้รักฉีเยี่ย ฉิงจื่อเข้าใจความรู้สึกของซ่างหยวนอีเป็นอย่างดีโดยชื่นชมว่าซ่างหยวนอี เป็นชายที่แสนดีจริง ๆ
ตอนที่ 4
ด้วยความที่ฉิงจื่อเห็นใจซ่างหยวนอีที่อกหักจาก ฉีเยี่ย เธอจึงตัดสินใจเปิดเผยความในใจบอกรักซ่างหยวนอี ซ่างหยวนอีและฉิงจื่อใช้ร่มแดงเป็นสัญญาเพื่อแสดงถึงการนัดหมายกันเป็นครั้ง แรก เจียงเหมิ่งมีนัดหมายกับคนในครอบครัวจึงได้หาข้ออ้างปลีกตัวจาก เพื่อนๆ เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยมาร่วมงานด้วยกัน พ่อแม่ของเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยซึ่งจะแต่งงานกันใหม่ต่างแปลกใจมากที่เห็น เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นครอบครัวที่มีความสุขครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียวก็ว่าได้

อีกด้านหนึ่งนั้น ซินลี่เซียงเปิดเผยความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องของเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยทาง อินเตอร์เน็ตเพื่อขัดขวางไม่ให้คนทั้งสองคบหาเป็นแฟนกัน เรื่องนี้เองจึงทำให้ฉีเยี่ยต้องเก็บซ่อนความรักที่มีต่อเจียงเหมิ่งไว้ในใจ เท่านั้น พฤติกรรมของซินลี่เซียงสร้างความไม่พอใจให้เจียงเหมิ่งเป็นอันมาก ซินลี่เซียงริษยาเมื่อเห็นเจียงเหมิ่งปกป้องคุ้มครองฉีเยี่ย ด้วยความริษยาซินลี่เซียงจึงว่าจ้างหญิงสาวจำนวนหนึ่งมาทำร้ายเธอเพื่อเรียก ร้องความสนใจจากเจียงเหมิ่ง ฉีเยี่ยเห็นซินลี่เซียงถูกรุมทำร้าย เธอเข้าไปช่วยซินลี่เซียงจนเธอได้รับบาดเจ็บ จากคำบอกกล่าวของหยางผิง ทำให้ฉีเยี่ยรู้ถึงเรื่องราวในสมัยที่เรียนมัธยมของซินลี่เซียง ที่แท้ซินลี่เซียงมักถูกเพื่อนรังแกอยู่เป็นประจำ ด้วยความที่เจียงเหมิ่งออกหน้าปกป้องคุ้มครองซินลี่เซียงมาโดยตลอดจึงทำให้ ซินลี่เซียงเห็นเจียงเหมิ่งเป็นที่พึ่งพิงของเธอ ในเวลาเดียวกันนี้เอง ฉีเยี่ยพบว่านับตั้งแต่มัธยมเป็นต้นมาหยางผิงแอบหลงรักซินลี่เซียงมาโดย ตลอด
ตอนที่ 5
หลังจากที่ฉีเยี่ยรู้ความจริงว่าซินลี่เซียงยอมเจ็บตัวเพื่อเรียก ร้องความสนใจจากเจียงเหมิ่งแล้ว ฉีเยี่ยก็ตำหนิซินลี่เซียงเป็นการใหญ่ที่ไม่รักตัวเองแม้แต่น้อย เจียงเหมิ่งและหยางผิงเห็นซินลี่เซียงและฉีเยี่ยทะเลาะมีปากเสียงกัน ซินลี่เซียงเชื่อว่าเจียงเหมิ่งจะต้องเข้าข้างเธออย่างแน่นอน นึกไม่ถึงว่ากลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิด พฤติกรรมของเจียงเหมิ่งพิสูจน์ว่าเจียงเหมิ่งหลงรักฉีเยี่ย เนื่องจากซินลี่เซียงยากที่จะทำใจยอมรับความจริงได้จึงตัดสินใจใช้หยางผิง ซึ่งหลงรักเธอมาโดยตลอดเล่นงานฉีเยี่ย ถ้าหากไม่มี ฉีเยี่ย เจียงเหมิ่งต้องรักเธออย่างแน่นอน

ฝนตกหนัก หยางผิงถือท่อนเหล็กตวาดใส่ฉีเยี่ยว่าขอเพียงฉีเยี่ยตายจากโลกนี้ ซินลี่เซียงก็จะมีความสุข นึกไม่ถึงว่าฉีเยี่ยซึ่งเชื่อมั่นในตัวหยางผิงมาโดยตลอดกลับไม่สะทกสะท้าน แม้แต่น้อย ภยันตรายกำลังเกิดขึ้นกับฉีเยี่ย ซินลี่เซียงลังเลใจว่าถ้าหากไม่มี ฉีเยี่ยแล้ว เธอจะเข้าไปอยู่ในใจเจียงเหมิ่งแทนที่ฉีเยี่ยได้หรือไม่ และแล้วซินลี่เซียงก็ตัดสินใจบอกเจียงเหมิ่งว่าหยางผิงคิดร้ายต่อฉีเยี่ย ขอให้รีบไปช่วยฉีเยี่ย ในช่วงวิกฤตนั่นเอง เจียงหมิ่งก็มาถึงและได้ช่วยชีวิตฉีเยี่ยเอาไว้ ด้วยความโกรธของเจียงเหมิ่งทำให้เจียงเหมิ่งเกือบเอาชีวิตหยางผิงเลยทีเดียว แต่แล้วเจียงเหมิ่งก็รู้สึกผิดขึ้นมา เพื่อปลอบใจให้เจียงเหมิ่งคลายความเศร้า ฉีเยี่ยจึงตัดสินใจยอมรับว่ารักเจียงเหมิ่ง ในเวลาเดียวกัน ในที่สุดซินลี่เซียงก็ตัดสินใจยอมแพ้ ทั้งที่เธอรู้สึกอิจฉาฉีเยี่ยก็ตาม แต่เธอก็มีความสุขที่จะได้สานสัมพันธ์รักกับหยางผิงที่จะเกิดขึ้นในภายภาค หน้า
ตอนที่ 6
ในที่สุดฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งต่างก็ยอมรับว่ารักกัน ฉีเยี่ยซึ่งดื่มด่ำอยู่ในความรักได้ตัดสินใจทำเค้กด้วยตนเองโดยใส่ความ ตั้งใจลงไปเพื่อมอบให้เจียงเหมิ่ง ฉีเยี่ยเขินอายที่จะมอบเค้กที่เธอทำกับมือให้เจียงเหมิ่ง นึกไม่ถึงว่าเจียงเหมิ่งกลับไม่เข้าใจถึงเจตนาของฉีเยี่ยจึงทำให้ฉีเยี่ย พลั้งปากต่อว่าด้วยความไม่พอใจ ต่อมา ฉีเยี่ยก็พบว่าเค้กที่ฉิงจื่อตั้งอกตั้งใจทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อมอบให้ เพื่อนสนิทนั้นกลับอยู่ในมือของซ่างหยวนอี ที่แท้ฉิงจื่อและซ่างหยวนอีแอบคบหาดูใจกัน ขณะที่ฉีเยี่ยและซ่างหยวนอีกำลังหยอกเย้ากันนั่นเอง ทันใดนั้นลูกบาสเกตบอลซึ่งถูกปามาจากเจียงเหมิ่งก็ถูกตัวซ่างหยวนอีจนเค้กใน มือตกหล่นเสียหาย ที่แท้เจียงเหมิ่งเกิดความริษยาจึงได้ปาลูกบาสเกตบอลใส่ซ่างหยวนอี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉีเยี่ยเชื่อว่าเจียงเหมิ่งหึงหวงเธอ

มรสุมผ่านพ้นไป ซินลี่เซียงผิงก็ได้ออกปากขอร้องฉีเยี่ยให้อภัยหยางผิง ด้วยจิตใจดีงามของฉีเยี่ย ฉีเยี่ยกลับเห็นว่าซินลี่เซียงทำไปด้วยอารมณ์ หยางผิงทำไปด้วยหลงรักซินลี่เซียง เมื่อเป็นเช่นนี้ฉีเยี่ยจึงตัดสินใจให้อภัยและหยิบยื่นมิตรภาพให้คนทั้งสอง ฉิงจื่อและซ่างหยวนอีมีนัดหมายกัน ฉิงจื่อซื้อรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่เพื่อนัดหมายนี้เป็นพิเศษ แต่เนื่องจากรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่ไม่พอดีกับเท้าจึงถูกรองเท้ากัดเป็นแผล ไม่เพียงเท่านั้นด้วยความที่ไม่ระวังรองเท้าพลิกจนข้อเท้าแพลงอีกด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนบอกเป็นนัยว่าการคบหาของคนทั้งสองไปด้วยกันไม่ ได้เช่นนั้น แต่ซ่างหยวนอีซึ่งเป็นคนละเอียดอ่อนกลับไม่คิดเช่นนั้น ซ่างหยวนอีซื้อรองเท้าคู่ใหม่มาเปลี่ยนให้ฉิงจื่อ ในที่สุดทั้งสองต่างก็ยอมรับรักซึ่งมีให้กันและกัน

ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งนัดหมายกันว่าจะไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน ในวัยเยาว์ของเจียงเหมิ่งนั้น เนื่องจากพ่อของเจียงเหมิ่งต้องทำงานตัวเป็นเกลียวจึงไม่เคยพาเจียงเหมิ่งไป เที่ยวสวนสนุกสักครั้ง ในสวนสนุกดูเหมือนว่าเจียงเหมิ่งไม่มีความสุขสักเท่าใดนัก ฉีเยี่ยเห็นเช่นนั้นจึงตัดสินใจเรียกความสุขในวัยเยาว์กลับคืนมาสู่เจียงเห มิ่ง เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยต่างให้คำมั่นสัญญาต่อกันว่าจะอยู่เคียงข้างกันตลอด ไป
ตอนที่ 7
จู่ ๆ ก็มีนักศึกษาชายแปลกหน้าปรากฏตัวที่มหาวิทยาลัย นักศึกษาชายที่ว่านี้ประกาศตัวจับจองฉีเยี่ยเป็นของตน ฉีเยี่ยได้ยินเช่นนั้นถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว นักศึกษาชายแนะนำตัวว่าตนชื่อหยวนชวนย่างนักศึกษาชั้นปีหนึ่งคณะจิตวิทยา เลิกเรียน หยวนชวนย่างยืนกรานจะส่งฉีเยี่ยกลับบ้านให้ได้ แต่ฉีเยี่ยกลับปฏิเสธ หยวนชวนย่างไม่พอใจจึงขับรถชนท่อฉีดน้ำดับเพลิง ฉีเยี่ย ซึ่งจิตใจดีงามไม่อาจนิ่งดูดายได้จึงให้ความช่วยเหลือหยวนชวนย่าง ทั้งที่หยวนชวนย่างอิจฉาริษยาเจียงเหมิ่ง แต่หยวนชวนย่าง ก็เตือนสติฉีเยี่ยให้ระวังเรื่องการคบหากับเจียงเหมิ่งให้ดี พี่น้องรักกันจะเป็นกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่ ต่างฝ่ายต่างไม่มีความสุขด้วยกันทั้งคู่ เป็นไปได้ขอให้ฉีเยี่ยปกปิดเรื่องที่คบหากับเจียงเหมิ่งเอาไว้ให้ดี

วันคริสต์มาสใกล้เข้ามาทุกที อาจารย์ได้มอบหมายให้นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ทำโครงการออกแบบต้นคริสต์มาสใน สุดสัปดาห์นี้เพื่อให้ห้างสรรพสินค้าที่มีความสนใจนำไปจัดจำหน่าย ทีมจอมมารและทีมนกยูงต่างทุ่มเทจนสุดความสามารถเพื่อให้ผลงานได้รับการคัด เลือก แต่แล้วผลงานของทีมจอมมารก็ได้รับการคัดเลือกสร้างความฉงนให้เจียงเหมิ่ง เป็นอันมาก เจียงเหมิ่งจัดงานเลี้ยงเพื่อแนะนำให้เสี่ยเวยและฉีเยี่ยได้ รู้จักคุณย่าของตนอย่างเป็นทางการ ในเวลานี้เองฉีเยี่ยถึงรู้ความจริงว่าเจียงเหมิ่งได้รับความกดดันจากการที่ ต้องเป็นทายาทสืบทอดกิจการครอบครัว แต่เธอกลับห่วงใยความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าเจียงเหมิ่ง เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยโผเข้ากอดกันด้วยความถวิลหา หยวนชวนย่างแอบถ่ายภาพคนทั้งสองเก็บเอาไว้
ตอนที่ 8
หยวนชวนย่างข่มขู่ว่าจะเปิดเผยความรักของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องออกไปเพื่อให้สกุลเจียงเสื่อมเสียชื่อเสียง เรื่องนี้ทำให้ฉีเยี่ยโกรธมาก หยวนชวนย่างไม่เพียงข่มขู่ ทั้งยังนำภาพถ่ายที่ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งกอดกันออกมาแสดงอีกด้วย ฉีเยี่ยหวาดกลัวจนเหงื่อโซมกายไม่อยากเชื่อว่าหยวนชวนย่างจะน่าสะพรึงกลัว ถึงเพียงนี้ ไม่ว่าฉีเยี่ยจะรู้สึกอย่างไรก็ตาม แต่หยวนชวนย่างก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะทำให้เจียงเหมิ่งไม่มีความ สุขไปชั่วชีวิต
ในงานนิทรรศการ ต้นคริสต์มาสที่หยางผิงและพวกทุ่มเทแรงกายแรงใจทำขึ้นมาถูกทำลายจนเสียหาย มีเพียงผลงานของเจียงเหมิ่งเท่านั้นที่ยังคงสมบูรณ์ไม่ได้รับความเสียหายแต่ อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจึงพากันพุ่งเป้าไปที่เจียงเหมิ่งโดยที่ทุกคนต่าง ปักใจเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของเจียงเหมิ่งอย่างแน่นอน

เจียงเหมิ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องเป็นหลุมพรางของ อาจารย์อย่างแน่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้เจียงเหมิ่งจึงตัดสินใจทำลายต้นคริสต์มาสของตนเองต่อหน้า ทุกคนเพื่อเริ่มต้นกันใหม่ เจียงเหมิ่งตัดสินใจใช้ความสามารถของตนเองเอาชนะหยางผิงและพวกให้ได้ จากการร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ในที่สุดต้นคริสต์มาสก็ถูกทำขึ้นมาอีกครั้ง ฉีเยี่ยอยากรู้ความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วต้นคริสต์มาสถูกหยวนชวน ย่างทำลายลงหรือไม่ ในที่สุดฉีเยี่ยก็รู้ความจริงว่า หยวนชวนย่างไม่ใช่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ฉีเยี่ยไม่เข้าใจว่าแท้ที่จริงหยวนชวนย่างต้องการอะไรกันแน่ ความเคียดแค้นที่มีต่อหยวนชวนย่างกลับทำให้ฉีเยี่ยตกอยู่ในอันตราย และสิ่งที่ทำให้ฉีเยี่ยตกใจมากคือฉีเยี่ยรู้ความจริงว่าเจียงเหมิ่งและหยวน ชวนย่างเป็นพี่น้องกัน
ตอนที่ 9
หยวนชวนย่างเป็นคนที่สร้างความขุ่นข้องหมองใจให้ เจียงเหมิ่งซึ่งเจียงเหมิ่งไม่อยากพูดถึง การที่หยวนชวนย่างซึ่งอาศัยอยู่กับแม่นั้นเห็นเจียงเหมิ่งเป็นศัตรูด้วย เหตุผลที่ว่าต้องการเรียกร้องความสนใจจากเจียงเหมิ่งผู้เป็นพี่ชายเท่านั้น แต่การที่เจียงเหมิ่งไม่อยากเผชิญหน้ากับหยวนชวนย่างนั้นสืบเนื่องมาจากฝัง ใจว่าเคยทำร้ายน้องชายในวัยเยาว์มาก่อน จนเป็นเหตุให้แม่ต้องพาน้องชายไปจากตน เจียงเหมิ่งอัดอั้นตันใจจึงทำร้ายร่างกายตนเองเพื่อหาทางออก หลังจากที่ฉีเยี่ยรู้ถึงความสัมพันธ์ของเจียงเหมิ่งและหยวนชวนย่างสองพี่ น้องแล้ว ฉีเยี่ยก็พยายามคิดหาหนทางเพื่อให้พี่น้องปรับความเข้าใจกันให้ได้ ขณะที่หยวนชวนย่างกำลังเปิดเผยเรื่องที่ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งคบ หาเป็นแฟนกันออกมานั่นเอง ทันใดนั้นหยวนชวนย่าง ซึ่งสุขภาพอ่อนแอก็เป็นลมหมดสติไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนว่าเจียงเหมิ่งจะร้อนใจมากที่สุดด้วยเป็นห่วง ความปลอดภัยของหยวนชวนย่าง ในที่สุดเจียงเหมิ่งและหยวนชวนย่างสองพี่น้อง ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้โดยเปลี่ยนความแค้นเป็นมิตรภาพ

ต้นคริสต์มาสที่เจียงเหมิ่งรวมทั้งหยางผิงและพวกต่างทุ่มเท ความสามารถออกแบบขึ้นมานั้นกลับไม่ได้เป็นที่สนใจจากนักธุรกิจ จากบรรยากาศอันแสนโรแมนติก ในที่สุดเจียงเหมิ่งก็สามารถออกแบบต้นคริสต์มาสที่สวยงามออกมาได้สร้างความ ตื่นตาตื่นใจให้ฉีเยี่ยเป็นอันมาก การแข่งขันบาสเกตบอลประจำปีกำลังจะมาถึง เจียงเหมิ่งรวมทั้งหยางผิงและพวกต่างไม่ได้เข้าร่วมการฝึกซ้อม หลังจากที่ฉีเยี่ยสอบถามลี่เซียงแล้วถึงรู้ความจริงว่าเจียงเหมิ่งพาพรรคพวก ไปที่มหาวิทยาลัยของหยวนชวนย่าง การปรากฏตัวของเจียงเหมิ่ง ทำให้หยวนชวนย่างกล้าเผชิญกับพวกอันธพาลอย่างกล้าหาญโดยประกาศว่าตนคือหยวน ชวนย่าง ไม่ใช่เงาของเจียงเหมิ่งอีกต่อไป
ตอนที่ 10
ในที่สุดก็ถึงวันแข่งขันบาสเกตบอล ระหว่างทางที่เจียงเหมิ่งเดินทางไปที่สนามแข่งขัน เจียงเหมิ่งถูกพวกอันธพาลที่เคยรังแกหยวนชวนย่างรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ สาหัส ทำให้เจียงเหมิ่งต้องฝืนเจ็บลงสนามแข่งขัน ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น จู่ ๆว่างหยวนอีก็ตัดสินใจถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อไปพบฉิงจื่อ แต่ฉิงจื่อซึ่งรู้สึกไม่แน่ใจความรักที่มีต่อซ่างหยวนอีสักเท่าใดนักกลับไป หาเพื่อนที่ติดต่อทางอินเตอร์เน็ตโดยที่เธอไม่มาชมการแข่งขันบาสเกตบอลของ ซ่างหยวนอี การนัดพบกับเพื่อนที่ติดต่อกันทางอินเตอร์เน็ตของฉิงจื่อในครั้งนี้นั้นทำ ให้เธอเกือบได้รับอันตราย โชคดีที่ซ่างหยวนอีช่วยฉิงจื่อไว้ทันการ ในที่สุดฉิงจื่อก็ตระหนักแล้วว่าสำหรับซ่างหยวนอีแล้วเธอมีความสำคัญกว่า บาสเกตบอลมากมาย แต่ซ่างหยวนอีซึ่งเผชิญหน้ากับฉิงจื่อซึ่งไม่รักตนเองแม้แต่น้อย ทำให้ซ่างหยวนอีตัดสินใจจากไป

สนามแข่งขันบาสเกตบอล เจียงเหมิ่งทุ่มเทจนสุดกำลังเพราะต้องทำหน้าที่แทนซ่างหยวนอีซึ่งไม่ได้ลง สนามแข่งขัน แต่เมื่อเห็นซ่างหยวนอีกลับมาที่สนามแล้ว เจียงเหมิ่งก็หมดแรงล้มลง ผลการแข่งขันปรากฏว่าคะแนนเสมอกัน จากกำลังใจที่ได้รับจาก ฉิงจื่อ ซ่างหยวนอีสามารถนำทีมคว้าชัยชนะก่อนหมดเวลาแข่งขันเพียงเสี้ยววินาที หลังจากที่การแข่งขันผ่านพ้นไปแล้ว ความสัมพันธ์ของฉิงจื่อและซ่างหยวนอีดูเหมือนว่ากระชับแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก ขั้นหนึ่งเจียงเหมิ่งนัดหมายฉีเยี่ยฉลองคริสต์มาสด้วยกัน ฉีเยี่ยตอบรับคำเชื้อเชิญของเจียเหมิ่งด้วยความเต็มใจ ทั้งเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยต่างพากันตระเตรียมของขวัญเพื่อมอบให้กันและกัน
ตอนที่ 11
ฉีเยี่ยนำของขวัญที่เธอตระเตรียมด้วยความลำบากลำบนไปยังสถานที่ นัดหมายกับเจียงเหมิ่ง แต่เมื่อฉีเยี่ยไปถึงสถานที่นัดหมายแล้วก็พบว่าไม่ใช่การนัดหมายส่วนตัวของ เธอและเจียงเหมิ่ง แต่กลับเป็นการฉลองชัยชนะของทีมบาสเกตบอล ในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะทีมบาสเกตบอล ทุกคนต่างพากันพูดคุยกันถึงของขวัญที่มอบให้กันในวันคริสต์มาส ฉีเยี่ยเกรงว่าถุงมือผ้ากันเปื้อนที่เธอทำขึ้นจะถูกทุกคนหัวเราะเยาะ เธอจึงไม่กล้านำของขวัญออกมา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เธอและเจียงเหมิ่ง มีปากเสียงกันขึ้นมา หนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าวันคริสต์มาส เจียงเหมิ่งเสนอให้เล่นซ่อนหากัน ผู้ชนะจะเลือกจูบใครก็ได้ ฉีเยี่ยรู้สึกเอือมระอาด้วยเห็นว่าเจียงเหมิ่งไม่เข้าใจถึงความรู้สึกของเธอ แม้แต่น้อย แต่เมื่อเกมส์เริ่มต้น เจียงเหมิ่งก็คว้าข้อมือฉีเยี่ยวิ่งไปหา ที่ซ่อน ที่แท้เจียงเหมิ่งจงใจสร้างโอกาสให้ตนเองและฉีเยี่ยได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง ขณะที่เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยกำลังจะจูบกันนั่นเอง นึกไม่ถึงว่ากลับถูกซ่างหยวนอีขัดจังหวะจับได้เสียก่อน

ผลการแข่งขันปรากฏว่าหยางผิงเป็นผู้ชนะ หยางผิงประกาศว่าไม่ว่าลี่เซียงจะไม่ยินยอมก็ตาม ตนจะต้องจูบลี่เซียงให้ได้ จากการที่ทุกคนร่วมฉลองคริสต์มาสด้วยกัน ทำให้ฉีเยี่ยสัมผัสได้ถึงความสุขและความอบอุ่น และสิ่งที่ทำให้ฉีเยี่ยมีความสุขมากที่สุดคือเจียงเหมิ่งเก็บถุงมือที่เธอ ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำขึ้นมาและได้โยนทิ้งถังขยะไปแล้วเอาไว้ ขณะที่เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยเดินจูงมือไปตามท้องถนนนั่นเองได้ถูกกล้อง โทรทัศน์ซึ่งเก็บภาพบรรยากาศวันคริสต์มาสเก็บภาพไว้ ภาพถ่ายซึ่งแพร่ภาพทางโทรทัศน์จึงถูกคุณย่าเจียงพบเห็นเข้า...อีกด้านหนึ่งนั้น เสี่ยเวยแม่ของฉีเยี่ยและโหย่วฮุยพ่อของเจียงเหมิ่งต่างก็ตกลงกันว่าจะอยู่ เป็นครอบครัวเดียวกัน แม้ว่า ฉีเยี่ยยินดีกับความสุขของแม่ แต่เธอก็รู้สึกเป็นห่วงถึงความสัมพันธ์ของเธอและเจียงเหมิ่งขึ้นมา
ตอนที่ 12
มหาวิทยาลัยรับเถียนซือเซิ่นเข้ามาเป็นอาจารย์ใหม่ของมหาวิทยาลัย อาจารย์ใหม่ที่ว่านี้คือเถียนซือเซิ่น เถียนซือเซิ่น ไม่เพียงเป็นชายในอุดมคติของฉีเยี่ยเท่านั้น ทั้งยังเป็นอาจารย์พิเศษสมัยเรียนมัธยมของฉีเยี่ยอีกด้วย จากการปรากฏตัวของ เถียนซือเซิ่นได้นำมาซึ่งความทรงจำอันงดงามของฉีเยี่ย แต่สิ่งสำคัญที่สุดการปรากฏตัวของเถียนซือเซิ่นจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ ของเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยหรือไม่
ฉีเยี่ยได้รับการนัดหมายจากคุณย่าเจียงให้มาพบที่บ้าน ทำให้ฉีเยี่ยคิดฟุ้งซ่านว่าคุณย่าเจียงอาจระแคะระคายเรื่องที่เธอและเจียงเห มิ่งคบหากันอยู่ก็เป็นได้ นึกไม่ถึงว่าคุณย่าเจียงมีความประสงค์ที่จะหาคู่ให้เจียงเหมิ่ง เรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้ ฉีเยี่ยเป็นอันมาก เนื่องจากคู่หมั้นคู่หมายของเจียงเหมิ่งคือหลิวเหม่ยตี้ หลิวเหม่ยตี้เพียบพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปโฉมงดงาม จิตใจดีงาม ชาติตระกูลสูงจนทำให้ฉีเยี่ยรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา แต่ความจริงแล้วหลิวเหม่ยตี้มีชายในดวงใจอยู่แล้ว ชายในดวงใจที่ว่านี้เมื่อครั้งที่แว่นตาของเธอแตกหักเสียหายเป็นคนที่จูงมือ พาเธอเดินข้ามถนนไปทำแว่นตาอันใหม่ เพื่อชายในดวงใจคนนี้ทำให้ หลิวเหม่ยตี้ตัดสินใจปฏิเสธการแต่งงานกับเจียงเหมิ่ง ด้วยความที่เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยต้องการช่วยเหลือหลิวเหม่ยตี้ ทั้งสองจึงพากันเล่นละครฉากหนึ่งเพื่อให้หลิวเหม่ยตี้สามารถอยู่ที่ไต้หวัน ได้อย่างราบรื่นเพื่อตามหาชายในดวงใจของเธอ นึกไม่ถึงว่าเจียงเหมิ่งกลับปฏิเสธหลิวเหม่ยตี้อย่างไม่มีเยื่อใย ฉีเยี่ยซึ่งมีจิตใจดีงามรู้สึกเห็นใจหลิวเหม่ยตี้เป็นอันมากจึงกลายเป็น เพื่อนรักคนหนึ่งของ หลิวเหม่ยตี้
ใกล้ถึงวันเก็บตัวฝึกซ้อมบาสเกตบอลประจำปี เถียนซือเซิ่นได้รับมอบหมายเป็นโค้ชควบคุมการฝึกซ้อม เมื่อเจียงเหมิ่งเผชิญหน้ากับเถียนซือเซิ่นชายในดวงใจของฉีเยี่ย เจียงเหมิ่งซึ่งสูญเสียความเชื่อมั่นในตนเองก็ตัดสินใจที่จะประลองกับ เถียนซือเซิ่นจนถึงที่สุด แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ฉีเยี่ยกลับเป็นการเข้าร่วมการฝึกซ็อมของ หลิวเหม่ยตี้
ตอนที่ 13
ในช่วงเวลาของการฝึกซ้อม เจียงเหมิ่งจงใจลองดีกับเถียนซือเซิ่น การปรากฏตัวของหลิวเหม่ยตี้สร้างความไม่พอใจให้ซินลี่เซียงเป็น อันมาก เหตุที่เป็นเช่นนี้นั้นเนื่องจากซินลี่เซียงเกรงว่าหลิวเหม่ยตี้ทำลายความ สัมพันธ์ของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งก็เป็นได้ ครั้งหนึ่ง หลิวเหม่ยตี้ไม่ทันระวังพลัดตกน้ำ ทำให้คอนแทคเลนส์ ที่สวมใส่ตกลงไปในน้ำ เจียงเหมิ่งสวมบทจอมยุทธช่วยเหญิงงามด้วยการลงไปงมคอนแทคเลนส์ให้หลิวเหม่ ยตี้ ในที่สุดหลิวเหม่ยตี้ ก็จำได้ว่าชายที่เคยช่วยเธอไว้ในอดีตคือเจียงเหมิ่งนั่นเอง เมื่อหลิวเหม่ยตี้พบความจริงเช่นนั้นแล้วก็โผเข้ากอดเจียงเหมิ่งด้วย ความดีใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกฉีเยี่ยพบเห็นโดยตลอด

เถียนซือเซิ่นเห็นปฏิกิริยาของฉีเยี่ยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึง ได้ปลอบใจเธอให้คลายความกังวล ต่อมา เถียนซือเซิ่นและ ฉีเยี่ยก็พากันพูดคุยกันถึงเรื่องราวอันแสนหวานในอดีตทำให้ฉีเยี่ยถึงกับ ยิ้มออกเลยทีเดียว เจียงเหมิ่งเห็นฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งพูดคุยกันอย่างสนิทสนมจึงเกิดความหึง หวงขึ้นมา
วันคล้ายวันเกิดของฉีเยี่ยกำลังจะมาถึง เนื่องจากเถียนซือเซิ่นเคยเป็นศิษย์ของพ่อฉีเยี่ยซึ่งเสียชีวิตไป เพื่อรำลึกถึงความหลัง เถียนซือเซิ่นจึงนัดหมายฉีเยี่ยไปที่บ้านเก่า อีกด้านหนึ่งนั้น เจียงเหมิ่งรับปากตามความต้องการของหลิวเหม่ยตี้โดยตกลงยอมรับนัดหมายของ เธอ
ตอนที่ 14
แม้ว่าเจียงหมิ่งไม่ได้มีใจให้หลิวเหม่ยตี้ ตั้งแต่เบื้องแรก แต่หลังจากที่เจียงเหมิ่งมีโอกาสได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับหลิวเหม่ยตี้แล้วก็ทำ ให้เจียงเหมิ่งสัมผัสได้ถึงจิตใจดีงามและความน่ารักของหลิวเหม่ยตี้ เลิกเรียนระหว่างที่เดินทางกลับบ้าน หลิวเหม่ยตี้ เก็บแหวนซึ่งเจียงเหมิ่งทำตกหล่นขณะที่รีบร้อนเอาไว้ได้ แหวนที่หลิวเหม่ยตี้เก็บได้ทำให้เธอรู้สึกว่าจะต้องมีผู้หญิงที่มีความสำคัญ มากอยู่ในหัวใจของเจียงเหมิ่งอย่างแน่นอน

ขณะที่ฉีเยี่ยกำลังดื่มด่ำอยู่ในความทรงจำในอดีตของเธอและ เถียนซือเซิ่นนั่นเอง ทันใดนั้นเอง เถียนซือเซิ่นก็ดึงฉีเยี่ย เข้ามาสู่อ้อมกอดพร้อมทั้งเปิดเผยความในใจบอกรักฉีเยี่ย นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกเจียงเหมิ่งพบเห็นเข้าโดยบังเอิญ เจียงเหมิ่งรู้สึกเดือดดาลต่อภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจึงวิ่งข้ามถนนไปโดยไม่ได้ ระมัดระวังตัวแม้แต่น้อย รถยนต์ซึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่เจียงเหมิ่ง หลิวเหม่ยตี้เห็นเช่นนั้นจึงผลักเจียงเหมิ่งให้พ้นจากอันตรายจนเธอได้รับบาด เจ็บเสียเอง ต่อมา เถียนซือเซิ่น ก็ตระหนักว่าในเวลานี้หัวใจของฉีเยี่ยมีเพียงเจียงเหมิ่งคนเดียวเท่านั้น มีเพียงเจียงเหมิ่งเท่านั้นที่สามารถมอบความสุขให้เธอได้ สำหรับตนเหตุการณ์อันงดงามในอดีตเป็นเพียงความทรงจำไปแล้ว เด็กสาวในเวลานั้น บัดนี้ได้เติบโตเป็นสาวแล้ว ในที่สุด เถียนซือเซิ่นก็เข้าใจถึงความรู้สึกของตนที่มีต่อฉีเยี่ย ขอเพียงฉีเยี่ยมีความสุข ตนก็มีความสุขแล้ว แต่หย่าลี่ซึ่งอยู่เคียงข้าง เถียนซือเซิ่นเรื่อยมา บัดนี้ได้หมดความอดทนไม่อยากรอคอยเถียนซือเซิ่นอีกต่อไปแล้ว ในวันเกิดของฉีเยี่ยซึ่งเถียนซือเซิ่นได้ นัดหมายว่าจะร่วมฉลองวันเกิดกับฉีเยี่ยนั้น หย่าลี่ก็ตัดสินใจไปจากเถียนซือเซิ่น
ตอนที่ 15
จากการบอกเป็นนัยของหยางผิงและพวก ในที่สุดหลิวเหม่ยตี้ก็พบความจริงว่าฉีเยี่ยเป็นหญิงในดวงใจของเจียงเหมิ่ง หลังจากที่หลิวเหม่ยตี้รู้ความจริงแล้วก็ตัดสินใจยกเลิกการแต่งงาน โดยเป็นฝ่ายจากไปเพื่อให้ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งได้ครองรักกัน ด้วยจิตใจที่ดีงามของหลิวเหม่ยตี้ทำให้ฉีเยี่ยรู้สึกผิดและละอายใจขึ้นมา ฉีเยี่ยคิดในใจว่าความรักของเธอและเจียงเหมิ่งท้ายที่สุดจะมีความสุขหรือไม่ พวกเราต้องทำร้ายคนอีกเท่าใดถึงได้ครองรักกัน พวกเราเห็นแก่ตัวหรือไม่เพื่อให้ได้ความสุขมาครอง ความคิดฟุ้งซ่านเช่นนี้ทำให้ฉีเยี่ยรู้สึกผิดขึ้นมาจนทำให้เธอตัดสินใจหนี เรียน เจียงเหมิ่งออกตามหาฉีเยี่ย เจียงเหมิ่งให้คำมั่นสัญญาต่อฉีเยี่ยว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเราจะไม่ พลัดพรากจากกันเป็นอันขาด จากนั้นเจียงเหมิ่งก็สวมแหวนให้ฉีเยี่ย อย่าได้หวาดระแวงกันอีกต่อไป

ในที่สุดเถียนซือเซิ่นก็ตัดสินใจตัดใจจากฉีเยี่ย เถียนซือเซิ่นพบว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ผู้หญิงที่มีความสำคัญและอยู่เคียง ข้างตนมาโดยตลอดคือหย่าลี่ แต่ตนกลับไม่เหลียวแลเธอเลยแม้แต่น้อย กว่าเถียนซือเซิ่นคิดได้ก็สายเกินไป บัดนี้หย่าลี่ได้จากไปเสียแล้ว ก่อนที่หย่าลี่จะจากไปได้ทิ้งกล่องใบหนึ่งให้เถียนซือเซิ่น ภายในกล่องใบนั้นมีเพลงที่หย่าลี่ต้องใช้เวลาควานหาซื้อด้วยความยากลำบาก เพื่อให้เจียงเหมิ่งนำไปมอบเป็นของขวัญวันเกิดให้ฉีเยี่ย หลังจากที่ทุกคนรู้ความจริงแล้วก็ตัดสินใจช่วยหย่าลี่ให้สมหวังในความรัก ยิ่งใกล้ถึงวันเกิดฉีเยี่ยก็ยิ่งไม่เห็นแม้แต่เงาของหย่าลี่
ตอนที่ 16
เถียนซือเซิ่นตัดสินใจฝากฝังฉีเยี่ยหญิงที่ตนรัก ไว้กับเจียงเหมิ่งโดยขอให้เจียงเหมิ่งดูแลฉีเยี่ยให้ดี อวยพรขอให้ทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุข ในที่สุดเจียงเหมิ่งก็หมดสิ้นความกินแหนงแคลงใจที่มีต่อเถียนซือเซิ่น เถียนซือเซิ่นพบรหัสลับและกุญแจ ตู้ไปรษณีย์ที่หย่าลี่ทิ้งไว้ เถียนซือเซิ่นนำจดหมายรัก จดหมายที่ทุกคนเขียนขึ้นมาเพื่อขอความเห็นใจให้เถียนซือเซิ่น ช็อกโกแลตและแหวนไปไว้ในตู้ไปรษณีย์ของหย่าลี่ เวลานี้เถียนซือเซิ่นถึงพบความจริงว่าแท้ที่จริงแล้วตนรู้จักหย่าลี่น้อยมาก เถียนซือเซิ่นนำอัลบั้มรูปไปไว้ในตู้ไปรษณีย์ ภายในอัลบั้มรูปแทนที่จะเป็นรูปถ่ายของเถียนซือเซิ่นกับฉีเยี่ย แต่นึกไม่ถึงว่ากลับเป็นรูปถ่ายของเถียนซือเซิ่นกับหย่าลี่ ในที่สุดเถียนซือเซิ่นก็สามารถเดาใจหย่าลี่ถูกต้อง และแล้วหัวใจของคนสองคนก็รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

เสี่ยเวยและโหย่วฮุยตกลงกันว่าก่อนถึงวันแต่งงานของทั้งสอง ทั้งสองจะพากันไปพูดคุยกับคุณย่าเจียงถึงการแต่งงานของฉีเยี่ยและเจียงเห มิ่ง เนื่องจากฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งอยู่บ้านด้วยกันตามลำพัง ทำให้คุณย่าเจียงเกิดความไม่สบายใจขึ้นมาด้วยเห็นว่าไม่งาม แม้ว่าเสี่ยเวยพยายามแก้ต่างให้ฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งก็ตาม แต่คุณย่าเจียงกลับไม่ยอมรับฟัง คำพูดที่คุณย่าเจียงโต้ตอบกลับมาทำให้เสี่ยเวยรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ฉีเยี่ยตัดสินใจว่าจะไปทำความสะอาดสุสานพ่อของเธอ เจียงเหมิ่งอาสาขอติดตามไปด้วย ทำให้ฉีเยี่ยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ...
ตอนที่ 17
จู่ ๆ ฝนก็ตกหนักลงมา ทำให้การจราจรในเมืองติดขัดเป็นอัมพาต รถไฟต้องหยุดการเดินรถ เจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยติดฝนไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ฉีเยี่ยเนื้อตัวเปียกปอนจนสั่นเทาด้วยความหนาว เจียงเหมิ่งเกรงว่าฉีเยี่ยจะเป็นวัดจึงตัดสินใจพาเธอเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเวลาเดียวกันนี้เอง ฉีเยี่ยก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากทางบ้าน ด้วยความที่แม่ไม่เห็นเจียงเหมิ่งและฉีเยี่ยอยู่บ้านด้วยกัน ทั้งคู่ ทำให้แม่เกิดความวิตกกังวลเกรงว่าความรักความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจะเปิด เผยออกมาจนเป็นเหตุทำลายความสุขของแม่ ฉีเยี่ยตัดสินใจเดินทางกลับบ้านโดยทิ้งเจียงเหมิ่งไว้ตามลำพัง เจียงเหมิ่งเห็นว่าถ้าหากหลบหนีต่อไปเกรงว่าสักวันหนึ่งฉีเยี่ยจะละทิ้งความ รักที่มีต่อกันไปได้ แต่แล้วฉีเยี่ยกลับพบว่าเธอไม่สามารถทอดทิ้งเจียงเหมิ่งไปได้ หากทอดทิ้งเจียงเหมิ่งไปดูเหมือนว่าไม่เป็นธรรมกับจียงเหมิ่งสักเท่าใดนัก ฉีเยี่ยตระหนักดีว่าเธอและเจียงเหมิ่งจะต้องกลับบ้านด้วยกัน เผชิญความจริงซึ่งอยู่เบื้องหน้า

ในที่สุดเสี่ยเวยก็รู้ว่าฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งรักกัน ถึงแม้ว่าเสี่ยเวยตกใจมาก แต่เพื่อความสุขของลูกสาวแล้ว เสี่ยเวย จึงตัดสินใจละทิ้งการแต่งานของเธอ นึกไม่ถึงเสี่ยเวยกลับพบว่าเธอตั้งครรภ์เสียแล้ว โหย่วฮุยยืนกรานว่าทุกคนจะต้องมีความสุขถ้วนทั่ว การแต่งงานของตนและเสี่ยเวยต้องดำเนินต่อไป ความรักของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งก็ต้องดำเนินต่อไปเช่นเดียวกัน เชื่อว่าความสุขจะต้องได้มาจากความพยายามของทุกคน
เนื่องจากพ่อของฉิงจื่อถูกโยกย้ายไปทำงานต่างประเทศ ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน ถึงแม้ว่าฉิงจื่อดึงดันที่จะอยู่ที่ไต้หวัน แต่พ่อก็ยืนกรานไม่อนุญาต ฉิงจื่อวิตกกังวลเกรงว่าการย้ายไปอยู่ต่างประเทศของเธอจะทำให้เธอและซ่าง หยวนอีไม่สามารถคบหากันอีกต่อไป เมื่อฉิงจื่อเห็นความรักของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่งได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่ ทั้งสองฝ่าย ทำให้ฉิงจื่ออิจฉาคนทั้งสองเป็นอันมาก เพื่อทำลายอุปสรรคความรัก เพื่อให้คุณย่าเจียงยอมรับ เจียงเหมิ่งจึงตัดสินใจไปหาคุณย่าเจียง
ตอนที่ 18
ใกล้ถึงกำหนดที่ฉิงจื่อจะต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ทำให้ฉิงจื่อไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไรต่อซ่างหยวนอี สิ่งที่ทำได้คือ ทะนุถนอมวันเวลาของกันและกันเพื่อสร้างความทรงจำอันงดงามเอาไว้ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของฉิงจื่อทำให้ซ่างหยวนอีเกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้นมา เสี่ยเวยและโหย่วฮุยต่างพากันเป็นห่วงวิตกกังวลเกรงว่าคุณย่า เจียงจะทำลายความสัมพันธ์ของฉีเยี่ยและเจียงเหมิ่ง แต่ นึกไม่ถึงว่าคุณย่าเจียงได้ถูกเจียงเหมิ่งเกลี้ยกล่อมจนคลายทิฐิลงไปได้แล้ว ทำให้ความสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เช้าวันหนึ่งคุณย่าเจียงก็เห็นฉีเยี่ยและโหย่วฮุยมีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้คุณย่าเจียงเกิดความประหลาดใจขึ้นมา

ฉิงจื่อไม่กลับบ้านตลอดทั้งคืน ทำให้พ่อโกรธมากไปตามหาฉิงจื่อที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้า หลังจากที่พ่อทำเรื่องลาออกจากมหาวิทยาลัยให้ฉิงจื่อแล้ว พ่อก็รู้ความจริงว่าฉิงจื่อพักอยู่ที่หอพักของซ่างหยวนอีตลอดทั้งคืน ในที่สุดซ่างหยวนอีก็รู้ความจริงว่าฉิงจื่อต้องย้ายตามครอบครัวไปอยู่ต่าง ประเทศ บางทีการจากกันครั้งนี้อาจจะไม่ได้พบหน้ากันอีกก็เป็นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ซ่างหยวนอีจึงรวบรวมความกล้าท้าทายความเข้มงวดของพ่อ ฉิงจื่อ แม้ว่าจะมีอุปสรรคสักเพียงใดก็จะต้องช่วงชิงฉิงจื่อกลับคืนมาให้ได้ วันเกิดของเจียงเหมิ่งใกล้เข้ามาทุกที นึกไม่ถึงว่าเจียงเหมิ่งได้รับจดหมายจากหยวนเหม่ยจินแม่ซึ่งทอดทิ้งตนไป ที่แท้แม่มีความประสงค์ที่จะร่วมฉลองวันเกิดกับเจียงเหมิ่ง แล้วเจียงเหมิ่งจะไปตามนัดหมายหรือไม่
ตอนที่ 19
ฉีเยี่ยออกไปหาซื้อของเพื่อเตรียมเป็นของขวัญวันเกิดให้ เจียงเหมิ่ง นึกไม่ถึงว่าได้พบกับหยวนชวนย่างโดยบังเอิญ ในเวลานี้เองฉีเยี่ยถึงรู้ความจริงว่าหยวนชวนย่างและแม่กำลังจะพากันย้ายไป อยู่ที่อิตาลี ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่แม่และหยวนชวนย่างนัดหมายร่วมฉลองวันเกิดกับเจียงเหมิ่ง ในเยาว์วัยของเจียงเหมิ่ง แม่มักจะร้องไห้และพูดกับเจียงเหมิ่งว่าหากไม่มีเจียงเหมิ่งก็ดี คำพูดของแม่สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้เจียงเหมิ่งเป็นอันมากจนทำให้เจียงเห มิ่งฝังใจมาโดยตลอดว่าตนเป็นเหตุทำลายชีวิตสมรสของแม่ ในที่สุดแม่ก็ตัดสินใจพาหยวนชวนย่างทอดทิ้งเจียงเหมิ่งไป แต่ในเวลานี้เจียงเหมิ่งได้รับความรักจากทุกคน ทำให้เจียงเหมิ่งตัดสินใจที่จะร่วมฉลองวันเกิดของตนกับแม่และหยวนชวนย่าง แต่สิ่งที่ฉีเยี่ยคาดคิดไม่ถึงก็คือแม่ต้องการพาเจียงเหมิ่งไปอยู่อิตาลี ด้วยกัน

แม้ว่าเจียงเหมิ่งปฏิเสธที่จะย้ายไปอยู่อิตาลี แต่ความรักที่แม่มีให้เจียงเหมิ่งก็ทำให้เจียงเหมิ่งตื้นตันใจจนหลั่งน้ำตา ออกมาเป็นครั้งแรก ฉีเยี่ยเข้าใจดีว่าเจียงหมิ่งพยายามสะกดอารมณ์และความรู้สึกเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถสะกดอารมณ์และความรู้สึกไว้ได้ แม้ว่าฉีเยี่ยรู้สึกไม่สบายใจก็ตาม แต่เธอก็ไม่อยากชี้นำการตัดสินใจของเจียงเหมิ่ง สิ่งที่ฉีเยี่ยทำได้คือนิ่งเงียบรอรับฟังคำตอบจากเจียงเหมิ่งเท่านั้น เธอไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเจียงเหมิ่งอย่างไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภายหลัง ที่รู้ว่าเจียงเหมิ่งตัดสินใจย้ายไปอยู่อิตาลี
ตอนที่ 20
แม้ว่าฉีเยี่ยมีลางสังหรณ์ไม่สู้ดีนักก็ตาม แต่หลังจากที่ฉีเยี่ยรู้จากแม่ว่าเจียงเหมิ่งตัดสินใจไปอยู่อิตาลีแล้วกลับ ทำให้เธอยากที่จะทำใจยอมรับได้ ทั้งที่ฉีเยี่ยรักเจียงเหมิ่งจนสุดหัวใจ แต่กลับได้ยินเจียงเหมิ่งพูดว่าตนจะไม่พูดให้ฉีเยี่ยรอคอย ทำให้ฉีเยี่ย ไม่รู้ว่าสมควรจะเชื่อถือคำมั่นสัญญาที่มีต่อกันหรือไม่ ทำให้เธอไม่รู้ว่าจะสานรักต่อไปดีหรือไม่ ฉิงจื่อรู้สึกว่าฉีเยี่ยไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงตบหน้าและประณามเจียงเห มิ่งเห็นแก่ตัว ซ่างหยวนอีรู้สึกแปลกใจด้วยไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจียงเหมิ่งจึงทิ้งความรักไป อย่างง่ายดาย เจียงเหมิ่งตอบด้วยรอยยิ้มว่าใครกำหนดให้ตนเป็นมารร้ายมาตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตน ที่แท้จริงของตนไปได้

สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือฉีเยี่ยจากที่เคยเอ้อละเหยลอยชายได้ปรับ เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่โดยตั้งใจเรียนหนังสือ ทำงานพิเศษ ดูเหมือนว่าการที่ฉีเยี่ยทำเช่นนี้นั้นเพื่อให้เธอลืมความเจ็บปวดที่มีนั่น เอง บรรดาเพื่อน ๆ ซึ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของฉีเยี่ยต่างรู้สึกเห็นใจเธอเป็นอันมาก ฉิงจื่อซึ่งอยู่เคียงข้างฉีเยี่ยเรื่อยมานั้นสุดทนต่อไปได้ที่ เห็นฉีเยี่ยพยายามฝืนทำทุกอย่าง เพื่อให้ลืมความเจ็บปวดจนในที่สุดก็มีปากเสียงทะเลาะกันขึ้นมา ต่อมา ฉีเยี่ยก็หายตัวไป ทั้งยังดื่มเหล้าเมามายอีกด้วย ในทีสุดเจียงเหมิ่งก็ตามหาฉีเยี่ยพบ เจียงเหมิ่งบอกฉีเยี่ยว่าแม้ว่าฉีเยี่ยจะเปลี่ยนใจ ตนก็ยัวคงรักฉีเยี่ยตลอดไป....เมื่อฉีเยี่ยได้ยินคำพูดของเจียงเหมิ่งก็ทำ ให้ฉีเยี่ยคลายความวิตกกังวลไปโดยทันที ฉีเยี่ยรู้ดีว่าเธอจะต้องรอวันที่เจียงเหมิ่งเดินทางกลับจากอิตาลี สานความสุขที่ไม่มีวันหมดตลอดไป....





ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/







วันจันทร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

ไพ่ยิปซีทายรัก-ธิดาวานร ภาค 2 ขุมทรัพย์สุสานอัญมณี

ปรับฮวงจุ้ย,เสริมชะตาชีวิต โทร 089 745 8432 -เรื่องย่อ ธิดาวานร 2 ตอนขุนทรัพย์สุสานอัญมณี

หลังจากที่เรื่องธิดาวานรภาค 1 จบไป เราก็จะมาต่อกันเลยกับธิดาวานร ภาค2 เรื่องราวสนุกสนานมากขึ้น ตามสไตล์หนังแนวแฟนตาซี เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ดูกันได้ทั้งครอบครัว เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...

ธิดาวานรภาคสอง จะเปิดฉากที่ เห็น อิยะวดี (อาเมเรีย จาคอป) ถูกจับบูชายันต์ใส่ชุดออกแนวขอมผสมล้านนา ปล่อยผมสยายถูกตรึงอยู่บนแท่นไม้ มีไฟอยู่ด้านล่าง อิยะวดีใส่เครื่องทับทิมสีแดงเต็มยศ มีบรรดาหญิงสาวสวยมากมายแต่งตัวสวยเช่นกันห้อมล้อมอยู่ มีลิงสองตัวพยายามจะเข้าไปที่แท่นบูชาแต่โดนจับไว้ ที่อิยะวดีบอกกล่าวกับทุกคนในที่นั้นไว้ว่าจะขอเฝ้ารักษาขุมทรัพย์แห่ง สุสานอัญมณีเพื่อป้องกันและทวงคืนอัญมณีจากผู้บุกรุกทุกชาติภพไปตราบจนกว่า ผู้บุกรุกเหล่านั้นจะอ่อนล้าและหมดกำลังไม่สามารถมาปล้นอัญมณีที่สุสานแห่ง นี้ได้อีก ขาดคำเห็น สะมะแอ (ชุมพร เทพพิทักษ์) แสนไท (ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์)เจ้ากุนริกา แห่งรมยนคร และทหารผู้บุกรุกกำลังขนอัญมณีและทำร้ายหญิงสาวทั้งหลาย มีฝูงลิงกำลังช่วยกันต่อสู้ต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เพราะเกิดไฟลุกท่วมสรรพสิ่งทั้งหลายระเบิดเป็นจุล พวกบุกรุกร้องโอดโอย เห็นหน้าของอิยะวดียิ้มพอใจในกองเพลิง ในที่สุดผู้บุกรุกก็เสียชีวิต นี่คือความฝันของอิยะวดีนั่นเอง อิยวะดีแปลกใจในความฝันที่เหมือนจริงและชัดเจนนั่นมาก แต่ไม่ได้ปริปากบอกใครเพราะทุกคนต่างวุ่นวายกับเรื่องราวต่างๆ หลังจากที่ได้เพชรสีชมพูคืนมา

ทุกคนร่วมกันเอาเพชรสีชมพูไปคืน เจ้าชายแทงโก้ ที่ทุกคนเข้าใจว่าสิ้นพระชนม์ไปแล้ว พนา (วงศกร ปรมัตถากร) อรุณี (ดวงดาว จารุจินดา)พินิจ (ทูน หิรัญทรัพย์) รวมทั้งอิยะวดีจึงพากันไปพบเจ้าชายเพื่อเอาไปไถ่ตัวพระชายาออกมาจากคุก นัดพบมอบเพชรกันที่มาเก๊าหรือฮ่องกงเช่นเดิม การไปครั้งนี้แม้ปิดบังที่สุดแล้วก็ยังเกิดเหตุระหว่างเดินทางไปสนามบิน รถที่ทั้งหมดนั่งไปโดนยิงจากพวกที่ต้องการเพชรสีชมพูไว้ในครอบครอง รถโดนยิงล้อ ทั้งหมดต้องลงจากรถเพราะรถโดนปาระเบิดมาใส่ หลังจากวิ่งหนีลงมาได้รถก็ระเบิดเฉียดตายกันหวุดหวิดอีกครั้ง เจ้าชายจึงมีพระดำรัสว่าจะจัดส่งเรือยอชน์มารับทั้งหมดให้ไปพบที่ฮ่องกง ทั้งหมดต้องเดินทางไปขึ้นฮ. แล้วไปขึ้นเรือยอชน์ที่เจ้าชายส่งมา รอรับทางทะเลอีกที

ในที่สุดก็สามารถส่งมอบคืนเพชรสีชมพูแก่เจ้าชายได้ พนากับอิยะวดีได้รับเหรียญตราเชิดชูเกียรติยศมา มีพิธีรับมอบกันในโรงแรมหรูที่มาเก๊าหรือฮ่องกง ส่วนอรุณีและพินิจได้รับการติดต่อให้เป็นตัวแทนซื้อขายอัญมณีของประเทศ แทงโก้ในประเทศไทย ทุกคนอิ่มเอิบใจที่ได้ผลดีตอบแทนความดีที่ทำไว้ กลับมาเมืองไทย ดำรง (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) บัวบาน (ฐรินดา กรรณสูต)พินิจลงความเห็นว่าอิยะวดีสมควรเรียนหนังสือ แต่อิยะวดีอิดออด ยังไม่คุ้นเคยกับการเป็นคนในเมืองและยังเป็นห่วง แม่มา กับ นาตาเลีย และเพื่อนพ้องและผืนป่า แม้ว่าพนาสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุดให้อิยะวดีกลับมาบนดอยทุกวันสุดสัปดาห์ อิยวะดีไม่ยอม ในที่สุดตกลงกันว่าให้อิยะวดีเรียนโรงเรียนตชด.กับพวกเด็กบนดอย อิยะวดีต่อรองขอเรียนกับครูหอมนวล เอานาตาเลียไปเรียนด้วย ครูหอมนวลตกลงและมีข้อแม้ว่าให้อิยะวดีสอนภาษาลิงให้ครูทุกคนจึงจบลงด้วยดี ทุกฝ่าย ถึงแม้ว่าจะไม่อยู่ในถ้ำแต่อิยะวดียังคงพอใจใช้วิธีเดินทางในป่าและที่ไหนๆ ด้วยการโหนเถาวัลย์เช่นเดิม และพยายามสอนคนอื่นรอบข้างให้ทำบ้าง ไม่มีใครยอมทำด้วย ยกเว้นอรุณีที่พยายามอยู่สองสามครั้งแต่กลับมาปวดเมื่อยไปเจ็ดวันจึงเลิกรา ไปเพราะพินิจขอร้องแกมสั่งห้าม

ส่วน คำรณ (ปิยะ วิมุกตายน) หลังจากโดนระเบิดวันนั้นทุกคนคิดว่าคำรณตายไปแล้ว คำรณนอนจมกองเลือดแขนขาด ก่อนลมหายใจสุดท้ายความตายกำลังมาเยือน สะมะแอ สืบเชื้อสายมาจากขุนนางผู้ปกป้องขุมทรัพย์รมยนครที่แอบปล้นมาจากสุสานอัญมณี ของ เจ้าหญิงทรายคำ เขาเป็นคนมีวิชาอาคมขลังมากมาพบคำรณนอนรอความตาย แร้งกาบินมาเต็มบนต้นไม้รอจังหวะจะมาแย่งกันจิกกิน ในที่สุดก็พากันบินลงมาจะกิน สะมะแอเดินผ่านเลยไป คำรณครางเรียกให้ช่วย
คำรณ ช่วยด้วย
สะมะแอ ข้าไม่ช่วยคนไร้ค่าที่กำลังจะถูกแร้งกาจิกกิน
คำรณ ถ้าช่วยผม ผมจะกลายเป็นคนมีค่าสำหรับท่านผมจะยอมเป็นทาสรับใช้ของท่านตลอดกาล
สะมะแอ ถึงเจ้ารอดตายเจ้าก็คงพิการ
คำรณ พิการข้าก็ยอม

สะมะแอหยุดคิดมองไปยิ้มพยักหน้า หันไปเป่าปากเสียงปรี๊ดบรรดาแร้งกาแตกฮือไปจากการมารุมจิกทึ้งคำรณทันที จากนั้นป้อนยาชุบชีวิตให้คำรณกิน

ส่วน เอมฤดี (อติมา ธนเสนีวัฒน์) กับ นาถยา (รชยา รักกสิกรณ์ )สองแม่ลูกหลังจากรถระเบิดตกลงมาไหม้ดำสลบไป แต่พวกดำรงกับบัวบานคิดว่าตายแล้ว แสนไทผ่านมาตามหาสมบัติที่โดนขโมยไปมาพบสองแม่ลูกนอนสลบและฟื้นมาพอดีกำลัง ครวญคราง แสนไทจึงช่วยเหลือเพื่อทดสอบวิชาของตัวเองและคิดจะเอาไปเป็นทาสรับใช้ แสนไทให้ยาชุบชีวิตแก่สองคนกินสองคนได้สติ แสนไท ถึงเจ้ารอดตายแต่เจ้าต้องเสียโฉมอัปลักษณ์สุดประมาณ สองคนตอบตกลง แสนไทจึงสั่งบริวารนำสองคนกลับไปรักษาในบ้านลึกลับกลางป่า

ที่โรงเรียนตชด. อิยะวดีไปเรียนกับนาตาเลีย ใส่ชุดนักเรียน สะพายเป้ ไปเรียนร่วมกับเด็กๆ ร้องเพลงชาติ อ่านหนังสือ ยามว่างสองคนกับนาตาเลียสอนภาษาลิงให้ครูและเด็กอื่นๆ สนุกสนานเฮฮากันมากที่โรงเรียน อิยะวดีเรียนเร็วมาก เรียนเก่งเลื่อนชั้นพรวดๆ ในเวลาไม่นานก็กลายเป็นเรียนจบโรงเรียนตชด. ตลอดเวลาที่เรียนมีพนาเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนการบ้านและแนะนำเรื่องราวต่างๆ วันหยุดและยามว่างก็พากันเข้าไปในป่าดูแลเยี่ยมเยียนช่วยเหลือพวกสัตว์ในป่า ความรักของสองคนราบรื่นและอยู่ในขอบเขตเพราะอิยะวดียังเด็ก อรุณีและบัวบานมีหน้าที่คอยสอนเรื่องความเป็นอยู่และการเข้าสังคมของอิยะวดี อิยะวดีจึงดูเป็นสุภาพสตรีน้อยที่น่ารัก แจ่มใสแต่ยังซุกซนและเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม

คำรณได้รับการรักษาดูแลจากสะมะแออาการดีขึ้น ตาบอดข้างหนึ่งต้องปิดตาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ใส่ตะขอเหล็กไว้จับฉวยและกลายเป็นอาวุธสำคัญของคำรณในเวลา ต่อมา คำรณเรียนรู้วิชาชั่วร้ายจากสะมะแอด้วยวิธีครูพักลักจำกลายเป็นคนชั่วร้าย มากกว่าเดิม คำรณหวังจะกลับไปแก้แค้นพวกพนาอิยะวดีให้ได้สักวัน ส่วนสองแม่ลูกเอมฤดีและนาถยาได้รับการรักษาเช่นกันแต่หน้าตาพังยับเยิน ตกแต่งแล้วก็ยังหน้าเกลียด จึงอ้อนวอนให้แสนไททำหน้ากากใบหน้าเทียมให้สวยงาม สองคนเปลี่ยนลุคใหม่ทั้งใบหน้าและทรงผม ทนยอมเป็นทาสของแสนไทเพื่อรอวันออกไปแก้แค้นอิยะวดี ทั้งสะมะแอและ แสนไทมีคุ้มอยู่กลางป่าบนเขาที่ลึกลับแห่งหนึ่ง มีทาสรับใช้มากมายที่ไม่เคยปริปากบ่นทำทุกอย่างตามที่ทั้งสองสั่งเพราะ โดนครอบงำด้วยเวทย์มนต์ สะมะแอกับแสนไทมีฐานะร่ำรวยเพราะมีทรัพย์สินที่ต้นตระกูลแอบหยิบฉวยมาจาก เจ้ากุนริกาที่ขโมยมาจากเจ้าหญิงทรายคำอีกต่อ ทั้งสองทำตัวลึกลับไม่ยอมพบปะกับคนภายนอกถ้าไม่จำเป็นและพยายามสืบหาขุม ทรัพย์ของรมยนครที่เจ้ากุนริกาแอบปล้นจากสุสานอัญมณีมาให้ได้ เพราะได้ติดตามชายแก่คนหนึ่งก่อนหน้านี้ที่มีสร้อยทับทิม ซึ่งทั้งสองมั่นใจว่าขโมยมาจากขุมทรัพย์ดังกล่าว

ในการออกเดินสำรวจป่าและดูแลสัตว์ พรานเส็ง กับ ลีกอ หลานชายของพรานเส็งที่พ่อเพิ่งตายมาอยู่ด้วยออกติดตามไปกลายเป็นผู้ช่วยพนา ส่วน สุชาติ กลับไปเป็นนักมายากลโดยใช้แค่สัตว์เล็กสัตว์น้อยเช่นนกพิราบ กระต่าย ประกอบมายากลเท่านั้นเอง ดำรงกับบัวบานก็มีความสุขอยู่ด้วยกันโดยลืมเรื่องนาถยากับเอมฤดีไปจนหมด สิ้น ไม่เคยคิดว่าจะโดนย้อนรอยกลับมาล้างแค้นกันอีก อรุณีกับพินิจก็ยังสนุกสนานร่าเริงร่ำรวยมากขึ้นกับการค้าขายอัญมณีและไม่ คิดว่าจะโดนย้อนรอยมาล้างแค้น ต่อมาคำรณได้พบกับเอมฤดีและนาถยา แต่ต่างจำกันไม่ได้และไม่เคยบอกที่มาที่ไปของตัวเอง เพียงแต่สงสัยท่าทีของกันและกัน ในที่สุดทั้งสามก็รู้เรื่องของกันและกันและวางแผนล้างแค้นร่วมกัน คำรณเปลี่ยนชื่อเป็นส่างหม่อง นาถยาเปลี่ยนชื่อเป็นแสงแก้ว เอมฤดีเปลี่ยนชื่อพวงมาลี สามคนไปบอกกับแสนไทและสะมะแอว่าได้เวลาตอบแทนพระคุณให้แล้วจะไปช่วยตามล่าหา สมบัติที่สะมะแอกับแสนไทบอกว่าโดนขโมยมามอบให้ แสนไทกับสะมะแอจึงส่งสามคนเข้าเมืองทันที

พวงมาลีและแสงแก้วเปลี่ยนทรงใหม่ใส่หน้ากากเทียมยามปกติ แต่ถ้าอยากทำร้ายใครก็จะถอดหน้ากากออกเห็นใบหน้าอัปลักษณ์ ส่วนส่างหม่องได้แขนเทียมใหม่ใส่แว่นดำบดบังสายตาในยามปกติ แต่ในเวลาที่ต้องการทำร้ายใครจะถอดแว่นปิดตาข้างเดียวแล้วใช้มือตะขอเหล็ก เล่นงาน อิยะวดีได้เข้าเรียนในคณะวนศาสตร์ ที่นั่นอิยะวดีได้พบเพื่อนสาวแสนสวยสุภาพอ่อนน้อมชื่อพวงมาลี(เอม) ส่วนอรุณีได้รู้จักพ่อค้าเพชรเชี่ยวชาญการดูอัญมณีชื่อส่างหม่องเป็นคนไทย ใหญ่ ส่วนดำรงและบัวบานได้ผู้จัดการบริษัทส่งออกผ้าไหมคนใหม่ชื่อ แสงแก้ว อิยะวดีกลายเป็นเพื่อนสนิทกับพวงมาลี (เอม) พวงมาลีพูดอะไรอิยะวดีเชื่อหมดจนบางครั้งอิยะวดีต้องผิดใจกับพนา พ่อแม่จนกระทั่งละเอ ทางด้านพินิจก็ชื่นชมพ่อค้าอัญมณีคนใหม่ชื่อส่างหม่องมาก พากันไปหาซื้ออัญมณีโบราณมาจากหลายที่ ส่วนดำรงและบัวบานก็ต่างชื่นชมแสงแก้ว แสงแก้วแกล้งทำซึมๆ น่าสงสาร และหาโอกาสทำให้ดำรงกับบัวบานผิดใจกันเงียบๆ และร้าวลึกมากขึ้นเรื่อยๆ

วันหนึ่ง พนา พรานเส็ง ลีกอ กางเต้นท์อยู่ในป่า ได้กลิ่นสาปเสือรุนแรงมาก เสียงเสือคำรามลั่นทั้งคืน รุ่งขึ้นพนาได้ทราบจากพวกชาวบ้านว่ามีคนงานรับจ้างนายทุนตัดไม้ถูกเสือขบตาย สองคน พวกชาวบ้านจะพากันไปยิงเสือให้ตาย พนาตกใจรีบห้าม แต่ไม่มีใครฟัง ละเอรีบไปบอกอิยะวดี อิยะวดีจึงตามพนาไปในป่าเพื่อไปช่วยเสือลำบากแต่ขอเอาพวงมาลีไปด้วย พวงมาลีทำเป็นดีใจฉวยโอกาสรู้จักพนา สนิทสนมกับพนา เสือกัดชายคนนั้น ก่อนตายชายคนนั้นได้มอบสร้อยทับทิมเม็ดใหญ่มากให้กับอิยะวดีพร้อมกับกล่าวขอโทษ ทุกคนคิดว่าคนนี้บ้า ทุกคนคิดว่าของปลอมเพราะชาวบ้านได้พบชายคนนี้มาก่อนเป็นคนบ้าๆ บอๆ ก่อนตายพร่ำเอ่ยชื่อ กุนริกนา(กุนนะริกกะนา) เสือจะโดนฆ่าตายเพราะทำร้ายผู้คนเนื่องจากบาดเจ็บและจนตรอก ในที่สุดนาตาลีกับอิยะวดีก็พูดกับเสือเข้าใจ เสือยอมให้ช่วยเหลือรักษาบาดแผล เสือได้รับการรักษาและถูกปล่อยเข้าป่าตามเดิม เสือสัญญาว่าจะตอบแทนพวกพนากับ อิยะวดีสักวัน

พวงมาลีได้ติดตามไปทุกที่ที่อิยะวดีไปในฐานะเพื่อนรักเพื่อพิทักษ์ป่า พวงมาลีเคยแกล้งจัดฉากช่วยชีวิตอิยะวดีโดยมีพวกของส่างหม่องมาเป็นตัวละครจะ มาทำร้ายอิยะวดี ดำรงบัวบานเห็นความดีจึงชวนให้พวงมาลีมาพักที่บ้านเพราะรู้ว่ามาจากจังหวัด อื่น ส่วนแสงแก้วก็ได้สร้างภาพความซื่อสัตย์ให้ปรากฏแก่ดำรงและบัวบานด้วยการ จัดฉากโดยส่างหม่องเช่นกันว่าส่างหม่องไปซื้อผ้าไหมแล้วแกล้งทำกระเป๋าเงิน กับเพชรตกไว้หน้าร้าน ในนั้นมีเงินเป็นล้านและเพชรอีกจำนวนหนึ่ง แสงแก้วทำเก็บได้แล้วเอาไปให้บัวบานกับดำรงประกาศหาเจ้าของ ส่างหม่องทำเป็นให้รางวัลแสแก้ว แสงแก้วทำว่ามีโรคประจำตัวคือลมชัก ทำให้บัวบานสงสารขอดำรงให้แสงแก้วมาพักอยู่ในบ้านสมความต้องการของแสงแก้ว และพวงมาลี ทั้งสองทำเป็นว่าต่างเกรงใจและเพื่อความประหยัดน้ำไฟ สองคนจะพักห้องเดียวกัน เพราะปกติพวงมาลีก็มักมานอนห้องเดียวกับอิยะวดีอยู่แล้ว ละเอนั้นคัดค้านการนำเอาสองคนมาพักในบ้านหัวชนฝา แต่ไม่มีใครฟังแถมโกรธละเอ โดยเฉพาะอิยะวดีโกรธละเอจนไม่ยอมให้ละเอมาใกล้ชิดดูแลเหมือนเดิมอีก

อิยวะดีฝันเห็นตัวเองนั่งแพกับฝูงวานรใส่สร้อยทับทิมเส้นที่คนแก่มอบให้ ก่อนตาย จึงบอกพนา พนานึกถึงสร้อยทับทิมที่ชายแก่บ้าให้ไว้ก่อนตายได้จึงเอามาให้อรุณีและพินิจ ดู สองคนตะลึงให้กับความสวยงามของทับทิมยักษ์ทั้งเส้นนั่น และตรวจดูพบว่าเป็นของจริง ส่างหม่องถูกเชิญมาร่วมตรวจสอบตื่นเต้นมาก ส่างหม่องแอบแจ้งให้สะมะแอกับแสนไทรู้ สองคนมอบให้ส่างหม่องจัดการตามแผนที่ช่วยกันวางไว้ ส่างหม่องปรึกษากับพวงมาลีและแสงแก้วว่าจะแกล้งทำเป็นหาทางเอาคืนให้สะมะ แอกับแสนไท แต่ความจริงต้องการจะเอาไว้เองและคิดว่าจะพ้นเงื้อมมือของแสนไทและสะมะแอ ซึ่งคงไม่สามารถติดตามไปทำร้ายถึงในเมืองได้ ต่อมามีจดหมายลึกลับมาถึงพวกอรุณีว่าเครื่องประดับเหล่านั้นเป็นของนาง พญาทรายคำที่ต้องคำสาปไว้จะเกิดเหตุร้ายกับทุกคนในครอบครัวของอรุณี อรุณีตกใจมากมาปรึกษาส่างหม่องว่าจะคืนของเหล่านั้น ส่างหม่องให้สืบหาคนเอามาขายเพื่อหาที่มาและทวงเงินคืน ส่างหม่องรับปากจะจัดการให้ทั้งหมด

ต่อมามักเกิดเหตุร้ายแปลกๆ อันคาดไม่ถึงกับทั้งบ้านของดำรงและอรุณี ดำรง บัวบาน อรุณี พินิจ พนา อิยะวดีต่างพบอุบัติเหตุ ที่แปลกๆ เหลือเชื่อหลายครั้ง เช่น จู่ๆ มีงูใหญ่มากเข้ามาในห้องนอน ค้างคาวยักษ์ นกยักษ์ ฝันร้ายหลับๆ ตื่นๆ เห็นคนยุคโบราณมาด่าทอ พบชายตาเดียวมือเป็นตะขอเหล็กจะมาทำร้าย พบหญิงหน้าปีศาจมาหลอกหลอน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็ยังดำเนินชีวิตตามปกติ พนายังคงเข้าป่า คืนหนึ่งพนากับพวกได้ยินเสียงประหลาดเป็นบทเพลงช้าๆ เยือกเย็น ร้องโดยผู้หญิง พนาฟังไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครฟังรู้เรื่อง ตามหาต้นเสียงแต่เสียงขาดหายไป รุ่งขึ้นพนาได้ยินเสียงนั้นอีกจึงอัดเสียงไว้ หญิงคนนี้ได้ปรากฏตัวแบบลับๆ ล่อๆ ให้ทุกคนเห็นหลายครั้งมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว สร้างความแปลกใจกับทุกคนว่าเธอคือใคร มีคนฟังแล้วพอเข้าใจความหมายคือละเอนั่นเอง ละเอบอกว่าเสียงนั้นพรรณาถึงเมืองอันงดงาม อันมีสมบัติโบราณแก้วแหวนเงินทองและหญิงงามผู้เศร้าโศก พนาแปลกใจมาก พอดี บุราณเพื่อนสนิทของพนาซึ่งเป็นอาจารย์โบราณคดีที่มหาวิทยาลัยศิลปากรมาพบและ บอกว่ากำลังศึกษาเรื่องสมบัติโบราณของนางพญาทรายคำที่มีผู้บอกเล่าว่ามี เหตุการณ์หนึ่งที่ไม่ได้บันทึกไว้ในตำนานคือเรื่องการถูกขโมยสมบัติล้ำค่า โดยเจ้าเมืองรมยนครผู้ใจร้ายและฉ้อฉล เขากำลังตามหาขุมทรัพย์แห่งนี้อยู่ว่ามีจริงหรือไม่ พนาจึงนึกถึงชายบ้าที่ตายและมอบสร้อยทับทิมเม็ดใหญ่มากไว้ให้ว่าได้เอ่ยชื่อ ถึงกุนริกนาเอาไว้ ทำนองกลัวมาก จึงบอกเล่ากับบุราณเรื่องสร้อยทับทิม บุราณบอกว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสมบัตินางพญาทรายคำที่หายไปตามประวัติศาสตร์โดย เจ้ากุนริกนาและกุนริกนาได้เอาสมบัติดังกล่าวไปซ่อนไว้ในที่ลึกลับแห่งหนึ่ง แต่เพื่อความมั่นใจ พนาเอาสร้อยทับทิมเส้นนั้นไปให้แม่เก็บไว้ อรุณีตกใจมากบอกว่านั่นคือของแท้ ส่างหม่อง แสงแก้วและพวงมาลีปรึกษากันว่าจะแย่งมาได้อย่างไร ในที่สุดทั้งหมดจึงตัดสินใจร่วมเดินทางไปหาเมืองดังกล่าวเพื่อหาโอกาสแย่ง คืนระหว่างทางและฆ่าทุกคนให้ตายหมด

พนาโดนบัตรสนเท่ห์ว่ารับสินบนจากนายทุนรายใหญ่โดยที่ผู้ส่งคือคำรณนั่น เอง ทั้งที่พนาต่างหากคือผู้จับกุมนายทุนรายนั้น พนาโดนพักราชการ พนาต้องการจับและสืบหาตัวนายทุนคนนั้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง พนาและบุราณจึงตัดสินใจออกไปตามหาสุสานแห่งขุมทรัพย์ว่ามีจริงหรือไม่ อรุณีกับอ้อนวอนขอเดินทางไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าต้องการไปพักผ่อน แม้พินิจกับพนาจะบอกว่านั่นไม่ใช่ที่สำหรับพักผ่อน อรุณีดึงดันว่าไปแค่อาทิตย์เดียวทำไมต้องขัดขวาง ในที่สุดอรุณีก็ได้ตามไปโดยมีพินิจจำใจไปด้วย อิยะวดีอยากตามพนาไปแต่ยังงอนโกรธพนาเพราะเข้าใจผิดพนาโดยมีพวงมาลีเป็น สาเหตุ พนาก็งอนอิยะวดีเพราะเข้าใจว่าอิยะวดีไปติดใจส่างหม่องตามคำบอกเล่าของพวง มาลี ต่อมาอิยะวดีได้ฝันถึงเด็กหน้าตาเหมือนตัวเองคนเดิมหลายครั้ง ละเอเอาความฝันไปถามพ่อหมอ พ่อหมอบอกว่าตามคำล่ำลือโบราณมีเด็กหญิงที่มีบุญคนหนึ่งถูกจับใส่แพไปกับฝูง วานร เพื่อไปเสี่ยงบุญบารมีสร้างเมืองใหม่

อิยะวดีจึงอยากเห็นเมืองนั้นและทราบว่าพนากับครอบครัวไปที่ไหนสักแห่งใน ป่าโดยไม่บอกกล่าว อิยะวดีจึงเรียกพี่นกมาสอบถามและตามหาพนาให้ อิยะวดีปรึกษาพวงมาลีว่าจะเข้าป่าไปตามพนาและเมืองดังกล่าว พวงมาลีบอกให้แอบหนีไปไม่บอกใคร อิยะวดีจึงเชื่อ และแอบหนีไปกับพวงมาลีที่หวังจะหลอกฆ่า อิยะวดี โดยแอบบอกกับแสงแก้ว ส่วนส่างหม่องนั้นได้ลอบติดตามคณะของพนาไปเงียบๆ โดยมีสะมะแอกับแสนไทร่วมทางไปอย่างลับๆ ส่วนละเอเห็นอิยะวดีหายไปกับพวงมาลี ตกใจมาก ดำรงและบัวบานตกใจเช่นกัน สงสัยว่าจะตามพนาเข้าไปในป่าจึงพากันออกติดตามโดยมี แสงแก้วขอติดตามไปรับใช้ดูแลบัวบาน ละเอพยายามกีดกันบอกว่ามองเห็นอันตรายกำลังจะเกิด บัวบานกับดำรงดุว่าละเอเหลวไหล ในที่สุดกลุ่มของดำรงก็ตามเข้าป่าไปอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่แค่นั้น สุชาติซึ่งเลิกอาชีพละครสัตว์หันไปเป็นมายากล ได้ข่าวลือเรื่องทับทิมยักษ์ รีบพาพรรคพวกออกตามหาขุมทรัพย์นั่นทันทีบ้าง

การเดินทางของทั้งหมดที่ต่างเดินทางแยกย้ายกันไปพบอุปสรรคมากมายและโดน ลอบทำร้ายสารพัด โดยมีพวกพนาเดินล้ำหน้าไป นาตาลีกับแม่มาติดตามอิยะวดีไปด้วยเพราะเป็นห่วงอิยะวดี ทำให้พวงมาลีไม่ค่อยพอใจนักเพราะการทำร้ายอิยะวดีลำบากขึ้น ตลอดทางพวงมาลีเบื่อหน่ายมาก แต่อิยะวดีกลับสนุกสนานที่ได้พบปะพวกสัตว์เพื่อนเก่าทั้งหลายและสัตว์ใหม่ๆ อิยะวดีได้ช่วยเหลือสัตว์บาดเจ็บหลายตัวระหว่างทาง และโดนลอบทำร้ายโดยพวกส่างหม่องและแสงแก้ว แต่เสือที่เคยบาดเจ็บคอยช่วยเหลืออิยะวดีให้พ้นจากการลอบทำร้าย พวกส่างหม่อง พวงมาลีที่รู้จุดที่อยู่ของกันและกัน เมื่อข้ามเขตป่าลึกลับเข้ามา พี่นกไม่สามารถตามเข้ามาได้ยกเว้นแม่มากับนาตาเลีย อิยวะดีจึงติดตามพนาโดยตามสัญลักษณ์หัวใจคู่เช่นเดิม

ส่วนแสนไทนั้นได้พบกับอิยะวดีโดยบังเอิญตอนอิยะวดีโดนทำร้ายและหลงรักอิ ยะวดีทำให้ส่างหม่อง พวงมาลีและแสงแก้วไม่พอใจมาก ไปยุยงให้สะมะแอเกลียดชังอิยะวดี สะมะแอวางแผนจับอิยะวดีไปบูชายันต์เพราะถ้าพบสมบัติต้องล้างอาภรรพ์คำสาป ด้วยสาวพรหมจารีย์ สะมะแอจึงอนุญาตให้แสนไทไปใช้เวทย์มนต์เรียกอิยะวดีมาพบ แสนไทให้อิยะวดีกินผลไม้ลืมความจำก่อนส่งคืนแคมป์ที่พัก ส่วนพวกของพนาพบว่าหญิงสาวสวยเจ้าของเสียงเพลงดังกล่าวคือ มะเมี๊ยะ มะเมี๊ยะหลงทางออกมาจากคุ้มลึกลับในป่าของสะมะแอนั่นเอง มะเมี๊ยะถูกสะมะแอจับตัวไปตั้งแต่เล็กๆ แต่เลี้ยงดูแบบกักขังเอาไว้เหมือนนกในกรงทอง อรุณีดีใจมากพยายามหัดร้องเพลงและเรียนภาษาของมะเมี๊ยะ เมื่อทราบว่าทั้งหมดจะเดินทางไปสุสานอัญมณี เธอตกใจมากพยายามห้ามบอกว่าอันตรายที่สุด ไม่มีใครฟัง มะเมี๊ยะยังอยู่กับพวกพนาต่อไป ต่อมาพนาเกิดคิดถึงอิยะวดีจึงวาดหัวใจไว้ตามทางที่ผ่านไป ทำให้ทั้งพวกอิยะวดีและพวกดำรง ละเอ บัวบาน พวกส่างหม่องตามมาถูกทาง

ในที่สุด อิยะวดีก็ได้พบกับกลุ่มของพนาและได้พบว่าพนามีมะเมี๊ยะอยู่ด้วย อิยวะดีแอบไม่พอใจ พวงมาลีก็แอบยุยง บุราณได้พบอิยะวดีหลงรักอิยะวดี อิยะวดีทำดีตอบบุราณ พนาน้อยใจทำดีใส่มะเมี๊ยะ พวงมาลีดีใจมากที่ทำให้ทุกคนแตกกันได้ ขณะเดียวกันก็ลอบส่งข่าวให้ส่างหม่องทราบความเคลื่อนไหวของทางพนาดำรงกับบัวบานและละเอ แสงแก้วเดินทางมา แสงแก้วแอบติดต่อให้สะมะแอมาจับตัวดำรงกับบัวบานไปขังไว้เป็นทาส สองคนโดนจับตัวไปโดยมีแสงแก้วเหมือนโดนจับไปขังไว้ด้วย ส่วนละเอหนีรอดไปได้เที่ยวกระเซอะกระเซิงตามหาจนพบพวกอิยะวดี พวกพนา อรุณีตกใจมากที่ทราบว่าสามคนโดนจับตัวไป จึงตัดสินใจตามหาช่วยบัวบานกับดำรงก่อน ส่วนส่างหม่องนั้นทำหายตัวหนีหายไปตอนดำรงกับบัวบานโดนจับตัวและแอบสะกดรอย ตามกลุ่มของพนาไปเรื่อยๆ

ส่วนพวกของสุชาตินั้นตามเข้ามาในป่าโดนสะมะแอและแสนไทจับไปเป็นทาสขังไว้ ที่เดียวกับดำรงและบัวบาน ทั้งหมดโดนจับกินผลไม้ลืมความหลัง จึงจำตัวเองไม่ได้ และยอมเป็นทาสรับใช้ของทั้งสองโดยดี ส่วนละเอในที่สุดก็ใช้วิธีส่งเสียงเรียกอิยะวดีจนได้พบกัน และมาร่วมกลุ่มกับพวกพนา และเป็นคนสื่อสารภาษากับมะเมี๊ยะ ระหว่างการเดินทางอิยะวดีมักฝันเห็นเด็กน้อยนั่งแพกับฝูงวานร และเด็กน้อยคนนั้นหน้าตาเหมือนอิยะวดีตอนเด็ก แถมยังใส่สร้อยทับทิมเส้นที่คนแก่ที่ถูกเสือกัดตายมอบให้ อิยะวดีเล่าเรื่องนี้ให้บุราณฟัง บุราณบอกอิยะวดีให้จดจำสถานที่ที่ในฝันเอาไว้ให้ดีและเล่าให้บุราณฟัง พนายิ่งหมั่นไส้และระหองแระแหงกับอิยะวดีเพิ่มขึ้น อรุณีต้องปวดหัวเพราะต้องคอยสมานฉันท์ให้ทุกคนไม่ทะเลาะกัน อิยะวดียังแอบใช้นิสัยเด็กๆ แกล้งมะเมี๊ยะ เช่นจับงูจับสัตว์น่าเกลียดมาแกล้ง โดยมีแม่มากับนาตาลีร่วมมือ

ต่อมาอิยะวดีฝันเป็นตุเป็นตะมากขึ้นถึงสุสานอัญมณีที่อยู่ในถ้ำเต็มไป ด้วยอัญมณีมีค่ามากมายอยู่ในโครงกระดูกคนตาย บุราณได้ฟังตื่นเต้นมาก เพราะนั่นคือสิ่งที่บุราณเคยได้ยินมาเช่นกัน ทั้งหมดนอกจากจะตามหาดำรงบัวบานแล้วยังออกตามหาสุสานดังกล่าวนี้เพราะคิดว่า นี่คือที่มาของสร้อยทับทิม และสร้อยมรกตที่จะนำไปคืนนั่นเอง บุราณเริ่มเห็นใจและสงสารมะเมี๊ยะมากขึ้น เตือนอิยะวดีอย่าไปแกล้งมะเมี๊ยะ ยิ่งโดนแกล้งมะเมี๊ยะยิ่งติดพนาแจมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งมะเมี๊ยะแอบเห็นพนากับอิยะวดีทะเลาะกันเรื่อง บุราณกับมะเมี๊ยะเอง จึงเสียใจร้องไห้รู้ว่าที่แท้สองคนชอบกัน บุราณมาปลอบมะเมี๊ยะทั้งสองจึงเห็นใจกัน

พวงมาลีแอบส่งข่าวเรื่องนี้ให้ส่างหม่องรู้ ส่างหม่องดีใจมาก ไม่ยอมบอกให้แสนไทกับสะมะแอรู้ แต่สะมะแอกับแสนไทก็ยังลอบติดตามคณะของพนาไปเรื่อยๆ เช่นกัน ในที่สุด ทุกคนก็ตามความฝันของอิยะวดีมาจนพบลำธารในฝันที่อิยะวดีฝันเห็นตัวเองวัย เด็กโดนจับใส่แพกับฝูงวานรมีสร้อยทับทิมประดับ ทุกคนจึงตัดสินใจพากันล่องแพไปตามลำธารที่ อิยะวดีพบโดยหวังว่าจะไปพบสุสานอัญมณีดังกล่าว ใช่แค่พวกพนาและอิยะวดีเท่านั้นที่เดินทางล่องแพไปตามทางในฝัน พวกส่างหม่อง สะมะแอและแสนไทก็ร่วมเดินทางไปด้วย แพเจอน้ำวนหมุนหายลงไปใต้น้ำและมาโผล่ที่ปากถ้ำแห่งหนึ่ง และในที่สุดทุกคนก็ถึงถ้ำสุสานอัญมณี

ทุกคนต้องตกตะลึง กับสิ่งที่พบเห็น ในถ้ำเต็มไปด้วยโครงกระดูกที่ล้วนใส่อัญมณีนานาชนิดสวยงามละลานตา ส่งประกายวูบวาบทำให้ถ้ำสว่างไสวโดยธรรมชาติ ทั้งหมดตั้งสติได้แล้วจึงตามโครงกระดูกที่ไม่มีเครื่องประดับ พบอยู่หนึ่งโครงเข้าใจว่าน่าจะเป็นเจ้าของสร้อยทับทิมเส้นนั้นและอยู่ในแท่น สวยงามกว่าใครๆ ทุกคนจึงลงความเห็นว่าให้อิยะวดีเป็นคนเอาสร้อยทับทิมใส่คืนให้เจ้าของ โครงกระดูกนั้นด้วยตัวเอง ขณะอิยะวดีกำลังใส่สร้อยนั้น พวกสะมะแอ แสนไท ส่างหม่อง ที่กลายร่างเป็นคนตาเดียวมือขอ ส่วนพวงมาลีก็กลายร่างเป็นนางปีศาจปรากฎตัวขึ้น ใช้เวทมนต์ควบคุมตัวทุกคนไว้ และจะเอา อิยะวดีบูชายันต์เพื่อล้างอาถรรพ์คำสาป พนา บุราณพยายามหาทางช่วยเหลืออิยะวดีที่กำลังจะโดนบูชายันตร์

ขณะที่มัดอิยะวดีและจะจุดไฟนั่นเองก็ปรากฏเหตุอัศจรรย์ มีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า น้ำป่าท่วมทะลักมาในถ้ำ ทุกคนเห็นภาพหนึ่งเหมือนกันคือนางพญาแสนสวยพร้อมบริวารในชุดออกขอม ตัวนางพญาใส่สร้อยทับทิมตาลุกโพลงด้วยความโกรธชี้หน้ามาที่ทุกคนหัวเราะเย้ย หยันส่งภาษาที่ไม่มีใครรู้จัก ที่สำคัญนางพญาคนนั้นหน้าตาเหมือนอิยะวดีราวกับคนเดียวกัน ทุกคนตะลึง น้ำไหลบ่าเข้ามา หินพังทลายมาปิดทางออกของถ้ำ

พนาตะโกนให้อุรณีกับพ่อปีนไปส่วนสูงของถ้ำ ทุกคนพยายามปีนไป พนาจะไปช่วย อิยะวดีก็ห่วงแม่ พวงมาลีหายไปไม่มีใครเห็น พนาไปช่วยแม่เพราะพลัดตกลงมาจากก้อนหินที่ปีนขึ้นไป นางพญาชี้มือมาที่อิยะวดี อิยวะดีหลุดจากไม้ที่ตรึงไว้ ทุกคนหนีน้ำไปอยู่บนโขดหินแต่น้ำก็ท่วมสูงมาเรื่อยๆ ทุกคนหาทางหนี พวกของสะมะแอ แสนไท ส่างหม่อง พวงมาลีหายไปหมดแล้ว ยกเว้น มะเมี๊ยะที่พยายามขอร้องให้สะมะแอกับแสนไทช่วยแต่สองคนโกรธจึงไม่ช่วยแถมด่า ว่าที่หนีออกมาและไปเข้าพวกกับศัตรู ทุกคนหาทางออกไม่ได้ บุราณตัดสินใจเสี่ยงชีวิตช่วยมะเมี๊ยะเอาไว้ได้ นางพญาทรายคำชี้ไปที่เหนือเพดานถ้ำ ทุกคนเห็นแสงสว่างด้านบนจึงพากันไต่ขึ้นไปแล้วหนีรอดมาได้

เมื่อหนีรอดพ้นมาได้อย่างหวุดหวิด ทุกคนต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่พบเห็นและแปลกใจที่ อิยะวดีหน้าเหมือนนางพญาดังกล่าว แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดมากนักเพราะอิยะวดีต้องการตามหาพ่อแม่ที่หายไป มะเมี๊ยะบอกละเอว่าแสนไทคือคู่หมั้นและสะมะแอคือพ่อเลี้ยงของเธอ และเมื่อมาถึงตรงนั้นเธอพอจำทางกลับบ้านได้แล้ว มะเมี๊ยะจึงพาทุกคนลอบไปที่คุ้มลึกลับกลางป่าของสะมะแอกับแสนไท ที่นั่นพบว่าพวกแสนไทกับสะมะแอต่างบาดเจ็บกลับไป และพบว่าดำรงกับบัวบานโดนขังอยู่ที่นั่น ทุกคนจึงพยายามหาทางลอบช่วยเหลือดำรงกับบัวบานด้วยการหลบไปอยู่ในถ้ำแห่ง หนึ่ง และหาโอกาสลอบชิงตัวบัวบานกับดำรงคืนมา

ในการลอบไปสังเกตการณ์ทำให้พนา อิยะวดี และบุราณทราบว่าที่แท้ ส่างหม่องคือ คำรณ พวงมาลีคือเอมฤดี และนาถยาก็คือแสงแก้วนั่นเอง มะเมี๊ยะบอกว่าการเข้าไปช่วยบัวบานกับดำรงลำบากมาก เพราะแสนไทกับสะมะแอมีเวทมนต์และมีค่ายกลมากมาย ทางเดียวคือต้องเผาทิ้งทั้งคุ้ม แต่ก็ไม่คุ้มเพราะบัวบานกับดำรงจะโดนเผาไปด้วย ในที่สุดอิยะวดีตัดสินใจช่วยแม่และพ่อด้วยการเอาตัวเข้าไปให้โดนจับเพื่อ ช่วยพ่อแม่ สะมะแอและทุกคนจึงจับอิยะวดีไว้ และพยายามจะบูชายันต์อิยะวดีอีกเพราะคิดว่าถึงน้ำจะท่วม ปากถ้ำจะโดนปิด สมบัติก็ยังอยู่ ถึงแสนไทยังรักอิยะวดีแต่ก็ติดขัดที่ต้องการสมบัติ แต่อิยะวดีก็ใช้อุบายหลอกล่อ แกล้งย้อนร้อยเอายาลืมความทรงจำให้แสนไทกิน ทำให้แสนไทกลายเป็นทำตามคำสั่งอิยะวดีและปล่อยตัวบัวบานกับดำรง มะเมี๊ยะโดนจับได้ว่าทรยศจะโดนสองพ่อลูกฆ่าทิ้งเพราะโกรธแค้นมาก แต่บุราณก็ช่วยเอาไว้ได้อีก ทำให้สองคนต่างซาบซึ้งในน้ำใจกันและกัน

บัวบานกับดำรงกลับไม่ยอมมาเพราะโดนให้กินยาลืมความจำจะเป็นทาสรับใช้สะมะ แอต่อไปแถมโวยวายว่าอิยะวดีเป็นคนร้าย ทำให้พวกสะมะแอ ส่างหม่อง พวงมาลีและแสงแก้วออกมาจะเล่นงานอิยะวดี อิยะวดีสั่งให้แสนไทเล่นงานพวกกันเอง แสนไทจึงเล่นงานพวงมาลีกับแสงแก้ว ส่วนส่างหม่องจะมาจับตัว อิยะวดี มะเมี๊ยะกับพวกพนาตามมา ละเอพยายามเรียกให้ดำรงกับบัวบานรู้ตัว แสนไททำตามคำสั่งอิยะวดีเผาคุ้มตัวเอง คุ้มไหม้วอดวาย สะมะแอโกรธมาก แสนไทหัวเราะชอบใจว่าทำตามอิยะวดีสั่งแล้ว ส่วนพวกส่างหม่อง แสงแก้ว และพวงมาลีตายคากองไฟ บุราณโดนอาวุธของแสนไทพุ่งมาใส่ มะเมี๊ยะเอาตัวเข้ารับไว้แทน อาการสาหัส แต่ก็กินยาสมุนไพรรักษาตัวหายได้ในภายหลัง มะเมี๊ยะทำเหมือนไม่มีความสามารถ อ่อนแอ แต่ความจริงแอบมีวิชาอาคม ตอนหลังแอบมาสอนอิยะวดี ทำให้ อิยะวดีมีวิชาแปลกๆ ขึ้นมาด้วยเช่น วิธีทำอาวุธลับเป็นลูกไฟเล็กๆ โยนใส่ศัตรู ใครโดนเข้าจะปวดแสบปวดร้อนจนทนไม่ได้

ในที่สุดมนต์ของสะมะแอก็เสื่อมไป พวกสุชาติที่โดนขังอยู่รู้สึกตัว พรานเส็งกับลีกอไปช่วยพาหนีรอดพ้นไฟครอกมาได้ ที่นั่นทุกคนได้พบไม้จำนวนมากมายที่สะมะแอนั่นเองลอบตัดแล้วส่งไปขายประเทศ ใกล้เคียง จนร่ำรวย กลับเข้าเมืองแล้ว พนากับอิยะวดีต่างเข้าใจกัน อรุณีกับพินิจขอหมั้นอิยะวดีกับดำรงและบัวบานท่ามกลางความยินดี อรุณีรับมะเมี๊ยะเป็นลูกสาวบุญธรรม และส่งไปเรียนภาษาและหนังสือกับครูหอมนวล ส่วนบุราณเขียนวิทยานิพนธ์เรื่องขุมทรัพย์นางพญาทรายคำโดยมีมะเมี๊ยะเป็นคน บอกเล่าเรื่องราวเท่าที่รู้ ทั้งสองกลายเป็นคนรู้ใจกัน

อิยวะดีกับพนายังคงพิทักษ์ป่า ดูแลสัตว์ ปลูกป่า ทางราชการเข้าใจพนาดีแล้ว พนากับ อิยะวดีได้พาทางการไปริบไม้ที่สะมะแอลอบตัด พนากับอิยวะดีมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งใดที่ไม่ใช่ของเรา ไม่ควรอยากได้มาเป็นเจ้าของ อิยวะดีฝันถึงเด็กนั่งแพกับฝูงวานรที่กลายเป็นเจ้านางพญาคนสวยที่หน้าเหมือน ตัวเองบอกขอบใจอิยะวดีที่นำสมบัติมาคืน และบอกว่าเธอคือเจ้าหญิงทรายคำ หลานสาวของนางพญาดาราเทวี ที่โดนเจ้ากุนริกนา จับตัวมาตอนปล้นสมบัติและขังไว้ ที่สุสานแห่งนั้นจนระเบิดนั่นเอง พนากับอิยะวดี ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน อาศัยอยู่บ้านบนดอย สัญญาต่อหน้าขุนเขาว่าจะช่วยพลิกฟื้นผืนป่า ดูแลรักษา ปกป้องธรรมชาติและทุกชีวิตที่นั่นไม่ให้ถูกรุกรานตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ มีมะเมี๊ยะกับบุราณสัญญาว่าจะมาอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยกันอีกสองแรงด้วย ทั้งสี่พากันเดินตรวจตราป่าไม้และดูแลสัตว์ในป่าโดยมีแม่มากับนาตาเลียร่วม ทางไปด้วยทุกหนทุกแห่ง

ร้านค้าออนไลน์ http://www.digitallife-shop.com/ http://www.albaniagirls.net/ http://www.belizegirl.co.cc/ http://www.asktarot.co.cc/