เรียนไพ่ยิปซี 20 ชั่วโมง 3,900 บาท ทายได้แน่นอน
สามารถเรียนได้ทางโทรศัพท์ อยู่ที่ไหน ก็เรียนได้
พยากรณ์ไพ่ยิปซี ทางโทรศัพท์ ครั้งละ 1000 บาท
ผู้ที่ต้องการรับคำพยากรณ์ทางโทรศัพท์ ให้ทำดังนี้
1.โอนเงินค่าพยากรณ์ จำนวน 1000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน )เข้าบัญชี เลขที่ 221-0-86355-7 ชื่อ นายเอกณัฐยศ พานิชย์ไพศาลกูล
2.แจ้ง วัน เดือน ปีเกิด และปัญหาที่ต้องการรู้เป็นข้อๆ ให้ชัดเจน
3.นัดวัน ฟังคำพยากรณ์ ( นัดล่วงหน้า 3 วัน )
รับทำพิธีเพื่อช่วยให้ ขายบ้าน/ขายที่ดินได้ผลเร็วขึ้น
ตั้งศาล เจ้าที่,ศาลพระภูมิ,ศาลพระพรหม
ปรับฮวงจุ้ยบ้าน และร้านค้า กับ อ.เอกณัฐยศ
บริการทั่วประเทศ สอบถามที่ 089 - 745 - 8432 หรือที่ akenutyos @ yahoo.co.th
โอนเงินเข้า บัญชีสะสมทรัพย์ นายเอกณัฐยศ พานิชย์ไพศาลกูล
ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางใหญ่-นนทบุรี เลขที่ 221- 0- 86355-7
*************************************************
พระภูมิเจ้าที่ ความเชื่อ ความศรัทธา ความรู้สึก
คนไทยมีความเชื่อว่า "พระภูมิ" หรือ "ภูมิเทวดา" มีหน้าที่รักษาอาณาเขตที่ดินที่เจ้าของได้อัญเชิญมาสิงสถิตบนศาลพระภูมิ เพื่อปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวารให้อยู่เย็นเป็นสุขมีความเจริญรุ่งเรือง
ตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์รูปผู้ชายในชุดไทยทั้งสีฟ้า แดง เหลือง นั่งเรียงรายทางหน้าประตูเรือนไทยใกล้กับตุ๊กตาคู่ละครรำทั้งใหม่เก่าหลายคู่ที่ยืนกระจัดกระจายอยู่
เมื่อมองเข้าไปภายในเรือนไม้ แผ่นไม้รูปดอกบัวปักบนฐานปรากฎภาพวาดเทวดา ในหัตถ์ซ้ายถือถุงเงินหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ ภาพศาลพระภูมิที่เราพบเห็นอยู่ทุกวี่ทุกวันมีหลายแบบหลากสีสัน ทั้งรูปทรงเรือนไทย ปราสาท มณฑป โบสถ์ วิหาร ปรางค์ ซึ่งจำลองจากสถาปัตยกรรมของจริง ย่อส่วนมาตั้งไว้บนเสาเดี่ยวอาจทอนรายละเอียดบางส่วนไปบ้าง แต่ยังคงลัษณะเด่นให้เห็นชัด
ศาลพระภูมิบางหลังอาจมีการตกแต่งในส่วนรายละเอียดมากกว่าสถาปัตยกรรมจริง ไม่ว่าจะเป็นการนำกระจกสีมาประดับ การลงสี การแกะสลักลวดลายบนไม้ หรือลายปูนปั้น เพื่อเพิ่มความแวววาวและสีสันบนตัวศาล คนไทยมีความเชื่อว่า "พระภูมิ" หรือ "ภูมิเทวดา" ที่มีหน้าที่รักษาอาณาเขตที่ดินที่เจ้าของได้อัญเชิญมาสิงสถิตบนศาลที่ได้จัดสร้างไว้
ภูมิเทวดาองค์ใดจะอยู่ประจำ ณ ที่แห่งใด เจ้ากรุงพลีผู้เป็นใหญ่ในชั้นจตุโลกบาลจะเป็นผู้กำหนดให้ เราอาจสงสัยว่า "พระภูมิ" คือใคร? มีตำนานเล่าถึงพระภูมิว่า ในอดีตมีกษัตริย์พระนามว่าท้าวทศราชครองกรุงพลี มีพระโอรส ๙ พระองค์ ล้วนแต่ปรีชาสามารถ ท้าวทศราชได้ส่งพระโอรสไปรักษาถิ่นต่าง ๆ เป็นต้นว่าเคหสถาน ทวารเมือง ป้อมค่าย บันได คอกสัตว์ ยุ้งฉางข้าว เรือนหอบ่าวสาว ไร่นา ป่าเขา ปูชนียสถาน ห้วยหนอง คลอง บึง แม่น้ำ
ส่วนโอรสหรือพระภูมิเจ้าที่ที่อยู่ประจำเคหสถานมีนามว่า "พระชัยมงคล" พระภูมิมีคนรับใช้อีก ๓ คน เป็นชาย คือ นายจันทิศ นายจันถี และจ่าสพพระเชิงเรือน คอยรับใช้อยู่หน้าศาล
ส่วนทางชาดกในพระพุทธศาสนาได้เล่าเกี่ยวกับพระภูมิว่า ในสมัยครั้งพระพุทธเจ้าทรงเป็นพระโพธิสัตว์ได้ทรงบำเพ็๋ญฌาณอยู่ใต้ต้นไทรปรากฎว่าพระภูมินามว่า พระเจ้ากรุงพลีไม่พอใจได้แสดงอภินิหารขับไล่พระโพธิสัตว์พระพุทธองค์ทรงทราบด้วยญาณถึงเรื่องภายหน้า จึงทรงขอพื้นที่ดินจากพระเจ้ากรุงพลีเพียง ๓ ก้าว เพื่อบำเพ็ญฌาณต่อไป พระเจ้ากรุงพลีเห็นว่าเป็นที่ดินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจึงอนุญาต แต่พระโพธิสัตว์ทรงมีบุญญาภินิหาร
ดังนั้นเมื่อทรงย่างก้าวเพียง ๒ ก้าวก็พ้นเขตพื้นแผ่นดินของพระเจ้ากรุงพลี พระเจ้ากรุงพลีจึงไม่มีที่ดินอยู่ ต้องออกไปอยู่นอกป่าหิมพานต์ไม่สุขสบายเช่นที่อาศัยของตน จึงกลับมาทูลขอพื้นที่ดินจากพระโพธิสัตว์ พระพุทธองค์ทรงรู้แจ้งด้วยญาณว่าพระเจ้ากรุงพลีจะทำหน้าที่เป็นพระภูมิที่ดีคอยคุ้มครองมนุษย์และสัตว์โลกทั่วไปในภายภาคหน้า จึงทรงคืนที่ดินให้กับพระเจ้ากรุงพลี และทรงขอให้ตั้งมั่นอยู่ในความสุจริต ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกต่อไป ตามความเชื่อในพระพุทธศาสนาหรือทางพระนั้น พระภูมิเป็น "โอปปาติกะ" คือ เป็นผู้ที่เกิดผุดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ อาศัยอดีตกรรมได้แก่ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต และอสุรกาย ในพระพุทธศาสนาจึงยอมรับการมีของเทวดาเพราะเทวดาก็เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นโดยเงื่อนไขของธรรมชาติ
สำหรับคนไทยในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งเร้นลับ และไสยศาสตร์ คงเป็นสิ่งที่ผูกพันในชีวิตเราแทบทุกคน ศาลพระภูมิเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวอันแสดงถึงความเชื่อและความศรัทธาที่คนไทยมีต่อสิ่งนี้
ฉะนั้นในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับสิ่งนี้จึงต้องมีการกระทำกันอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย การเซ่นสังเวยและการตั้งศาลพระภูมิ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาแต่โบราณ โดยจะกระทำเมื่อปลูกบ้านใหม่หรือย้ายที่อยู่ เพราะเชื่อว่าขั้นตอนการตั้งศาลจะเป็นการขับไล่สิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้ออกไปจากบ้าน แล้วจึงอัญเชิญพระภูมิมาสิงสถิตเพื่อปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวารให้อยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภ
และถือว่าพระภูมิเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งของบ้าน พิธีการตั้งศาลนั้น โดยทั่วไปเจ้าของบ้านจะปรึกษาผู้รู้หรือพราหมณ์ผู้ประกอบพิธี มาประกอบพิธีให้ เริ่มจากการตรวจดูฤกษ์ยาม ซึ่งเข้ากับวันเดือนปีเกิดของเจ้าของบ้าน เพื่อให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น