วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔

aketarot-เรื่องย่อ เจ้าหญิงหลงยุค



aketarot-
เรื่องย่อ เจ้าหญิงหลงยุค

ณ เมืองมรกต เจ้าหญิงแสนสวยผู้มีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ต้องการหลบหนีการแต่งงานโดยการไปขอพรกับดอกไม้วิเศษ ให้หายไปจากโลกของเธอ โชคชะตาเล่นตลกให้เธอมาอยู่ในโลกปัจจุบันที่มีแต่ความเจริญทางวัตถุ ที่แตกต่างไปจากที่เธออยู่ เจ้าหญิงจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้หรือไม่ และเธอจะสามารถหาทางกลับไปสู่เมืองมรกตได้หรือไม่ ติดตามกันได้เลยใน aketarot-เรื่องย่อ เจ้าหญิงหลงยุค

เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ธิดาของเจ้าอ้ายคำตันเจ้าผู้ครอง เมืองมรกต ซึ่งมีรูปโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทุกแคว้น เจ้าหญิงมีนิสัยที่เอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง จองหอง จนเป็นที่เอือมระอาของข้าราชบริพาน เว้นเพียง รามเทพราชองครักษ์ ผู้ซื่อสัตย์ เจ้าหญิงไม่ค่อยพอใจรามเทพ แม้ว่าเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรจะกลั่นแกล้งรามเทพอย่างไร? เค้าก็ยังคงทำทุกอย่างได้ตามที่เจ้าหญิงต้องการ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรจึงไม่สามารถหาเรื่องลงโทษรามเทพได้เลย แต่ในใจลึก ๆ เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรก็แอบมีใจให้รามเทพอยู่ไม่น้อย

ต่อมา เจ้าอ้ายคำตัน ตัดสินใจจะยกเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ให้อภิเษกกับเจ้าชายตืนสางโอรสแคว้นข้างเคียง เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี เรื่องนี้สร้างความขุ่นข้องหมองใจ ให้แก่เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรเป็นอย่างมาก และหาทางที่จะไม่อภิเษกสมรส ร้อนถึงองครักษ์คนสนิท รามเทพ ที่หาทางเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่สำเร็จ กลับทำให้เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรน้อยใจ จนอยากจะหนีไปให้พ้น

คืนหนึ่ง รามเทพ กลับมากลุ้มใจเกี่ยวกับเรื่อง เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร เพียงลำพัง จู่ ๆ เทวดาก็มาปรากฏกายต่อหน้าเขา และได้มอบดอกมะลิสีชมพูให้ และบอกว่าเป็นดอกไม้วิเศษ เพียงแค่อธิษฐาน ทุกสิ่งจะสมปรารถนา รามเทพจึงนำมาถวายให้กับเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร เพื่อหวังว่าจะให้สบายพระทัย เจ้าหญิงอธิษฐานกับดอกมะลิสีชมพู ขอให้หายไปจากโลกนี้ จะได้ไม่ต้องอภิเษกสมรสกับเจ้าชายตืนสาง แล้วเจ้าหญิงก็หายตัวไป...ตามคำอธิษฐาน เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ปรากฏตัวอีกครั้งในยุคปัจจุบัน กลางคณะลิเกโชคกวีศิลป์ ที่กำลังทำการแสดง


โดยมีพระเอกลิเกดาวรุ่งหน้าหวาน ขวัญใจแม่ยก มงคล โชคกวีศิลป์ นำแสดงอยู่ ขณะที่มงคลกำลังวาดลวดลาย สร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก ด้าน พ่อโชค เจ้าของคณะ และลูกสาว บานชื่น ที่กำลังลุ้นว่า เมย์ หรือ มาลี โชคกวีศิลป์ นางเอกลิเกซุปตาร์ ขาวีน จะมาทันหรือมั้ย เพราะมัวแต่ไปซื้อของในตลาดจนไม่สนใจการแสดง ก็ต้องหันมาสนใจเสียงฮือฮาของผู้ชมที่นึกว่าเป็นนางเอกใหม่ เมื่อเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร มองไปทั่วเห็นคนแปลกตา จึงเกิดโวยวายขึ้น

เมื่อเจ้าหญิงเห็น ราม ที่มีใบหน้าตาคล้าย รามเทพ(องครักษ์คนสนิท) ลูกชาย คุณหญิงพัชรี ที่ว่าจ้างลิเกคณะนี้มาเล่น ก็พุ่งเข้าไปหา ขอความช่วยเหลือ กลับถูก ราม ปฏิเสธ และหาว่าเธอบ้า ราม ขับรถชน เจ้าหญิงกรรณิกาแกสร พวกที่คณะลิเกนำตัวเธอไปดูแล เมื่อเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรฟื้นขึ้น ก็เพ้อจะกลับเมืองมรกต จนทุกคนคิดว่าเธอบ้าจริง ๆ รามเป็นห่วงตามมาดู เห็นอาการเธอเลยคิดรับผิดชอบ บานชื่นเข้ามาปลอบโยน เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ทำให้เธอคิดได้ ว่าตอนนี้ถ้ายังกลับเมืองมรกตไม่ได้ ก็จะอยู่ที่นี้เป็นลิเกให้มีความสุข


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของ สุธี นักโบราณคดี ที่มีใบหน้าคล้ายเจ้าชายตืนสาง สุธี สนใจเรื่องราวของเจ้าหญิงกรรณิกาเกสรและเมืองมรกตมาก จึงมาหาและบอกกับเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ว่าจะหาทางช่วยให้เธอกลับไปให้ได้ ที่คณะลิเกเรียก เจ้าหญิงกรรณิกาเกสร ใหม่ว่า กรรณิการ์ ทุกคนรักและเอ็นดูเธอมาก เว้นแต่เมย์ที่ไม่ชอบหน้า กรรณิการ์เท่าไรนักจึงหาทางแกล้งต่าง ๆ เพราะกลัวจะถูกแย่งตำแหน่งนางเอกไป รามซึ่งกำลังหาพรีเซนเตอร์สินค้าคนใหม่ ที่ต้องสวยแบบไทย ๆ คุณหญิงพัชรีจึงแนะนำให้เลือก กรรณิการ์ แรก ๆ ราม ปฏิเสธ เพราะไม่ชอบเธอ แต่ท้ายที่สุดเค้าก็ต้องเลือกเพราะไม่มีใครเหมาะสมเท่า กรรณิการ์ อีกแล้ว

คุณหญิงพัชรีไปขอรับตัว กรรณิการ์ มาดูแลจากบ้านพ่อโชค ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านคุณหญิงพัชรี รามและกรรณิการ์ต้องร่วมงานและใกล้ชิดกันมาก จนเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กันขึ้นเรื่อย ๆ แบบไม่รู้ตัว สร้างความไม่พอใจให้กับ ชลดา นางแบบสาวที่แอบชอบราม จึงคิดวางแผนร้ายเพื่อแยกรามออกจากกรรณิการ์ โดยมีสุธีร่วมมือด้วย

ด้านเมืองมรกต เจ้าอ้ายคำตัน ก็ทรงร้อนพระทัยที่เจ้าหญิงกรรณิกาเกสรหายไป ซึ่งไม่อะไรต่างกับ รามเทพ ที่หาทางตามหาเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร โดยอธิษฐานกับเทวดาขอทะลุมิติมาตามหาเจ้าหญิงกรรณิกาเกสร โดยมีเจ้าชายตืนสางตามมาด้วย แล้วบทลงท้ายจะเป็นอย่างไร รามเทพจะตามหาเจ้าหญิงพบและพากันกลับเมืองมรกตสำเร็จหรือไม่ บทสรุปสุดท้ายความรักของเจ้าหญิงจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันเองใน ละครเจ้าหญิงหลงยุค

ไม่มีความคิดเห็น: