ไพ่ยิปซีเพื่อนคู่ชีวิต 5
เรียนไพ่ยิปซี 20 ชั่วโมง 3,900 บาท ทายได้แน่นอน
เรียนไพ่ยิปซี 20 ชั่วโมง 3,900 บาท ทายได้แน่นอน
สามารถเรียนได้ทางโทรศัพท์ อยู่ที่ไหน ก็เรียนได้
พยากรณ์ไพ่ยิปซี ทางโทรศัพท์ ครั้งละ 1000 บาท
ผู้ที่ต้องการรับคำพยากรณ์ทางโทรศัพท์ ให้ทำดังนี้
1.โอนเงินค่าพยากรณ์ จำนวน 1000 บาท (หนึ่งพันบาทถ้วน )เข้าบัญชี เลขที่ 221-0-86355-7 ชื่อ นายเอกณัฐยศ พานิชย์ไพศาลกูล
2.แจ้ง วัน เดือน ปีเกิด และปัญหาที่ต้องการรู้เป็นข้อๆ ให้ชัดเจน
3.นัดวัน ฟังคำพยากรณ์ ( นัดล่วงหน้า 3 วัน )
รับทำพิธีเพื่อช่วยให้ ขายบ้าน/ขายที่ดินได้ผลเร็วขึ้นตั้งศาล เจ้าที่,ศาลพระภูมิ,ศาลพระพรหมปรับฮวงจุ้ยบ้าน และร้านค้า
กับ อ.เอกณัฐยศ บริการทั่วประเทศ
สอบถามที่ 089 - 745 - 8432 หรือที่ akenutyos @ yahoo.co.th
โอนเงินเข้า บัญชีสะสมทรัพย์ นายเอกณัฐยศ พานิชย์ไพศาลกูลธนาคารกรุงเทพ สาขาบางใหญ่-นนทบุรี เลขที่ 221- 0- 86355-7
********************************************************************
ข้อความนี้ได้ลงในหนังสือ พุทธามหาเวท ฉบับที่ 22 มกราคม 2550
สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน เรามาพบกันอีกแล้วในไพ่ยิปซีเพื่อนคู่ชีวิต คงจะไปซักซ้อมและจดจำไพ่ยิปซีกันได้ไม่มากก็น้อย
และช่วงนี้เรามาเรียนรู้ประสบการณ์แปลก ๆ กันดีกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วของลูกศิษย์คนหนึ่ง
ซึ่งมาเล่าให้ฟังว่าจะไปทำบุญทอดกฐินที่ต่างจังหวัด ก็ได้บอกลูกศิษย์ว่า
ก่อนจะเดินทางไปต่างจังหวัด ให้อาราธนาพระพุทธรูปที่บ้านไปด้วย และขอให้คุ้มครองให้การเดินทางปลอดภัย และเธอก็ได้ทำตาม แต่ก็มีบางองค์ที่ไม่ได้อาราธนาไปก็คือเจ้าแม่กวนอิมเนื้อกังไส
เธอได้เล่าว่า ปกติทางครอบครัวของดิฉันซึ่งมีคุณพ่อ คุณแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ จะไปทอดกฐินที่วัดตามต่างจังหวัดเป็นประจำ
และในปีนี้ การเดินทางไปทอดกฐินในครั้งนี้มีกำหนด 3 วัน
แต่ครั้งนี้อาจารย์ของดิฉันก็ได้บอกว่า ให้อาราธนาพระพุทธรูปที่บ้านไปด้วย
ดิฉันก็สงสัยว่าจะไปทำบุญอยู่แล้วทำไมต้องอาราธนาพระพุทธรูปไปด้วย แต่ก็ทำตามคำที่
อาจารย์แนะนำ ด้วยความเป็นห่วงบ้าน ก็เลยไม่ได้อัญเชิญพระโพธิสัตย์ เจ้าแม่กวนอิมไปด้วย
โดยวันแรกที่เดินทางกันไปจุดแรกที่จะไปก็คือ วัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่วัดท่าซุง
จ.อุทัยธานี เนื่องจากการเดินทางออกสายไปนิดหนึ่ง ครอบครัวของเรา คือ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย 2 คนและตัวดิฉัน ทั้งหมดรวม 5 คน จึงต้องรีบทำเวลาและใช้ความเร็วในการขับรถยนต์ให้มากขึ้น
ในระหว่างที่เดินทางมาได้ไกลพอสมควร คุณแม่ก็กำลังสวดมนต์ตามปกติ
และตัวดิฉันก็กำลังเคลิม ๆ จะหลับอยู่แล้ว
ขณะนั้นเองพี่ชายที่เป็นคนขับก็ใช้ความเร็วเพิ่มมากขึ้น แซงรถที่อยู่ข้างหน้า เมื่อพ้นแล้วก็หักพวงมาลัยเข้าข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว และในขณะนั้น.....
ดิฉันก็ตกใจตื่นเพราะรู้สึกเหมือนว่ารถถูกชน มันสั่นไปหมดทั้งคัน
แต่รถยนต์ ก็ยังคงขับต่อไปได้จนถึง แพรถยนต์ที่จะข้ามไป วัดท่าซุง
จึงได้รู้ว่าพี่ชายนัดกับเพื่อน ๆ ไว้หลายคน
เมื่อถึงวัดท่าซุงเราก็ได้ทำบุญกฐินจนเสร็จ และมีกำหนดจะไปทำบุญที่อื่นอีก
ก็สังเกตเห็นน้ำไหลอยู่ใต้ท้องรถยนต์ เหมือนกับว่าหม้อน้ำรถยนต์รั่ว
ก็คิดอยู่ว่าสงสัยจะไปไหนไม่ได้ซะแล้ว เพราะรถเสียแน่ ๆ เลย แต่ว่ามันเป็นเรื่องแปลกมาก ๆ เลยที่
รถยนต์คันที่นั่งสามารถแล่นต่อไปได้อีกหลายจังหวัดตามกำหนดการเดินทางเดิม
จนกระทั่งตอนเย็น ขบวนของเราก็มาถึงบ้านพักรีสอร์ท ที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
กว่าจะทานข้าวกันเสร็จ และเข้าบ้านพัก ก็เป็นเวลาค่อนข้างมืด ยังจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี.....
ภายในบ้านพักที่ตกแต่งไว้ด้วยไม้สักสวยงามวิจิตรบรรจงมาก ตามสไตล์บ้านทรงไทย
แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่เราทั้ง 5 คน เข้าไปในบ้าน มี
เพียงคุณแม่และตัวดิฉันเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้กลิ่นดอกไม้หอมอบอวลไปทั้งบ้าน
ทั้ง ๆ ที่ภายในบ้านและบริเวณใกล้เคียงไม่มีดอกไม้สด
รุ่งเช้าก็ได้ไปสอบถามคนที่นั่นเขาก็บอกว่า บริเวณนั้นถึงจะมีปลูกดอกไม้ แต่ว่ากลิ่นของดอกไม้ก็ไม่น่าที่จะมาถึงบ้านหลังที่พวกเราอยู่ จึงเป็นเรื่องแปลกมาก
และในวันที่ 2 นี้เอง ขบวนของเราทั้งหมดก็ได้เดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.เลย เมื่อถึงวัดต่างคนต่างก็ช่วยกันจัดเตรียมข้าวของที่จะใส่บาตร พระสงฆ์ที่นี่มีจริยวัตรงดงามมาก เดินบิณฑบาตรมาเป็นแถว และไม่มองไปไกล ๆ แต่ว่ามองย่างก้าวที่ท่านจะเดินเท่านั้น
ในระหว่างนั้น ดิฉันได้ไปหยิบของในรถยนต์คันที่นั่งมา สายตาก็ไปเหลือบเห็นรอยถลอกตรงท้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุในการเดินทางของวันแรก ก็มาคิดได้ว่าคงจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ แต่ว่าพวกเราก็ไม่เป็นอะไร
และก็เดินทางไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ ที่มีในโปรแกรม
จนเย็นจึงเดินทางกลับที่พักบ้านหลังเดิมที่คืนแรกมาพักกัน
ในวันนี้ไม่มีกลิ่นดอกไม้เหมือนวันแรก แต่เป็นกลิ่นของไม้สัก ครอบครัวของดิฉันต่างคนต่างก็แยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวเสร็จ และก็เข้านอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย
จนกระทั่งกลางดึกของคืนที่ 2 นี้เอง ดิฉันได้ตื่นขึ้นมาในกลางดึกไม่ทราบว่ากี่โมงเพราะมืดมาก บรรยากาศข้างนอกมืดมากเลย สักพักนึงก็เห็นดวงแสงลอยผ่านไป
ก็นึกว่าสงสัยจะตาฝาด ไม่ยอมมอง พอหันกลับมาดูอีกครั้งก็ยังเห็นเป็นดวงแสงลอยผ่านไปเหมือนเดิม (สถาที่ที่เห็นในช่วงกลางวันเป็นเนินเขาไม่มีบ้านคน ไม่มีไฟฟ้า) ดิฉันรีบเข้านอน
จนกระทั่งเช้า วันที่ 3 ขณะที่กำลังหลับอยู่ก็ต้องตกใจตื่นในเวลาหกโมงเช้า เพราะได้ยินเสียงคุณแม่ในห้องน้ำร้องดังมาก คุณแม่เล่าให้ฟังว่าขณะที่กำลังแปรงฟัน และล้างหน้าอยู่เมื่อเหลือบมองไปข้างหน้าซึ่งฝาพนังจะเป็นกระจกใส เห็นเสือตัวใหญ่มาก ๆ เป็นสีขาวลายสลับสีเทา ดิฉันชวนคุณแม่ไปดู ก็ไม่ยอมออกไปดู กลัวเสือตัวนั้นยังอยู่
จนตอนสาย ๆ จึงได้ไปถามเจ้าของรีสอร์ทและคนที่พักอยู่แถวนั้น
เขาบอกว่าสมัยก่อนบนเขาค้อมีเสืออยู่จริง ๆ แต่ปัจจุบันไม่มีเสือแล้ว และในวันนี้ขบวนของเราก็เดินทางไปทำบุญกันต่อจนเสร็จ และต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
หลังจากกลับมาที่บ้านได้ประมาณสัก 2-3 วัน ดิฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาดลใจ เหลือบไปมองเห็นพระพุทธรูปที่บ้าน ที่อยู่บนโต๊ะหมู่บูชา
ปรากฎว่า มีรอยลึกในเนื้อพระพุทธรูปขนาดบูชาทองเหลืองทุกองค์
บางองค์ก็มีรอยลึกที่ใบหน้า บางองค์ก็มีรอยลึกที่ลำตัว
ส่วนพระพุทธรูปแก้วใส มีรอยร้าวที่ฐานของท่าน
ดิฉันตกใจมาได้นำเหตุการณ์นี้มาสอบถามผู้รู้ก็ได้ความว่า ในการเดินทางครั้งนี้รถยนต์คันที่นั่งจริง ๆ ต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ
เพราะว่าพระพุทธรูปที่อัญเชิญไปช่วยคุ้มครองให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ด้วยพุทธานุภาพไม่จำเป็นที่ทำให้เกิดรอยลึกและรอยร้าวบนพระพุทธรูป
แต่ถ้าไม่มีรอยให้เห็น ดิฉันก็คงไม่รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในการเดินทางครั้นนี้
ถ้าดิฉันไม่ได้เชิญท่านไปด้วย คนในครอบครัวของดิฉันที่นั่งรถไปด้วยกันก็คงไม่สุขสบายดีจนถึงทุกวันนี้ และตัวดิฉันก็คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องที่คุณแม่และดิฉันได้กลิ่นดอกไม้ในวันแรก ก็มารู้ภายหลังว่า พวกที่อยู่บริเวณนั้นมาต้อนรับพระพุทธรูปที่อัญเชิญไป
เรื่องที่ดิฉันเล่ามานี้เป็นเรื่องจริง ก็ขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อต้องการเผยแพร่พุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าว่ามีอยู่จริง
นี่เป็นเรื่องเพียงส่วนหนึ่งที่เธอมาเล่าสู่กันฟัง ก็หวังว่าจะมีโอกาสให้เธอมาเล่าให้ฟังอีกในโอกาสต่อไป
ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตามนุษย์อีกมากมาย
จึงควรหมั่นสร้างความดีไว้ให้กับตัวเองทุก ๆ วันที่มีโอกาส
ทุก ๆ คนรู้วันเกิด แต่ไม่รู้วันที่จะตายนะจะบอกให้
คนดีทำความดีง่าย ทำความชั่วยาก
ส่วนคนชั่วทำความเลวง่าย แต่ทำความดียาก
และสุดท้ายทุก ๆ คนโปรดจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
พบกันใหม่ในฉบับหน้า
ใครที่ต้องการเรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์ เรียนได้ทั่วประเทศ
หรือต้องการรับคำพยากรณ์ไพ่ยิปซี ทางโทรศัพท์ บริการทั่วประเทศ และทั่วโลก
ติดต่อได้ที่ 089-745-8432 หรือที่ akenutyos @ yahoo.co.th
อ่านบทความต่อไป กดอ่านที่ NEWER POST หรือ OLDER POST ด้านล่าง
ข้อความนี้ได้ลงในหนังสือ พุทธามหาเวท ฉบับที่ 22 มกราคม 2550
สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน เรามาพบกันอีกแล้วในไพ่ยิปซีเพื่อนคู่ชีวิต คงจะไปซักซ้อมและจดจำไพ่ยิปซีกันได้ไม่มากก็น้อย
และช่วงนี้เรามาเรียนรู้ประสบการณ์แปลก ๆ กันดีกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วของลูกศิษย์คนหนึ่ง
ซึ่งมาเล่าให้ฟังว่าจะไปทำบุญทอดกฐินที่ต่างจังหวัด ก็ได้บอกลูกศิษย์ว่า
ก่อนจะเดินทางไปต่างจังหวัด ให้อาราธนาพระพุทธรูปที่บ้านไปด้วย และขอให้คุ้มครองให้การเดินทางปลอดภัย และเธอก็ได้ทำตาม แต่ก็มีบางองค์ที่ไม่ได้อาราธนาไปก็คือเจ้าแม่กวนอิมเนื้อกังไส
เธอได้เล่าว่า ปกติทางครอบครัวของดิฉันซึ่งมีคุณพ่อ คุณแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ จะไปทอดกฐินที่วัดตามต่างจังหวัดเป็นประจำ
และในปีนี้ การเดินทางไปทอดกฐินในครั้งนี้มีกำหนด 3 วัน
แต่ครั้งนี้อาจารย์ของดิฉันก็ได้บอกว่า ให้อาราธนาพระพุทธรูปที่บ้านไปด้วย
ดิฉันก็สงสัยว่าจะไปทำบุญอยู่แล้วทำไมต้องอาราธนาพระพุทธรูปไปด้วย แต่ก็ทำตามคำที่
อาจารย์แนะนำ ด้วยความเป็นห่วงบ้าน ก็เลยไม่ได้อัญเชิญพระโพธิสัตย์ เจ้าแม่กวนอิมไปด้วย
โดยวันแรกที่เดินทางกันไปจุดแรกที่จะไปก็คือ วัดหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่วัดท่าซุง
จ.อุทัยธานี เนื่องจากการเดินทางออกสายไปนิดหนึ่ง ครอบครัวของเรา คือ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ชาย 2 คนและตัวดิฉัน ทั้งหมดรวม 5 คน จึงต้องรีบทำเวลาและใช้ความเร็วในการขับรถยนต์ให้มากขึ้น
ในระหว่างที่เดินทางมาได้ไกลพอสมควร คุณแม่ก็กำลังสวดมนต์ตามปกติ
และตัวดิฉันก็กำลังเคลิม ๆ จะหลับอยู่แล้ว
ขณะนั้นเองพี่ชายที่เป็นคนขับก็ใช้ความเร็วเพิ่มมากขึ้น แซงรถที่อยู่ข้างหน้า เมื่อพ้นแล้วก็หักพวงมาลัยเข้าข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว และในขณะนั้น.....
ดิฉันก็ตกใจตื่นเพราะรู้สึกเหมือนว่ารถถูกชน มันสั่นไปหมดทั้งคัน
แต่รถยนต์ ก็ยังคงขับต่อไปได้จนถึง แพรถยนต์ที่จะข้ามไป วัดท่าซุง
จึงได้รู้ว่าพี่ชายนัดกับเพื่อน ๆ ไว้หลายคน
เมื่อถึงวัดท่าซุงเราก็ได้ทำบุญกฐินจนเสร็จ และมีกำหนดจะไปทำบุญที่อื่นอีก
ก็สังเกตเห็นน้ำไหลอยู่ใต้ท้องรถยนต์ เหมือนกับว่าหม้อน้ำรถยนต์รั่ว
ก็คิดอยู่ว่าสงสัยจะไปไหนไม่ได้ซะแล้ว เพราะรถเสียแน่ ๆ เลย แต่ว่ามันเป็นเรื่องแปลกมาก ๆ เลยที่
รถยนต์คันที่นั่งสามารถแล่นต่อไปได้อีกหลายจังหวัดตามกำหนดการเดินทางเดิม
จนกระทั่งตอนเย็น ขบวนของเราก็มาถึงบ้านพักรีสอร์ท ที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
กว่าจะทานข้าวกันเสร็จ และเข้าบ้านพัก ก็เป็นเวลาค่อนข้างมืด ยังจำวันนั้นได้เป็นอย่างดี.....
ภายในบ้านพักที่ตกแต่งไว้ด้วยไม้สักสวยงามวิจิตรบรรจงมาก ตามสไตล์บ้านทรงไทย
แต่เป็นเรื่องแปลกมากที่เราทั้ง 5 คน เข้าไปในบ้าน มี
เพียงคุณแม่และตัวดิฉันเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้กลิ่นดอกไม้หอมอบอวลไปทั้งบ้าน
ทั้ง ๆ ที่ภายในบ้านและบริเวณใกล้เคียงไม่มีดอกไม้สด
รุ่งเช้าก็ได้ไปสอบถามคนที่นั่นเขาก็บอกว่า บริเวณนั้นถึงจะมีปลูกดอกไม้ แต่ว่ากลิ่นของดอกไม้ก็ไม่น่าที่จะมาถึงบ้านหลังที่พวกเราอยู่ จึงเป็นเรื่องแปลกมาก
และในวันที่ 2 นี้เอง ขบวนของเราทั้งหมดก็ได้เดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.เลย เมื่อถึงวัดต่างคนต่างก็ช่วยกันจัดเตรียมข้าวของที่จะใส่บาตร พระสงฆ์ที่นี่มีจริยวัตรงดงามมาก เดินบิณฑบาตรมาเป็นแถว และไม่มองไปไกล ๆ แต่ว่ามองย่างก้าวที่ท่านจะเดินเท่านั้น
ในระหว่างนั้น ดิฉันได้ไปหยิบของในรถยนต์คันที่นั่งมา สายตาก็ไปเหลือบเห็นรอยถลอกตรงท้ายรถที่เกิดอุบัติเหตุในการเดินทางของวันแรก ก็มาคิดได้ว่าคงจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง ๆ แต่ว่าพวกเราก็ไม่เป็นอะไร
และก็เดินทางไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ ที่มีในโปรแกรม
จนเย็นจึงเดินทางกลับที่พักบ้านหลังเดิมที่คืนแรกมาพักกัน
ในวันนี้ไม่มีกลิ่นดอกไม้เหมือนวันแรก แต่เป็นกลิ่นของไม้สัก ครอบครัวของดิฉันต่างคนต่างก็แยกย้ายกันทำธุระส่วนตัวเสร็จ และก็เข้านอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย
จนกระทั่งกลางดึกของคืนที่ 2 นี้เอง ดิฉันได้ตื่นขึ้นมาในกลางดึกไม่ทราบว่ากี่โมงเพราะมืดมาก บรรยากาศข้างนอกมืดมากเลย สักพักนึงก็เห็นดวงแสงลอยผ่านไป
ก็นึกว่าสงสัยจะตาฝาด ไม่ยอมมอง พอหันกลับมาดูอีกครั้งก็ยังเห็นเป็นดวงแสงลอยผ่านไปเหมือนเดิม (สถาที่ที่เห็นในช่วงกลางวันเป็นเนินเขาไม่มีบ้านคน ไม่มีไฟฟ้า) ดิฉันรีบเข้านอน
จนกระทั่งเช้า วันที่ 3 ขณะที่กำลังหลับอยู่ก็ต้องตกใจตื่นในเวลาหกโมงเช้า เพราะได้ยินเสียงคุณแม่ในห้องน้ำร้องดังมาก คุณแม่เล่าให้ฟังว่าขณะที่กำลังแปรงฟัน และล้างหน้าอยู่เมื่อเหลือบมองไปข้างหน้าซึ่งฝาพนังจะเป็นกระจกใส เห็นเสือตัวใหญ่มาก ๆ เป็นสีขาวลายสลับสีเทา ดิฉันชวนคุณแม่ไปดู ก็ไม่ยอมออกไปดู กลัวเสือตัวนั้นยังอยู่
จนตอนสาย ๆ จึงได้ไปถามเจ้าของรีสอร์ทและคนที่พักอยู่แถวนั้น
เขาบอกว่าสมัยก่อนบนเขาค้อมีเสืออยู่จริง ๆ แต่ปัจจุบันไม่มีเสือแล้ว และในวันนี้ขบวนของเราก็เดินทางไปทำบุญกันต่อจนเสร็จ และต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
หลังจากกลับมาที่บ้านได้ประมาณสัก 2-3 วัน ดิฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาดลใจ เหลือบไปมองเห็นพระพุทธรูปที่บ้าน ที่อยู่บนโต๊ะหมู่บูชา
ปรากฎว่า มีรอยลึกในเนื้อพระพุทธรูปขนาดบูชาทองเหลืองทุกองค์
บางองค์ก็มีรอยลึกที่ใบหน้า บางองค์ก็มีรอยลึกที่ลำตัว
ส่วนพระพุทธรูปแก้วใส มีรอยร้าวที่ฐานของท่าน
ดิฉันตกใจมาได้นำเหตุการณ์นี้มาสอบถามผู้รู้ก็ได้ความว่า ในการเดินทางครั้งนี้รถยนต์คันที่นั่งจริง ๆ ต้องเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ
เพราะว่าพระพุทธรูปที่อัญเชิญไปช่วยคุ้มครองให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ด้วยพุทธานุภาพไม่จำเป็นที่ทำให้เกิดรอยลึกและรอยร้าวบนพระพุทธรูป
แต่ถ้าไม่มีรอยให้เห็น ดิฉันก็คงไม่รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในการเดินทางครั้นนี้
ถ้าดิฉันไม่ได้เชิญท่านไปด้วย คนในครอบครัวของดิฉันที่นั่งรถไปด้วยกันก็คงไม่สุขสบายดีจนถึงทุกวันนี้ และตัวดิฉันก็คงไม่มีโอกาสมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเรื่องที่คุณแม่และดิฉันได้กลิ่นดอกไม้ในวันแรก ก็มารู้ภายหลังว่า พวกที่อยู่บริเวณนั้นมาต้อนรับพระพุทธรูปที่อัญเชิญไป
เรื่องที่ดิฉันเล่ามานี้เป็นเรื่องจริง ก็ขอนำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อต้องการเผยแพร่พุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าว่ามีอยู่จริง
นี่เป็นเรื่องเพียงส่วนหนึ่งที่เธอมาเล่าสู่กันฟัง ก็หวังว่าจะมีโอกาสให้เธอมาเล่าให้ฟังอีกในโอกาสต่อไป
ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตามนุษย์อีกมากมาย
จึงควรหมั่นสร้างความดีไว้ให้กับตัวเองทุก ๆ วันที่มีโอกาส
ทุก ๆ คนรู้วันเกิด แต่ไม่รู้วันที่จะตายนะจะบอกให้
คนดีทำความดีง่าย ทำความชั่วยาก
ส่วนคนชั่วทำความเลวง่าย แต่ทำความดียาก
และสุดท้ายทุก ๆ คนโปรดจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
พบกันใหม่ในฉบับหน้า
ใครที่ต้องการเรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์ เรียนได้ทั่วประเทศ
หรือต้องการรับคำพยากรณ์ไพ่ยิปซี ทางโทรศัพท์ บริการทั่วประเทศ และทั่วโลก
ติดต่อได้ที่ 089-745-8432 หรือที่ akenutyos @ yahoo.co.th
อ่านบทความต่อไป กดอ่านที่ NEWER POST หรือ OLDER POST ด้านล่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น