ร้านค้าออนไลน์
http://www.digitallife-shop.com/
http://www.albaniagirls.net/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.asktarot.co.cc/
ที่มาของผักคะน้า
แต่เดิมใน สมัยโบราณนานมาแล้ว ผักพื้นบ้านของประเทศไทยเรามีอยู่ไม่กี่ชนิดเอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น ผักบุ้ง ตำลึง พริกไทย ฯลฯ
ครั้นอยู่มาในยุคสมัยก่อนที่จะเริ่มก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในช่วงนั้นคนไทยยังอยู่กันกระจัดกระจายตามหัวเมืองต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น เชียงใหม่ , นครสวรรค์ , พิษณุโลก , ปากช่อง และลาดปลาเค้า
ต่อ มาเมื่อกษัตริย์ของไทยได้เริ่มก่อตั้งเมืองสุโขทัยขึ้นมาเป็นเมืองหลวง เพื่อรวบรวมให้หัวเมืองต่าง ๆ เข้ามาอยู่ภายใต้ราชอาณัติของเมืองสุโขทัย ความเจริญก้าวหน้าและวิวัฒนาการต่าง ๆ จึงได้เกิดขึ้นตามมาเรื่อย ๆ
ในช่วงนั้นเอง ที่เริ่มมีพวกฝรั่งจากทางตะวันตกเข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับกรุงสุโขทัยมากขึ้น วัฒนธรรมการกินและอาหารรูปแบบใหม่ ๆ ก็ได้เข้ามาในประเทศของเรา โดยสิ่งหนึ่งที่ชาวฝรั่งจากทางตะวันตกนำเข้ามาก็คือ หมูกรอบ นั้นเอง
ในสมัยก่อนคนไทยยังไม่รู้จักวิธีการทำหมูกรอบเลย คนไทยรู้จักแต่วิธีการเชือดหมูเพื่อเอามาต้ม เอามาทำแกง หรือเอามาผัดกับผักประเภทต่าง ๆ จน กระทั่งมีท่านทูตชาวฮอลันดาคนหนึ่ง นำวิธีการทอดหมูด้วยน้ำมันพืชมาสอนให้แก่แม่ครัวคนไทย คนไทยเลยเริ่มรู้จักหมูกรอบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พอเริ่มมีหมูกรอบ เข้ามา คนไทยก็หาทางกินหมูกรอบให้อร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีที่จะกินหมูกรอบให้อร่อยก็คือเอาหมูกรอบไปผัดรวมกับผักชนิดต่าง ๆ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ผักพื้นเมืองของคนไทยเป็นผักใบอ่อนเสียส่วนใหญ่ เมื่อนำมาผัดรวมกับหมูกรอบที่มีความแข็งแล้ว กว่าที่หมูกรอบจะสุกได้ที่ก็จะทำให้ผักเหล่านั้นเหี่ยว ย่น ไม่น่ารับประทานเท่าที่ควร
และแล้วในวันหนึ่งทิดอ๋า (ซึ่ง ภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาเกษตรเจริญอ๋า ผู้เป็นกรมหมื่นเจ้านาคนแรก ที่มีศักดิ์เทียบเท่ากับอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบันนี้เอง) ทิดอ๋าได้ทดลองค้นคิดที่จะปลูกผักประเภทใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อให้คนไทยได้กินกัน โดยทิดอ๋าได้ลองเอาผักพื้นเมืองประเภทต่าง ๆ ของไทยมาทำการติดตา , ทาบกิ่ง , ต่อยอด , มัดรวม เพื่อนำเนื้อเยื่อไปทำการปลูกขึ้นมาใหม่ สำหรับพัฒนาสายพันธุ์ผักประเภทใหม่ขึ้นมาให้ได้
จนกระทั่งวันหนึ่งทิดอ๋าก็สามารถเพาะพันธุ์ผักประเภทใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จ
โดย ผักที่ทิดอ๋าเพาะพันธุ์ขึ้นมาได้ใหม่นี้ ลำต้นเป็นสีเขียวมีความแข็งที่เปลือกนอก แต่มีเนื้ออ่อนนุ่มที่เนื้อก้านใบข้างใน ซึ่งใบของผักชนิดนี้จะเป็นใบใหญ่ มีสีเขียวเข้ม และมีความกรอบซ่อนอยู่ในใบด้วย
ในการนี้เองทำให้ทิด อ๋าดีใจเป็นอย่างมาก ทิดอ๋าจึงให้แดงต้อย ผู้เป็นบุตรสาวของเขา นำผักชนิดใหม่นี้ไปให้แก่ อำแดงอวบ ผู้เป็นน้องเมียของเขาที่อยู่ต่างเมือง (ซึ่งในภายหลัง อำแดงอวบ ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น คุณผู้หญิงอวบอั๋น โดยทำหน้าที่เป็นนางกองแม่ครัวในวังหลวง ซึ่งเทียบเท่ากับผู้อำนวยการสำนักงานโภชนาการในปัจจุบันนี้เอง) เพื่อที่จะได้ลองกินผักชนิดใหม่นี้ดู
ทิดอ๋า "แดงต้อย เอาผักนี้ไปให้น้องสาวแม่เอ็งเร็ว"
แดงต้อย "ได้ค่ะ ... พ่อ"
แล้ว แดงต้อยก็รีบออกเดินทางไปยังต่างเมือง เมื่อแดงต้อยได้เดินทางไปถึงบ้านของอำแดงอวบที่เป็นน้องเมียของคุณพ่อเธอ แล้ว เธอก็รีบยื่นผักประเภทสายพันธุ์ใหม่นี้ให้แก่ผู้เป็นน้าสาวของเธอในทันที
อำแดงอวบ "อ้าว ... แดงต้อยมาหาน้าเหรอ? ทำไมรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาขนาดนี้เลยล่ะ?"
แดงต้อย "คุณพ่อให้รีบเอามาให้ค่ะ"
อำแดงอวบ "อะไรล่ะ?"
แดงต้อย "ผักค่ะ ... น้า"
อำแดงอวบ "แดงต้อย หลานเอาอะไรมาให้น้านะ?"
แดงต้อย "ผักค่ะ ... น้า คุณพ่อให้เอามาให้ค่ะน้า"
อำแดงอวบ "ผักคะน้าเหรอ? ชื่อแปลกดีจังเลย ไหนลองเอามาผัดกับหมูกรอบดูสิ"
แล้วอำแดงอวบก็เอาผักสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า "ผักคะน้า" ไปทดลองผัดกับหมูกรอบในทันที หลังจากนั้นเป็นต้นมา คนไทยเราก็ได้กินเมนูอาหารยอดอร่อยก็คือ ผัดคะน้าหมูกรอบ เรื่อยมา
และผักสายพันธุ์ใหม่ ที่มีชื่อว่า "ผักคะน้า" ก็กลายเป็นผักพื้นบ้านของไทยเราตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเช่นกันครับ
จบล่ะ ...555555+
เรียนไพ่ยิปซีทางโทรศัพท์ 20 ชม.3900 บาท โทร 089-7458432
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น