วันเสาร์ที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ดูดวง ไพ่ยิปซีทั่วโลก-เรื่องย่อ บ้านนาคาเฟ่

แจกของขวัญปีใหม่2553 พระผงจักรพรรดิ์ และลูกแก้วจักรพรรดิ์ ถึง 10/1/53-เรื่องย่อ บ้านนาคาเฟ่

เป็นละครเพลง ในสไตล์คันทรีส่งเสริมอาชีพชุมชน และส่งเสริมให้คนในชุมชนรักบ้านเกิด เป็นเรื่องราวความรักของสาวบ้านนา กับ ทายาทเศรษฐี ที่มีบรรยากาศของ ท้องทุ่ง สายลมและ แสงแดดเป็นพยาน

ดล (น้ำ – รพีภัทร เอกพันธ์กุล) หนุ่มทายาทเสี่ยเจ้าของกิจการส่งออกแถวหน้า ได้รับโทรศัพท์จากบิดาเรียกตัวให้รีบบินกลับเมืองไทยกะทันหัน เมื่อไปถึงคฤหาสน์ เลิศมหาดำรงสกุล ก็ได้พบว่า เสี่ยดิเรก ผู้เป็นพ่อก็ได้หลบหนีเจ้าหนี้ไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้แต่จดหมายสั่งเสียกับแผนที่อีก 1 ฉบับระบุให้ดล เดินทางไปที่หมู่บ้านโคกสำราญ เพื่อขอความช่วยเหลือจาก ผู้ใหญ่ยิ้ม เพื่อนรัก เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยง ดลจำต้องเดินทางไปที่โคกสำราญ ในสภาพที่ทรหดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะหนทางเพื่อไปสู่หมู่บ้านโคกสำราญนั้นทุรกันดารเป็นอย่างมาก แต่ต่อให้ดลวาดภาพโคกสำราญไว้เลวร้ายขนาดไหน ก็ไม่สามารถเทียบได้กับความเป็นจริงที่เขาต้องเผชิญและยอมรับให้ได้ว่า ต้องอยู่กับมันไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยความโกรธ เมื่อเขาถึงทางที่พอจะเร่งเจ้ารถคันงามของเขาได้ ดลเหยียบคันเร่งจนสุดและทำให้เจ้ารถคู่ชีพคันงามพุ่งทะยานราวจรวด เกือบจะเสยเข้ากับเกวียนของหลานสาวผู้ใหญ่ยิ้ม นามว่า หวานใจ (กระติ๊บ-ชวัลกร) สาว น้อยบ้านนา อายุ 18 พ่อตายตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่ทิ้งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วหายสาบสูญไป จึงต้องอยู่กับผู้ใหญ่ยิ้มผู้เป็นลุงตั้งแต่เด็ก จึงรักลุงเหมือนพ่อ ถูกฝึกให้ทำทุกอย่างได้เหมือนผู้ชาย รักบ้านเกิดมาก เป็นครูของโรงเรียนโคกสำราญ ใน ช่วงวิกฤต ดลหักรถหลบควาย จนทำให้เจ้ารถคันงามก็ไปสิ้นฤทธิ์อยู่ที่ใต้ต้นไทรและเขาได้หมดสติลงในทันที แต่อย่างน้อยหวานใจก็พาร่างที่ไร้สติของดลมายังโคกสำราญจนได้ในท้ายที่สุด

โคก สำราญเป็นหมู่บ้านเล็กๆ อันที่จริง การไร้ซึ่งความเจริญนี้มีเหตุผลที่เข้าใจได้ ทั้งนี้ก็เพราะนายชัย เจ้าของโรงงานผลไม้กระป๋องที่ใช้เงินซื้อเสียงจนก้าวมาเป็นอบต. บิดาของบัวตูม (โอ๋-รุ่งระวี) บัวบาน (น้ำหวาน-ลาวัลย์) สองศรีพี่น้อง ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นดาว ได้ใช้ความสามารถทุกวิถีทางที่จะยึดหมู่บ้านนี้ให้มาเป็นของเขาให้ได้ แต่ทั้งนี้หมู่บ้านนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่ยิ้มที่ไม่ใช่ผู้ใหญ่บ้านธรรมดา ที่จะยอมใครได้ง่ายๆ ในอดีต ยิ้มเป็นคนแรกของหมู่บ้านที่ลุยเข้าเมืองหลวงเก็บหอมรอมริบจนเป็นเจ้าของ คาเฟ่ที่เริ่มจากเล็กๆจนใหญ่โตที่มีชื่อว่า บ้านนาคาเฟ่ ยิ้มได้พบรักและแต่งงานกับ สาลิกา (ฮันนี่-ภัสสร) หนึ่งในนักร้องแม่เหล็กที่สามารถเรียกแขกเข้ามาฟังเพลงจากเธอจนแน่นขนัดและ ในคาเฟ่ของเขายังได้ ครูนวล (โย่ง เชิญยิ้ม) ผู้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวงลูกทุ่งที่สอนและสร้างนักร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วย ความสามารถ อีกทั้งยิ้มยังได้ ทับ (ดอน จมูกบาน) และชู (ชูศรี เชิญยิ้ม) ตลกของคาเฟ่ที่เรียกเสียงหัวเราะจากแขกได้ทุกค่ำคืน

ใน ครั้งนั้น ยิ้มกับลูกน้องต่างเสพสุขกันมากอย่างน่าอิจฉา จนกระทั้งวันหนึ่ง เมื่ออิทธิพลมืดเข้ามาบีบบังคับให้ยิ้มขายคาเฟ่ให้ แต่ยิ้มไม่ยอม แต่ช่างเป็นโชคที่ลูกค้าผู้ร่ำรวยและเมตตาคนหนึ่ง ซึ่งก็คือเสี่ยดิเรกได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเคลีย์ปัญหาให้จนทำให้เขาและลูก น้องสามารถรอดชีวิตมาได้แต่ก็ลำบากยากจนถึงกับหมดเนื้อหมดตัว และก็เสี่ยดิเรกอีกนั้นเองที่หยิบยื่นเงินก้อนหนึ่งให้กับยิ้ม จนทำให้เขาอพยพลูกน้องกว่าห้าสิบครอบครัวอพยพมาปักหลักปักฐานกันที่หมู่บ้าน แห่งนี้ ยิ้มและลูกบ้านของเขาได้เรียนรู้ความจริงที่ว่าเมืองกรุง ที่ดูมีเสน่ห์นั้นแฝงไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและมนุษย์ที่มากไปด้วยกิเลส สังคมชนบทที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแท้ที่จริงแล้วนั้นคือสังคมที่สมบูรณ์ ที่หล่อหลอมมนุษย์จนมีจิตใจที่ดีงาม

ดังนั้น ยิ้มและลูกบ้านของเขาจึงตั้งใจที่จะรักษาให้หมู่บ้านอยู่ในสภาพใกล้ธรรมชาติ ที่สุด แต่อย่าได้เข้าใจผิดว่าชีวิตในโคกสำราญไร้สีสัน ยิ้มและลูกบ้านที่เป็นลูกหลานของนักร้อง นักดนตรีและตลกต่างก็ช่วยกันได้สร้างบรรยากาศของบ้านนาคาเฟ่ให้เกิดขึ้นทุก คืนวัน จึงเป็นที่เข้าใจได้ถึงความจริงข้อที่ว่าแม้นายชัยจะใช้แผนร้ายประการใด ก็ไม่อาจแผ่อิทธิพลชั่วเข้าสู่หมู่บ้านของผู้ใหญ่ยิ้มได้เลย แต่ คนอย่างชัยก็ไม่เคยยอมแพ้ เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ชัยจึงใช้อำนาจในนามนายกอบต.หาทางกลั่นแกล้งหมู่บ้านของยิ้มทุกวิถีทาง เพื่อบีบให้หมู่บ้านของยิ้มเป็นถิ่นกันดารจนไม่น่าจะมีผู้คนทนอยู่ได้ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ แผนการร้ายของชัยไม่อาจทำอันตรายต่อยิ้มและลูกบ้านของเขาให้รู้สึกท้อถอยลง ได้เลย

ขณะที่ ดล สลบไปเขากำลังฝัน และเป็นความฝันที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในฝันเขากำลังอยู่ในคลับหรูต่างแดนที่แวดล้อมไปด้วยสาวสวยมากหน้าหลายตา แต่เมื่อแหม่มสาวอ้าปากพูด กลับเอื้อนเอ่ยเป็นภาษาถิ่นอิสานของไทยเราอย่างคล่องปาก พวกฝรั่งก็เว้าลาวกันอย่างอื้ออึงจนทำให้ ดลสติกลับ คืนมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่า รอบตัวของเขานั้นเต็มไปด้วยพวกบ้านนอกคอกนา แต่ในขณะที่เขากำลังจะกรีดร้องด้วยความสยดสยอง เสียงแตรวงของผู้ใหญ่ยิ้มที่มารอรับก็แผดเสียงขึ้น แต่ที่สะดุดตาที่สุด ก็เห็นจะเป็นใบหน้าคมคายของ หวานใจ หลานสาวของผู้ใหญ่ยิ้มที่พยายามปฐมพยาบาลดลด้วยวิธีต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว ดลพบว่า ทุกคนในหมู่บ้านแสดงท่าทีดีใจมาก ที่ได้ต้อนรับเขา โดยเฉพาะผู้ใหญ่ยิ้ม ซึ่งบอกดลว่า เสี่ยดิเรกเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายที่มีพระคุณกับผู้ใหญ่ยิ้มอย่างมาก และดิเรกได้เคยส่งเงินก้อนนึงมาให้ผู้ใหญ่ยิ้มซื้อที่เอาไว้แปลงหนึ่งเพื่อ จะได้มาอยู่ในบั้นปลายชีวิต ดลเริ่มมีความหวังขึ้นมาทันที อย่างน้อย พ่อก็ยังทิ้งสมบัติเอาไว้ให้เขาบ้าง แต่เมื่อดลได้เห็นที่ดิน ใจที่เริ่มพองฟูก็แฟบลงทันที เพราะที่ดินห้าสิบไร่ที่ผู้ใหญ่ยิ้มภูมิใจนำเสนอนั้น คือที่ดินล้วนๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดใด นอกจากเพิงเล็กๆ กับต้นไม้ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง

ดล โวยวายขอขายที่คืน เพื่อเอาเงินกลับกรุงเทพฯ ทำให้หวานใจ ไม่พอใจอย่างมากเพราะสำหรับหวานนั้น ที่ดินของดลเป็นที่ในฝันที่หวานแอบวาดหวังว่า หากมันเป็นของหวานหวานจะพรวนดินหว่านไถ และสร้างให้มันเป็นผืนดินที่สมบูรณ์และน่าอยู่ที่สุด แต่สำหรับดลมันกลับเป็นของที่ไร้ค่า ผู้ใหญ่ยิ้มรับปากว่าจะหาเงินมาให้ดล ดลตีอกชกลมว่าเขาไม่สามารถทนอยู่ในที่อันล้าสมัยได้เลยแม้เพียงวันเดียว และขอให้ยิ้มหาทางขายที่ดินของเขาให้ได้จนหวานรำคาญ คิดแผนจะดัดนิสัยดล โดยสัญญาว่าจะหาคนมาซื้อที่ดินต่อจากดลให้อย่างเร็วที่สุด แต่ดลต้องทำให้ที่ดินเป็นที่ที่ดูดีมีค่ากว่าที่เป็นอยู่โดย เข้าไปถากถาง ปลูกพืชไร่ และสร้างบ้านในที่ดิน แสดงความภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ เพื่อให้คนเห็นแล้วอยากจะซื้อ ดลหลงกลรับปาก และขอให้หวานเป็นพี่เลี้ยงบุกเบิกที่ดินร่วมกับเขาและเขาจะจ่ายค่านายหน้า ให้อย่างงามซึ่งหวานก็แกล้งตอบตกลงเพื่อให้ดลตัดสินใจอยู่โคกสำราญต่อตามแผน

หวานได้พบว่า ดลเป็นผลิตผลคนเมืองที่ไร้คุณภาพอย่างที่สุด ทั้งจับจด เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เป็นทาสเทคโนโลยี ขณะ ที่ดลก็รู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในยุคก่อนกรุงศรีอยุธยาแตก แต่สิ่งที่ทำให้ดลเกือบจะเป็นบ้าก็คือ แทบทุกคนในโคกสำราญนั้นไม่มีใครเดือดเนื้อร้อนใจกับสภาพความลำบากในชีวิตเลย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังอารมณ์ดีจนเกินกว่าเหตุ ในแต่ละวัน ดล ต้องกลายเป็นเกษตรกรจำเป็น ผจญทั้งภัยธรรมชาติ ทะเลาะเบาะแว้งกับหวาน ขณะเดียวกันดลก็ค่อยๆได้ซึมซับถึงวิถีชีวิตของชาวชนบทที่เรียบง่าย งดงามโดยไม่รู้ตัวรวมทั้ง ได้เห็นการแก้ปัญหาให้ลูกบ้านโดยใช้หลักเมตตาของผู้ใหญ่ยิ้ม ที่สำคัญดลยังได้ซาบซึ้งถึงความรัก ความผูกพันระหว่างผู้คนในหมู่บ้านที่พร้อมจะเผชิญความทุกข์ยากและฝ่าฟัน ปัญหาต่างๆไปด้วยกันโดยไม่เคยคิดจะทอดทิ้งแผ่นดินถิ่นเกิด

เมื่อทางการขอให้โคก สำราญ ซึ่งเป็นตำบลเดียวที่ไม่เคยมีสินค้าโอท็อป ส่งสินค้าของตนเข้าประกวด และหวานก็เห็นว่าจะเป็นทางเดียวที่สามารถบีบให้ชัยต้องเจียดงบมาสนับสนุน สินค้านี้ และเป่าประกาศขอให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างสรรสินค้าโอท๊อปของหมู่บ้าน แต่ ชัยก็หาทางสกัดดาวรุ่งโดยอ้างว่าสินค้าเหล่านั้นล้วนเป็นโอท๊อปของที่อื่น ทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว แต่คนในโคกสำราญก็ยังไม่สิ้นหวัง สร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีใครนึกฝันระดับปฐม อีกทั้งดลยังใช้ความรู้ความสามารถของเขา ช่วยชาวบ้านคิดประดิษฐ์สินค้าโอท๊อป อีกจำนวนหนึ่งซึ่งถึงแม้มันจะดูไม่เข้าท่า แต่การอุทิศกายใจให้กับชาวบ้าน ทำให้เขาต้องเกือบเอาชีวิตไม่รอด เช่นกรณี ของข้าวหลามดิลิเวอรี่ก็ทำให้หวานเริ่มเปิดใจให้กับเขา

ขณะที่ความสัมพันธ์ของเขา และหวานกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี พ่อของดลในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัวก็ปรากฏกายขึ้นเพื่อขอให้ลูกชายหัวแก้วหัว แหวนพยายามหาเงินสดก้อนใหญ่เพื่อให้เขาไปชำระหนี้เพื่อที่จะกลับมายืนหยัด ได้อีกครั้งซึ่งเมื่อเขาขอความช่วยเหลือจากดลเสร็จแล้วก็ต้องรีบหลบหนีการ ตามล่าจากบรรดาเจ้าหนี้และเงื้อมมือของกฏหมายต่อไป ดลสงสารพ่อ และกำลังมืดแปดด้านจึงจำเป็นต้องหันหน้าไปพึ่ง ชัย ผู้หมายมั่นปั้นมือที่จะยึดหมู่บ้านของยิ้มให้ได้ ซึ่งชัยปฏิเสธที่จะซื้อที่ของดลโดยอ้างว่า ถึงแม้จะเป็นที่ๆสวยงามเพียงไรแต่ ขนาดไม่พอที่เขาจะสามารถทำประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เขาต้องการที่จะกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากจากบรรดาชาวบ้าน และถ้าดลสามารถโน้ม น้าวจิตใจของลูกบ้านให้ขายที่ดินให้กับเขาได้ เขาจะสมนาคุณให้กับดลอย่างงามด้วยเงินก้อนใหญ่ ที่จะสามารถช่วยปัญหาของพ่อ ของดลได้ ดลรู้สึกเป็นห่วงว่าชัยจะเอาที่ดินไปทำอะไรแต่ชัยสังเกตุเห็นรีบออกตัวว่า เขามีแผนที่จะพัฒนาโคกสำราญให้เป็นแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่เพื่อป้อนวัตถุดิบ ให้กับโรงงานผลไม้กระป๋องของเขา และจะทำให้ชาวบ้านมั่งคั่งมากขึ้นซึ่งทำให้ ดลสบายใจที่ได้ยินเช่นนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้เท่ากับทรยศยิ้มและทรยศความไว้วางใจที่หวานมี ให้กับเขา

แต่ด้วยความสงสารพ่อ ดลจำเป็นต้องทำตามที่ชัยขอร้อง ดลวางแผนพาเพื่อนๆ ในหมู่บ้านไปค้นพบความศิวิไลท์ที่เมืองกรุงจนทำให้หลายๆ คนเผลอหลงไปกับแสง สี เสียง เมืองกรุง จนกลับมาคิดขายที่นา สวนของตนเพื่อไปอยู่กรุงเทพ หวานใจรู้ว่าทั้งหมดดลเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้หวานใจเสียใจมาก และออกปากไล่เขาให้ออกไปจากหมู่บ้านของเธอ ด้วยความเสียใจที่ทำให้หวาน ผู้หญิงที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเสียใจ ดลตัดสินใจสวนกระแสเปลี่ยนใจ ไม่ขายที่ดินให้กับชัยและเมื่อเขาไปพบชัย เขาได้พบกับความจริงโดยบังเอิญว่าแท้ที่จริงแล้ว

เขาถูกชัยหลอกมาตั้งแต่ต้น ชัยตั้งใจจะสร้างโรงงานเครื่องกระป๋องในที่ดินของหมู่บ้านโคกสำราญในทันที ที่เขานำเอาไฟฟ้า และประปาที่เป็นเงินหลวงมาพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้และหมู่บ้านของยิ้มจะกลาย เป็นที่ทิ้งกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมจนสภาพแวดล้อมจะกลายเป็นพิษ ดล ที่รู้ตัวว่าผิดไปแล้วเขาต้องหาทางที่จะต่อสู้กับชัยเพื่อรักษาหมู่บ้านของ หญิงคนรักที่สอนให้เขารู้จักกับความสวยงามของความพอเพียง เพื่อทำให้โคกสำราญกลับมามีความสุขเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาโดยใช้ชีวิตเป็น เดิมพัน ติดตามความสนุกได้ในละครบ้านนาคาเฟ่

ร้านค้าออนไลน์
http://www.albaniagirls.net/
http://www.asktarot.co.cc/
http://www.belizegirl.co.cc/
http://www.digitallife-shop.com/

ไม่มีความคิดเห็น: